ประธานาธิบดีคนใหม่มีผลยังไงกับวงการจักรยาน?

เชื่อว่าหลายคนไม่ทราบมาก่อนว่าประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐอเมริกา มร. โดนัลด์ ทรัมป์นั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับวงการจักรยานมาก่อนครับ ทรัมป์เคยสปอนเซอร์สนามแข่ง Tour de Trump ในอเมริกาเมื่อช่วงปี 1989–1990 ถึงจะเป็นสนามแข่งที่อยู่ได้ไม่นานเพราะทรัมป์หมุนเงินมาสนับสนุนไม่ทัน แต่การขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศของทรัมป์นั้นน่าจะมีผลกระทบต่อวงการจักรยานหลายด้าน แค่คืนวันที่ทรัมป์ชนะฮิลารี คลินตันนั้น ตลาดโลกก็ปรับตัวรับมือกันอลหม่าน ทั้งด้านค่าเงินที่ผันผวน และเม็ดเงินลงทุนข้ามชาติที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

แล้วนโยบายใหญ่ๆ ของทรัมป์จะมีผลกระทบยังไงต่อวงการจักรยาน? ลองมาคาดเดากันครับ

 

ยอดขายจักรยานอาจจะทรุดตัว

ทรัมป์ประกาศกร้าวมาตลอดช่วงการหาเสียงของเขาว่าเขาไม่เชื่อในเรื่อง Climate Change หรือการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศอันเป็นผลมาจากมลภาวะที่ทำให้โลกร้อน ถึงกับพูดว่ามันเป็นเรื่อง “หลอกลวง” และยังกล่าวโจมตีสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐว่ามันเป็นหน่วยงานที่ไร้ประโยชน์ มีความเป็นไปได้สูงที่ทรัมป์จะตัดงบประมาณด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและพลังงานธรรมชาติทั้งหมด รวมถึงเงินทุนที่ช่วยสนับสนุนการสร้างเส้นทางการปั่นจักรยานในรัฐและหัวเมืองต่างๆ แน่นอนว่าเราคงไม่ได้เห็นเขาสนับสนุนให้คนออกมาปั่นจักรยานกันมากขึ้นเพื่อลดมลภาวะเหมือนอย่างบอริส จอห์นสันของสหราชอาณาจักรด้วยจักรยานนำเข้าอาจจะมีราคาสูงขึ้น

ทรัมป์ไม่เห็นด้วยกับนโยบายเขตการค้าเสรีหลายๆ ตัวโดยเฉพาะ NAFTA ที่อนุญาตให้ประเทศในอเมริกาเหนือสามารถค้าขายสินค้าหลายหมวดหมู่ได้โดยไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า ซึ่งเขาคิดว่าอเมริกาค่อนข้างเสียเปรียบประเทศคู่ร่วมสัญญาหลายๆ ประเทศ ทรัมป์มีแผนที่จะตั้งกำแพงภาษีนำเข้าสินค้าโดยเฉพาะสินค้าจากจีนแผ่นดินใหญ่และเอเชียซึ่งอาจจะสูงได้ถึง 45% ครับ

ปัญหาอยู่ที่ว่าแบรนด์จักรยานอเมริกาส่วนใหญ่ต้องพึ่งพิงโรงงานจักรยานในจีนและไต้หวัน จักรยานที่วางจำหน่ายในสหรัฐ 99% เป็นจักรยานนำเข้าจากเอเชีย สหรัฐนำเข้าจักรยานปีละราว 18 ล้านคัน คิดเป็นมูลค่ากว่าหนึ่งพันหกร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี แต่ผลิตได้เองเพียง 200,000 คันเท่านั้น หากการนำเข้าเฟรมเปล่าหรืออะไหล่ต่างๆ ต้องเจอกำแพงภาษีมหาโหดแบบนี้ก็มีแนวโน้มว่าจักรยานแบรนด์อเมริกาก็น่าจะต้องปรับราคาสูงขึ้นด้วยเช่นกัน

 

โอกาสดีสำหรับแบรนด์จักรยานใหม่ๆ ในอเมริกา

นอกจากจะต้องการตั้งภาษีสินค้านำเข้าจากต่างประเทศแล้ว ทรัมป์ผลักดันอุตสาหกรรมการผลิตท้องถิ่น (local manufacturing) อย่างแข็งขันด้วย การเปิดเขตการค้าเสรีกับต่างชาตินั้นทำให้แรงงานข้ามชาติหลั่งไหลเข้ามาในอเมริกาเป็นจำนวนมาก จนทรัมป์เชื่อว่าแรงงานต่างด้าวแย่งงานคนอเมริกาไปกว่า 50% (Bloomberg รายงานว่าทรัมป์โม้เกินจริง เพราะอัตราการว่าจ้างคนอเมริกันในอุตสาหกรรมการผลิตนั้นตกลงไปแค่หนึ่งเปอร์เซ็นต์เท่านั้น)

นั่นหมายความว่าทรัมป์น่าจะมีแผนการสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตในประเทศหลายด้านในอนาคตครับ ไม่ว่าจะเป็นการลดหย่อนภาษีให้ผู้ประกอบการรายใหม่และเงินทุนช่วยสนับสนุนผลักด้านธุรกิจ ชาวอเมริกันหลายคนที่อยากจะเปิดแบรนด์จักรยานของตัวเอง และผลิตจักรยานในประเทศก็น่าจะได้ประโยชน์จากนโยบายนี้เต็มที่ ปัจจุบันอเมริกาเป็นประเทศที่มีแบรนด์จักรยานอินดี้ ที่สร้างจักรยานไฮเอนด์แบบสั่งตัด (custom bike) คุณภาพสูงอยู่หลายแบรนด์ มีแนวโน้มที่กิจการของบริษัทเหล่านี้จะดีขึ้นอีก

นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลงก็หมายความว่าผู้บริโภคจากต่างประเทศจะซื้อจักรยานอเมริกันได้ในราคาที่ถูกลงด้วยเช่นกัน

//

บทความนี้ตีพิมพ์ครั้งแรกใน นสพ. กรุงเทพธุรกิจ เดือนพฤษจิกายน 2559

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *