1. Giro Stage 21: ดูโมลานคว้าแชมป์รายการ
ทอม ดูโมลาน (Sunweb) สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นชาวดัทช์คนแรกที่คว้าแชมป์นรายการ Giro d’Italia ได้สำเร็จ เขาอาศัยความเชี่ยวชาญในการปั่นจับเวลา (Time Trial) ทำเวลาแซงคู่แข่งตัวเต็งสามคนที่อันดับเวลาดีกว่าในสเตจสุดท้ายของรายการที่จบกลางกรุงมิลาน ประเทศอิตาลี
ดูโมลานเริ่มสเตจด้วยเวลาตามหลัง คินทานา +53 วินาที และอยู่ในอันดับ 4 ของตารางเวลารวม นิบาลีที่ +39 วินาที และทิโบต์ พิโนท์ (FDJ) ที่ +43 วินาที
ไนโร คินทานา (Movistar) เป็นผู้นำเวลารวมก่อนลงแข่งสเตจสุดท้าย แต่ป้องกันเสื้อชมพูไม่ได้ เสียเวลาให้ดูโมลานในสเตจนี้ 1:39 นาที ทำให้อันดับเวลารวมหล่นไปอยู่อันดับสอง ตามหลังดูโมลานในตารางเวลารวม +31 วินาที ส่วนแชมป์เก่าสองสมัย วินเชนโซ นิบาลี (Bahrain-Merida) รั้งอันดับสาม จบรายการที่ +40 วินาทีตามหลังเอซจากทีม Sunweb
นอกจากจะได้แชมป์รายการชาวดัทช์แล้ว แชมป์สเตจยังเป็นของชาวดัทช์ด้วย เมื่อจอช แวน เอ็มเด็น (LottoNL-Jumbo) ขาแรงวัย 31 ปีทำเวลาได้ดีที่สุดในสเตจ จบการแข่งขันระยะทาง 29.3 กิโลเมตรด้วยเวลา 33:08 นาที ดูโมลานได้อันดับสองสเตจ และมานูเอล ควินซิอาโต้ (BMC) คว้าอันดับสามที่ +27 วินาที และเป็นการแข่งขัน Giro ครั้งสุดท้ายของเขาก่อนที่จะอำลาวงการสินฤดูกาลนี้
แชมป์แกรนด์ทัวร์ของดูโมลานครั้งนี้จัดว่าเป็นครั้งแรกที่ชาวดัทช์ได้แชมป์ Giro d’Italia แชมป์แกรนด์ทัวร์ครั้งล่าสุดของชาวดัทช์นั้นเราต้องย้อนไปถึง 37 ปีที่ จูป โซเทเมลค์ ได้แชมป์ Tour de France ในปี 1980 ครับ
ผลการแข่งขัน
2. ดูโมลาน: “ผมไม่คิดเลยว่าจะได้แชมป์ Giro”
ดูโมลานให้สัมภาษณ์หลังแข่งว่า จริงๆ แล้วเขาไม่เชื่อเลยว่าตัวเองจะได้เป็นแชมป์ Giro d’Italia
“ไม่เลยครับ ผมไม่ได้หวังว่าตัวเองจะได้แชมป์รายการ ไม่ใช่ในปีนี้ ไม่ใช่เร็วๆ นี้ ผมอาจจะได้บางปีที่ผมโชคดี เอาจริงๆ ปีนี้ถ้าได้ Top 10 ผมก็ดีใจมากแล้วครับ”
“จะบอกว่าผมสร้างประวัติศาสตร์จากการแวะอึแล้วชนะรายการก็ได้นะ ผมคงเป็นคนแรกของโลกที่จอดอึแล้วได้แชมป์แกรนด์ทัวร์ มันสุดยอดเลยครับ”
“ถ้านับกันจริงๆ ผมเสียเวลาไปแค่ 40 วินาทีจากที่ผมจอดถ่าย แล้วก็เสียเพิ่มอีกนิดหน่อยในสเตจต่อๆ มา ซึ่งมันดีกว่าที่คิดครับ”
“ผมไม่รู้จะพูดอะไร มันเยี่ยมยอด มันเหมือนฝันที่เป็นจริง ตอนที่ผมข้ามเส้นชัย โค้ชผมบอกว่าผมชนะรายการแล้ว พอผมกลับมาดูหน้าจอมอนิเตอร์ เวลาผมห่างคินทานาแค่ +3 วินาทีเอง ผมกลัวแทยตาย แต่สุดท้ายเวลามันก็ห่างกว่านั้น ผมไม่ได้แกร่งอะไรขนาดนั้น ผมแค่โชคดี ปีนี้ผมโชคดีจริงๆ ครับ”
3. คินทานา: “คุณไม่สามารถได้ทุกอย่างที่คุณต้องการ”
“เราทำงานกันหนักมากตลอด Giro ปีนี้ครับ แต่คุณไม่สามารถได้ทุกอย่างที่คุณต้องการในสนามแข่ง ทอมแกร่งจริงๆ และเราก็ยังติดโพเดี้ยมอยู่ ซึ่งมันมีความหมายกับทีมเรามากครับ จริงๆ ผมน่าจะทำได้ดีกว่านี้ในสเตจภูเขา แต่ขาผมมันไมได้ดั่งใจ ผมรู้ว่าต้องการเวลาห่างทอมมากกว่านี้ก่อนถึงสเตจ Time Trial สารภาพตามตรงถึงตอนแข่งวันนี้ผมก็ยังคิดว่าอาจจะได้แชมป์รายการอยู่ ได้อันดับสองมันก็ไม่แย่นัก”
“ผมยังเชื่อว่าการคว้าแชมป์ Giro และ Tour de France ในปีเดียวกันยังเป็นไปได้ครับ”
“ผมได้อันดับสองในสนามนี้ และมันมีการปั่น TT ถึง 70 กิโลเมตรซึ่งไม่เข้าทางผม ผมว่าผมป้องกันตัวเองดีนะ ถึงสัปดาห์สุดท้ายจะมีอาการป่วยบ้างแต่ก็ยังรักษาฟอร์มได้ดีพอๆ กับคู่แข่งตัวเต็งคนอื่น ต่อจากนี้ก็เป็น Tour de France แล้วผมเชื่อว่าเราชนะได้ครับ”
คินทานาจะไม่ลงแข่งรายการไหนๆ ก่อนถึง Tour de France และจะกลับไปพักที่บ้านที่โคลอมเบีย
4. นิบาลี: “ดูโมลานสมควรได้แชมป์”
“ผมอยากจะจบรายการบนยอดโพเดี้ยม แต่ผมไม่เสียใจครับที่ได้อันดับสามผมทุ่มทุกอย่างที่มี ผลงานวันนี้มีความหมายกับผมมาก ผมคาดหวังกับตัวเองมากกว่านี้แต่นี่ก็คือดีที่สุดที่ทำได้แล้ว ผมลงแข่งเพื่อให้ได้แชมป์ ไม่ใช่ให้ได้โพเดี้ยม”
“ผมลองเสี่ยงโจมตีคู่แข่งหลายครั้ง แต่ก็มีนักปั่นคนอื่นที่แกร่งพอๆ กัน คินทานาเป็นนักไต่เขาที่เก่งที่สุดในเปโลตอง เช่นเดียวกับดูโมลาน ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ Time Trial – โดยเฉพาะ Time Trial ระยะทางรวม 70 กิโลเมตร มันเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ทอมได้แชมป์ เขาแกร่งจริงๆ ครับ และเขาสมควรได้แชมป์”
“ผมมีทั้งวันที่ดีและไม่ดี วันที่แย่ที่สุดคือในสเตจภูเขา Blockhaus และ Oropa ผมเสียเวลาไปบ้าง อาจจะมากไป แต่มันเป็นสเตจสำคัญเลยครับ ผมไม่ถนัดสเตจที่มีภูเขาชันลูกเดียวตรงเส้นชัย แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่เสียใจอะไรครับ ผมทำดีที่สุดแล้ว”
