Stage 7
สนาม Tirreno-Adriatico ประจำปี 2017 ปิดรายการด้วยสเตจสุดท้ายที่เป็นการแข่งแบบจับเวลาบุคคล (Individual Time Trial) ซึ่งแชมป์สเตจก็ตกเป็นของโรฮาน เดนนิส (BMC Racing) ในขณะที่ไนโร คินทานา (Movistar) ป้องกันอันดับเวลารวม คว้าแชมป์รายการได้เป็นสมัยที่สอง
เดนนิส ที่ปล่อยตัวเป็นอันดับรองสุดท้าย สลายฝันจอส แวน เอ็มเด็น (LottoNL-Jumbo) ที่ตั้งเวลาไว้ได้ดีที่สุดที่ 11:13 นาทีในระยะทาง 10 กิโลเมตร เดนนิสจบการแข่งขันด้วยเวลา 11:10 เร็วกว่าเอ็มเด็นสามวินาที ทำให้เขาขึ้นมาอยู่อันดับสองเวลารวมของรายการ
ส่วนคินทานานั้นถึงเวลาในสเตนนี้จะไม่ได้ดีมากนัก แต่ด้วยที่มีเวลารวมนำพินอท์ (FDJ) +50 วินาที ก็ยังจบรายการด้วยเวลารวมเร็วกว่าเดนนิส +25 วินาที และเร็วกว่าพินอท์ +36 วินาที ปิดโพเดี้ยมรายการ
ถึงจะเป็นสเตจสั้นๆ แต่ก็ไม่วายมีเรื่องให้คนดูตื่นเต้นครับ เมื่อปีเตอร์ ซากาน (Bora-Hansgrohe) เกือบจะชนผู้สัญจรนิรนามที่บังเอิญเดินจูงสุนัขผ่านเส้นทางการแข่งพอดิบพอดี (ทั้งๆ ที่เป็นสนามปิด) แต่ด้วยทักษะการบังคับรถขั้นเทพของแชมป์โลก อุบัติเหตุจึงไม่เกิดขึ้น!
DT วิเคราะห์
- คินทานาดูท็อฟฟอร์มมากในรายการนี้และน่าจะเป็นตัวเต็งใน Giro ได้ไม่ยากครับ เขาไต่เขาดีกว่าทุกคนอย่างชัดเจนและหลายเท่า โดยเฉพาะในสเตจภูเขา Terminillo ซึ่งดูจะยังไม่ออกแรงเต็มที่ด้วยซ้ำแต่ก็ทิ้งคู่แข่งได้เป็นนาที และเจ้าตัวบอกว่ายังไม่ท็อปฟอร์มเสียด้วย นั่นคือทีมอื่นๆ ต้องเตรียมตัวให้ดีกว่านี้ในจิโรแล้วหละ
- นิบาลี (Bahrain-Merida) แชมป์ Giro เก่าดูฟอร์มยังเก้ๆ กังๆ เขาจบการแข่งขันด้วยอันดับที่ 28 (!!) แต่ในสองครั้งก่อนที่เขาได้แชมป์ Giro เขาจบสนามนี้ด้วยอันดับ 1 และ 6 ใน Tirreno… เจ้าตัวสารภาพว่าทีม Bahrain ยังจูนกันไม่ดีเท่าไร ยังมีอะไรที่ทำผิดพลาดเยอะ ก็ต้องดูกันต่อไปว่าเขาจะแก้เกมได้ทัน Giro ในเดือนพฤษภามั้ย
- เกอเรนท์ โทมัส (Sky) ดูพร้อมจะเป็นตัวเต็ง GC จริงๆ จังๆ แล้ว จากฟอร์มในสนามนี้ ซึ่งโดดเด่นมากครับ เด่นกว่ามิเคล แลนด้า เพื่อนร่วมทีมที่จะได้ขึ้นนำทีมร่วมกันเสียอีก โทมัสได้แชมป์สเตจ 2 และในสเตจ 4 ที่พ่ายให้คินทานานั้นเขาก็เป็นนักไต่เขาไม่กี่คนที่ตามคินทานาได้ดีที่สุด และที่สำคัญเขาปั่น TT ติด Top 10 ในสเตจสุดท้าย ซึ่งน่าจะช่วยเขาได้มากใน Giro ปีนี้ครับ
- ซากาน (Bora-Hansgrohe) และเฟอร์นันโด กาวิเรีย (Quickstep Floors) ต่างได้แชมป์สเตจคนละครั้งสองครั้ง ซึ่งดูพร้อมสำหรับสนาม Milan-San Remo รายการคลาสสิคระดับ Monument สนามแรกของปีในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ครับ โดยเฉพาะฟอร์มของกาวิเรียในสเตจ 6 ที่มีเนินชันสั้นก่อนถึงเส้นชัยที่กาวิเรียชนะซากาน สเตจนั้นเส้นทางคล้ายๆ ซานเรโมเลยทีเดียว ปีที่แล้วกาวิเรียก็พลาดล้มหน้าเส้นชัยซึ่งจริงๆ แล้วในตอนนั้นเขามีสิทธิสปรินต์ชนะทุกคน ต้องดูกันว่าเสาร์นี้กาวิเรียจะแก้มือความผิดพลาดปีก่อนได้หรือเปล่า
Stage 6
เฟอร์นันโด กาวิเรีย (Quickstep Floors) คว้ารางวัลผู้ชนะสเตจ 6 ในสนาม Tirreno-Adriatico สปรินต์เฉือนแชมป์โลก ปีเตอร์ ซากาน (Bora-Hansgrohe) หลังจากการแข่ง 168 กิโลเมตรพร้อมเนินสั้นๆ ก่อนถึงเส้นชัย แยสเปอร์ สตอยเว็น (Trek-Segafredo) คว้าอันดับสาม
สเตจเมื่อคืนนี้หลายทีมพยายามคุมเกมไม่ให้ตัวอันตรายหนีกลุ่มไปคว้าแชมป์สเตจก่อนสปรินเตอร์ของตัวเอง ซึ่งในช่วงแรกก็ดูเหมือนเกมจะคุมได้ยาก เมื่อนักปั่นอย่างวินเชนโซ นิบาลี (Bahrain-Merida), บ็อบ ยุงเกลส์, นิกี้ เทิร์ปสตร้า (Quickstep), และฟาบิโอ้ เฟลิเน่ (Trek-Segafredo) หนีขาดในช่วง 8 กิโลเมตรสุดท้าย ซากานพยายามออกไล่ตามแต่กาวิเรียขึ้นประกบอย่างรวดเร็ว
แต่การเร่งของซากานทำให้ไปจับเฟลิเน่และเทิร์ปสตร้ากลับเข้ากลุ่มเปโลตอง Quickstep และ Lotto-Soudal ขึ้นคุมสถานการณ์อย่างรวดเร็วรวบจับกลุ่มหนี และเร็วจนกลุ่มนำขาด กลายเป็นกลุ่มตัวเต็ง 15 คนที่รอสปรินต์หน้าเส้นชัย กาวิเรียมีลีดเอาท์ที่ดีกว่าคนอื่นและเบียดตัวแทรกขึ้นไปหน้าเปโลตอง ออกสปรินต์ชนะคู่แข่งเป็นครั้งแรกในสนามนี้
ไนโร คินทานา (Movistar) ยังคงนำเวลารวมอันดับสองทิบอต์ พินอท์ (FDJ) +50 วินาที และโรฮาน เดนนิส (BMC) อันดับสามี่ +1:06 นาที
Stage 5
แชมป์โลกปีเตอร์ ซากาน (Bora-Hansgrohe) โชว์ฟอร์มแรงอีกครั้งด้วยการคว้าแชมป์สเตจ 5 ในสนาม Tirreno-Adriatico เป็นแชมป์สเตจครั้งที่สองของเขาในรายการนี้ และเป็นหนึ่งในผลงานที่ดีที่สุดของซากานก็ว่าได้ครับ
