หรือจีนจะเป็นชาติแรกในเอเชียที่มีทีมแข่งระดับดิวิชัน 1?

Editor’s Note: บทความนี้ตีพิมพ์ครั้งแรกใน นสพ. กรุงเทพธุรกิจฉบับวันที่ 31 สิงหาคม 2559 ในคอลัมน์ The Inside Line 

ไม่ว่าคุณจะมองมุมไหนก็ตาม วงการจักรยานอาชีพก็ยังเป็นกีฬาที่ตุ้มน้ำหนักตกไปอยู่ที่ยุโรปมากกว่าประเทศอื่นๆ เป็นกีฬาที่ยุโรปเป็นศูนย์กลางอย่างไม่ต้องสงสัย เมื่อสนามแข่ง นักแข่ง และทีมที่สำคัญกว่า 90% ของตลาดนั้นค้าแข่งและแข่งขันกันในยุโรปเกือบตลอดทั้งฤดูกาล

จึงเป็นเรื่องยากมากที่นักปั่นจากชาติอื่นๆ ที่ไม่ชาวยุโรป หรืออเมริกันที่มีสายใยเชื่อมโยงกับแวดวงการแข่งขันมากกว่าประเทศอื่นๆ ที่จะเข้ามาค้าแข่งในสนามแข่งระดับสูงสุด นักปั่นจากเอเชียและแอฟริกานั้นแทบหาตัวไม่ได้ จากเอเชียเท่าที่พอมีก็มีคนญี่ปุ่นกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น

ไม่ใช่ว่านักปั่นจากชาติอื่นไม่แข็งแกร่งพอจะมาค้าแข่งได้ แต่เป็นเพราะโครงสร้างของกีฬานี้ที่ทำให้การแข่งขันจักรยานถนนเป็นกีฬาที่เข้าถึงได้ยากจากภายนอก

แต่พลวัตรนี้อาจจะเปลี่ยนไปในไม่ช้านี้ เพราะเมื่อสัปดาห์ก่อน นายทุนใหญ่จากประเทศจีนได้เข้ามาซื้อไลเซนส์การแข่งระดับดิวิชัน 1 UCI WorldTour ของทีม Lampre-Merida (ซึ่งถือครองโดยบริษัท CGS Sport) ทีมดังจากอิตาลีที่อยู่ในโปรทัวร์มานานนับสิบปี ผ่านบริษัทที่ปรึกษากีฬา TJ Sport Consultationโดยมีเป้าหมายจะพัฒนาและป้อนนักปั่นจีนเข้าสู่วงการจักรยานอาชีพในระยะยาว ไม่ใช่แค่เป็นการเข้ามาซื้อการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าหรือหวังผลการตลาด แต่เป็นความต้องการของสปอนเซอร์ (ซึ่งยังไม่ระบุนาม) ที่อยากจะปั้นนักปั่นจีนระดับโลกจริงๆ

การเข้ามาของจีนครั้งนี้มาในโมเดลเดียวกับการสร้างทีมของ Sky ที่สร้างพื้นที่การพัฒนาฟอร์มนักปั่นให้นักกีฬาจากอังกฤษ หรือทีม Orica ที่สร้างมาเพื่อนักปั่นออสเตรเลีย โดยทีมจะจัดแจงสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการแข่งขันและฝึกซ้อมได้สะดวกกว่าที่นักปั่นต่างชาติต้องเข้ามาค้าแข่งด้วยตัวเองในแดนยุโรป และก็เป็นโมเดลที่ประสบความสำเร็จทีเดียว จากที่ทีม Sky สามารถปั้นแชมป์ตูร์เดอฟรองซ์ได้ถึง 4 สมัยในระยะเวลาห่างกันไม่ถึง 6 ปี

อย่างไรก็ดี เราคงยังไม่เห็นผลประกอบการของโปรเจ็คนี้ในระยะใกล้ เพราะจีนยังไม่ใช่ชาติที่สามารถพัฒนานักปั่นระดับดิวิชัน 1 ได้เป็นจำนวน ว่ากันตามจำนวนแล้วตอนนี้นักปั่นจีนในโปรทัวร์มีน้อยกว่าญี่ปุ่น จีนมีนักปั่นแค่คนเดียวในโปรทัวร์ นั่นคือ Ji Cheng สังกัดทีม Giant-Alpecin และกำลังจะรีไทร์สิ้นฤดูกาลนี้
แต่ใช่ว่าชาวจีนจะอยู่นิ่งเฉยๆ ครับ เพราะตอนนี้ในทวีปเอเชีย จีนเป็นประเทศที่มีสนามแข่งจักรยานเยอะที่สุด และมีเงินรางวัลสูงสุดกว่า 35 ล้านบาทในรายการใหญ่ๆ เช่น Tour of Qinhai แจกเงินรางวัลเยอะกว่าสนามแข่งในยุโรปเสียอีก!

การที่จีนสร้างสนามแข่งและมีเงินรางวัลสนับสนุนเยอะ ก็เป็นการกระตุ้นให้มีนักปั่นและทีมท้องถิ่นลุกขึ้นมาค้าแข่งกันมากขึ้นเช่นกัน ทิศทางการเติบโตของนักปั่นจีนในอนาคตนั้นมีแต่จะเพิ่มขึ้น และเมื่อบวกกับสภาพเศรษฐกิจที่เอื้ออำนวย ช่องทางลัดเข้าสู่ดิวิชัน 1 พร้อมสปอนเซอร์ทุนหนา และนโยบายรัฐที่ต้องการเป็นหนึ่งในด้านการกีฬาแล้ว เราอาจจะได้เห็นนักปั่นจีนไปโลดแล่นในโปรทัวร์หรือมีผลงานในแกรนด์ทัวร์มากกว่าแค่แข่งจบในช่วง 10 ปีนี้ก็เป็นได้ครับ

สนใจอยากศึกษาเรื่องราวของวงการโปรจักรยานจีนในเวทีโลก อ่านเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Cyclingtips – China set to enter the WorldTour, but what’s the plan? 

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *