สุดสัปดาห์ทีผ่านมาเป็นการแข่งขันสนามชิงแชมป์โลกวันแรกกับประเภท Team Time Trial ทั้งชายและหญิง มาดูกันว่าทีมไหนได้อันดับเท่าไร พร้อมวิดีโอไฮไลท์และข่าวที่น่าสนใจประจำสัปดาห์นี้ครับ
* * *
1. Etixx-Quickstep ทวงบัลลังก์แชมป์โลก Team Time Trial
ประเดิมแชมป์โลกรายการแรกกันด้วยผลงานของทีม Etixx-Quickstep ที่ทำเวลาดีที่สุดในคอร์ส 40 กิโลเมตรในเมืองโดฮาด้วยความเร็ว 56.4 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เร็วกกว่าแชมป์เก่าสองสมัย BMC Racing +12 วินาที และ Orica-BikeExchange +37 วินาที และเป็นแชมป์โลกครั้งที่สามของทีม หลังจากที่เคยได้แชมป์ในปี 2012 และ 2013
สมาชิกของทีมประกอบด้วย: โทนี มาร์ติน, อีฟ แลมพาร์ท, มาร์เซล คิทเทล, บ็อบ ยุงเกลส์, นิกี้ เทิร์ปสตร้า และจูเลียน เวอร์โมท
โทนี มาร์ตินหัวหน้าทีมให้สัมภาษณ์หลังแข่ง: “เราทำงานร่วมกันเป็นทีม สู้กับตัวเองออกแรงกันเต็มที่ครับ มันเป็นชัยชนะที่พิเศษมากเพราะมันเป็นการแข่งครั้งสุดท้ายของผมกับทีมนี้ ผมแข่ง TTT ชิงแชมป์โลกกับทีมนี้ทุกครั้งตั้งแต่ปี 2012 แต่ครั้งนี้มันพิเศษกว่าครั้งไหนๆ”
2. Boles Dolmans คว้าแชมป์โลก Team Time Trial หญิง
สำหรับประเภทหญิง Boles-Dolmans ทุบสถิติแชมป์โลก 4 สมัยของทีม Canyon-SRAM ได้สำเร็จ และเป็นการคว้าแชมป์โลกครั้งแรกของทีม
Boles-Dolmans ปั่นจบคอร์ส 40 กิโลเมตรด้วยความเร็ว 49.3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลา 48:42 นาที เร็วกว่าอันดับสอง Canyon-SRAM +48 วินาที และเร็วกว่าอันดับสาม Cervelo Bigla +1:09 นาที
3. นักปั่นเจอฮีทสโตรกในสนามชิงแชมป์โลก
ด้วยอุณหภูมิร่วม 40 องศาเซลเซียส ระหว่างการแข่งชิงแชมป์โลก Team Time Trial นักปั่นหลายคนต้องเจอสภาวะฮีทสโตรกจนล้ม ชน อาเจียน และปั่นต่อไม่ไหว น่าสนใจว่าพลวัตรนี้จะมีผลยังไงต่อการแข่งขันประเภทถนนที่ระยะทางยาวเกินสองร้อยกิโลเมตรและนักปั่นต้องอยู่ในสนามร่วม 6-7 ชั่วโมงครับ
https://twitter.com/CyclingHubTV/status/785094919719378944
https://twitter.com/CyclingHubTV/status/785101638948315136
https://twitter.com/CyclingHubTV/status/785100359945613312
4. ทีมชาติไทยก็ลงแข่งชิงแชมป์โลก Time Trial ด้วย
หลายคนอาจจะไม่รู้แต่ ประเทศไทยก็ส่งนักปั่นลงแข่งชิงแชมป์โลกด้วยเช่นกันครับในประเภท Individual Time Trial U23 ชาย ลงแข่งวันนี้ ติดตามอัปเดตของทีมชาติไทยได้ที่เฟซบุ๊คของโค้ช ตั้ม วิสุทธิ์ กสิยะพัท ข้างล่างนี้ครับ
5. เฟอร์นันโด กาวิเรียคว้าแชมป์ Paris-Tours
เฟอร์นันโด กาวิเรีย ดาวรุ่งสปรินเตอร์โคลอมเบียจาก Etixx-Quickstep โชว์ฟอร์มโหดอีกครั้งเมื่อคืนนี้ในสนามคลาสสิคสำหรับสปรินเตอร์ รายการ Paris-Tours ระยะทาง 252 กิโลเมตร แต่ชัยชนะของเขาไม่ใช่การสปรินต์กลุ่มแบบที่คุณคุ้นเคยครับ
กาวิเรียออกโจมตีกลุ่มสปรินเตอร์ที่หน้าเส้นชัยที่ 700 โมตรสุดท้าย เป็นการสปรินต์แช่ยาวจนถึงเส้นชัยกับความเร็วที่แม้แต่สปรินเตอร์ระดับโลกทั้งเปโลตองยังไล่ตามไม่ทัน อาร์นอร์ด เดอแมค์ (FDJ) ทำได้เพียงอันดับสอง และโจนาส แวน เกร็ทเชน (IAM) ได้อันดับสาม และตัวเต็งอย่างมาร์ค คาเวนดิช (Dimension Data) ก็ทำได้เพียงอันดับ 6
“มันเป็นชัยชนะที่งดงามที่สุดในชีวิตผมครับ ผมรู้ว่ามันเป็นสนามที่เก่าแก่มาก (110 ปี) มันทำให้ผมอยากชนะ เป็นสนามแข่งที่ยากและเร็วครับ แต่ผมรู้สึกเหลือแรงเยอะก่อนถึงเส้นชัย ผมอาศัยจังหวะเข้าโค้งสุดท้ายขึ้นนำกลุ่มเพราะผมรู้ว่ามันจะทำให้กลุ่มลดความเร็วลงนิดหน่อย ทันทีที่ผมโจมตี ผมซัดเต็มที่จนถึงเส้นชัยเลย”
https://twitter.com/CyclingHubTV/status/785126734492475392
6. Colnago เตรียมกลับเข้าสู่ดิวิชัน 1 ในฤดูกาลหน้า
ถึงจะหายหน้าหายตาไปจากวงการโปรทัวร์ระดับสูงสุดหลายปี แต่ฤดูกาลหน้า Colnago ก็จะกลับมาอีกครั้งหลังจากเซ็นสัญญา 4 ปีกับทีมใหม่ TJ Sport (ที่ซื้ออดีต Lampre-Merida) ไป
TJ Sport เป็นกลุ่มทุนจากประเทศจีนที่ต้องการผลักดันนักปั่นจีนให้เข้าสู่วงการแข่งขันอาชีพระดับสูงสุด และเริ่มโปรเจ็คด้วยการซื้อโปรทีมระดับดิวิชัน 1 ซึ่งผู้จัดการของทีมมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเออร์เนสโต้ โคลน้าโก้มากว่า 40 ปี
Colnago ไม่มีจักรยานในโปรทีมดิวิชัน 1 ตั้งแต่ที่ทีม Europcar (ปัจจุบัน Direct Energie) หล่นดิวิชัน
Via: Cyclingnews
7. BMC ได้สปอนเซอร์ใหม่แล้ว
As TAG Heuer becomes #OfficialTimekeeper of @BMCProTeam, managers and riders discovered their New TAG Heuer Connected Watch. pic.twitter.com/kcXsUDEsHq
— TAG Heuer (@TAGHeuer) October 8, 2016
สัปดาห์ที่แล้วมีข่าวดีสำหรับทีม BMC เมื่อทีมได้สปอนเซอร์ใหม่เป็นแบรนด์ชื่อดัง นาฬิกา Tag Heuer ที่จะมาช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของทีมกว่าปีละ 700 ล้านบาท ที่จ่ายโดยเจ้าของทีมทุนหนาแอนดี รีส์เพียงคนเดียวตั้งแต่ปี 2007
ปัจจุบันทีม BMC มีนักปั่นตัวท็อปในสังกัดหลายคน ไม่ว่าจะเป็นแชมป์โอลิมปิกเกร็ก แวน เอเวอร์มาร์ท, ริชีย์ พอร์ท, ทีเจย์ แวนการ์เดอเรน และนิโคลาส โรช
รีส์กล่าวว่า Tag Heuer เป็นพาร์ทเนอร์ที่เหมาะสม เพราะมีปรัชญาการทำงานตรงกับทีม BMC ในคติ “Don’t Crack Under Pressure” และ “เวลา” ก็เป็นหัวใจของการแข่งขันจักรยานอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการแข่งแบบ Time Trial หรือ Road Race ก็ตาม เป้าหมายยังคงเป็นการปั่นให้เร็วที่สุดและใช้เวลาน้อยที่สุด
Via: TagHeuer.com