5. เยทส์: “ผมไม่เสียใจที่เสียเสื้อขาว”
ถึงจะได้เป็นแชมป์นักปั่นเยาวชนดีเด่น (Best Young Rider) ใน Tour de France 2016 แต่อดัม เยทส์ (Orica-Scott) ไม่สามารถป้องกันเสื้อ Best Young Rider ใน Giro d’Italia ปีนี้ได้ เสียเสื้อให้กับบ็อบ ยุงเกลส์จาก Quickstep Floor ไปในสเตจสุดท้าย แต่ยังรักษาอันดับ Top 10 จบรายการด้วยอันดับ 9 overall ตามหลังผู้ชนะ +8:10 นาที
“รวมๆ แล้วเป็นประสบการณ์ที่ดีมากครับ เราโชคร้ายนิดหน่อยที่ล้มในสัปดาห์แรก ไม่งั้นอะไรๆ คงต่างไปจากนี้เยอะ แต่เราก็ทุ่มเต็มที่ทุกวันมันเป็นการแข่งแกรนด์ทัวร์ที่ทีมเราหวังผลในหมวด GC เป็นครั้งแรก เราจบรายการด้วยอันดับ Top 10 ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นเป้าหมายของผมครับ เลยไม่เสียใจเท่าไรที่เสียเสื้อขาวไป”
5. Giro 2017: DT Race Note
- ทีมที่ผลงานดีที่สุดในปีนี้คงไม่พ้น Quickstep Floorsที่ได้แชมป์ไปถึง 5 สเตจ (กาวิเรีย x4, ยุงเกลส์ x1) พร้อมเสื้อผู้นำสอง เสื้อ Point Classification เจ้าความเร็วโดยเฟอร์นันโด กาวิเรีย และเสื้อ Best Young Rirder โดยบ็อบ ยุงเกลส์พร้อมอันดับ 8 Overall – น่าชื่นชมทีม Quickstep ครับที่ยังคงผลงานในแกรนด์ทัวร์ได้เยอะกว่าเพื่อนแทบทุกปี และทีมนี้ของ Quicksep ก็ไม่ใช่ A-Team ด้วย แถมนักปั่นกว่าครึ่งในชุด Giro ของทีมอายุน้อยกว่า 26 ปี
- Movistar ยังคงเป็นทีมที่แข็งที่สุดในแกรนด์ทัวร์ คว้ารางวัลทีมยอดเยี่ยม (Team Classification) ทำเวลานำทีมอันดับสอง (AG2R) ถึง 59:46 นาที และนำอันดับสาม (FDJ) 1 ชั่วโมง 19 นาที 56 วินาที
- ถึงดูโมลานจะได้แชมป์รายการนำหน้าคินทานาแค่ 15 วินาที แต่มันยังไม่ใช่การแข่ง Giro ที่สูสีที่สุดครับ ระยะห่างระหว่างอันดับหนึ่งและสองที่น้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ Giro คือปี 1948 ที่ฟิโอเรนโซ แมนญี่เอาชนะเอซิโอ้ เชคชี่ด้วยเวลาแค่ 11 วินาทีเท่านั้น
- ดูโมลานเป็นชาวดัทช์คนแรกที่ได้แชมป์ Giro d’Italia ชาวดัทช์คนแรกที่ได้แชมป์แกรนด์ทัวร์ต้องย้อนไป 50 ปีที่แล้วซึ่งก็คือ แจน แจนส์เซ็น ที่ได้แชมป์ Vuelta a Espana ในปี 1967 ปัจจุบัน แชมป์ Giro d’Italia ทั้งหมดมาจากนักปั่น 13 ประเทศ อย่างไรก็ดีมีชาวดัทช์ 5 คนที่เคยคว้าแชมป์แกรนด์ทัวร์ครับ
- เป็นครั้งที่สามในประวัติศาสตร์การแข่ง Giro ที่เสื้อชมพูเปลี่ยนมือในวันสุดท้าย ครั้งแรกปี 1976 ที่เฟลิเซ่ จิมอนดี้ได้เสื้อจากโยฮาน เดอ มุงค์ ครั้งที่สองปี 1984 เมื่อฟรานเชสโก้ โมแซร์พลิกเอาชนะลอเรนท์ ฟิญญอง และครั้งสุดท้ายในปี 2012 ที่ไรเดอร์ เฮซเชดาลเอาชนะวาคิม โรดริเกรซ และครั้งที่
- วินเชนโซ นิบาลีเองได้ขึ้นโพเดี้ยม Giro เป็นครั้งที่ 5 ในรอบ 7 ปี เขาได้แชปม์สองครั้งในปี 2013, 2016 ที่สองหนึ่งครั้งในปี 2011 และที่สามสองครั้งในปี 2010 และ 2017 นั่นหมายความว่าเมื่อรวมกับผลงานรายการอื่น นิบาลีได้ขึ้นโพเดี้ยม Overall แกรนด์ทัวร์ทั้งหมด 9 ครั้ง (แชมป์ Tour de France 2014, แชมป์ Vuelta 2010, อันดับสอง Vuelta 2013)
- สถิติการปั่น TT ที่เร็วที่สุดใน Giro เป็นของริค เวอร์บรูเก้ในปี 2011 ในสเตจ Prolouge ความเร็ว 58.874 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- ผมว่ามิเคล แลนด้า (Sky) เป็นนักไต่เขาที่ฟอร์มดีที่สุดในรายการนี้ อาจจะเหนือตัวเต็งคนอื่นๆ ด้วยซ้ำ และที่แน่ๆ เป็นคนที่พยายามที่สุด ถึงจะโดนแย่งแชมป์สเตจต่อหน้าถึงสองครั้ง แต่เขาก็คว้าแชมป์สเตจได้ในที่สุด และยังได้รางวัลเสื้อเจ้าภูเขา น่าเสียดายว่าเราไม่ได้เห็นฝีเท้าของเกอเรนท์ โทมัส ที่จริงๆ ก็ปั่น Time Trial ได้ดีมาก และแลนด้าเองที่ไต่เขาดี คงจะเพิ่มดีกรีความสูสีในรายการนี้อีกหลายเท่า – แลนด้า โทมัส เยทส์ เป็นตัวเต็งสามคนที่หายไปจากการชิงเสื้อชมพู ไม่งั้น Giro ปีนี้คงมีพลวัตรการแข่งที่หลากหลายที่สุดในรอบหลายปีครับ
- โดยรวมแล้ว Giro ปีนี้เป็นแกรนด์ทัวร์ที่สูสีและสนุกมากครับ ถึงจะสูสีเพราะมีอุบัติเหตุให้ดูโมลานต้องจอดเสียเวลาไปหลายนาที แต่การที่เขาพลิกกลับมาเอาชนะได้ก็ตอกย้ำว่าเขาเป็นนักปั่นที่แกร่งที่สุดในรายการนี้จริงๆ ถึงจะเจอสเตจภูเขาต่อเนื่อง 5 สเตจเขาก็ยังเอาชนะนักปั่นอย่างนิบาลี และคินทานาได้ ไม่เคยเสียเวลาในสเตจภูเขา (แบบไม่มีอุบัติเหตุ) เกิน 20 วินาทีต่อสเตจ นั่นหมายความว่าในอนาคตเขาก็น่าจะมีโอกาสได้แชมป์แกรนด์ทัวร์อีก ถ้าเป็นแกรนด์ทัวร์ที่มีสเตจ Time Trial ระยะทางรวมกันหลายกิโลเมตรเหมือนใน Giro ปีนี้ครับ