มันเป็นอีกหนึ่งผลงานที่ถ้าดูแค่การสปรินต์หน้าเส้นชัยจะไม่เห็นถึงความยากของสเตจในวันนี้ ซากานไล่ตามกลุ่มนักไต่เขาแนวหน้าที่ปีนเนินชันสูงสุด 22% และ 14% ในระยะ 10 กิโลเมตรก่อนถึงเส้นชัย พร้อมปิดการโจมตีกลุ่มหนีด้วยตัวเองและไล่เก็บเอซนักไต่เขาจากทีมอื่น สปรินต์นำกลุ่มจนได้แชมป์สเตจนำหน้า ทีบอต์ พินอท์ (FDJ) และพริมอซ โรจ์กลิค (LottoNL-Jumbo)
เกมสเตจ 5 เริ่มดุเดือดขึ้นเมื่อทีเจย์ แวนการ์เดอเรน (BMC) ออกโจมตีกลุ่มระหว่างทางขึ้นเนินชัน ไล่จับเบรคอเวย์คนสุดท้าย หลุยส์ ลีออน ซานเชซ (Astana) ที่ 9 กิโลเมตรสุดท้าย ถึงทางเข้าเมือง Fermo เส้นชัยของวัน ไนโร คินทานา (Movistar) กระแทกหนีกลุ่มบนเนินชัน 22% แต่เป็นเกอเรนท์ โทมัส (Sky) และทีบอต์ พินอท์ (FDJ) ที่ออกไล่ปิดระยะห่างอย่างรวดเร็ว
จังหวะนี้ซากานถูกทิ้งห่างจากกลุ่มหน้า แต่ใช้จังหวะลงเขาไล่ปิดระยะห่างอย่างรวดเร็ว
ถึงทางขึ้นเนินสุดท้ายของสเตจกลางเมืองบนถนนแคบ ซากานไล่ทันกลุ่ม GC ริกโอเบอร์โต้ อูราน (Cannondale) กระชากหนีกลุ่มเป็นคนแรก แต่ซากานไล่แซงขึ้นปิด พินอท์โจมตีเป็นคนสุดท้าย แต่ซากานสปรินต์ขึ้นแซงก่อนถึงเส้นชัยเล็กน้อย คว้าแชมป์สเตจเป็นครั้งที่สอง
แม้แต่ซากานเองก็ให้สัมภาษณ์ว่าไม่ค่อยจะเชื่อกับชัยชนะในวันนี้:
“ตอนแรกผมคิดว่าวันนี้มันจะยากเกินที่จะชนะครับ แต่ใครจะรู้ว่าพวกนักไต่เขาคิดอะไรเมื่อเห็นผมไล่ขึ้นไปทัน ถึงตอนนั้นผมได้แต่หวังว่าพวกเขาจะไม่กระชากหนี ไม่งั้นผมหมดแรงแน่ๆ”
“แต่ผมก็อยากย้ำว่า ถ้าวันนี้มันเป็นสนามแข่งแบบวันเดียวจบ ผมคงไม่ชนะแน่นอน พวกนักไต่เขาเขาซัดกันเต็มที่ในสเตจเมื่อวานที่จบบนยอดเขา Terminillo (คินทานาชนะ) แต่ผมค่อยๆ เลี้ยงแรงเข้าเส้นชัยไม่ได้เหนื่อยมากเท่าพวกเขา”
ไนโร คินทานายังคงนำเวลารวม แต่คู่แข่งคนสำคัญอดัม เยทส์ (Orica-Scott) ถอนตัวจากอาการป่วย เช่นเดียวกับฟาบิโอ้ อารู (Astana) ทำให้อันดับสองเวลารวมเป็นทิบอต์ พินอท์ (FDJ) ที่ +50 วินาที และโรฮาน เดนนิส (BMC) +1:06 นาที
สเตจ 6 วันจันทร์นี้น่าจะจบด้วยการสปรินต์กลุ่มครับ
Stage 4
ไนโร คินทานา (Movistar) ยังคงยืนยันฟอร์มการไต่เขาที่เหนือกว่าคู่แข่งทุกคนด้วยการหนีเดี่ยว 5 กิโลเมตรระหว่างทางขึ้นเขาสูงชัน เก็บทั้งแชมป์สเตจและกลายเป็นผู้นำเวลารวมคนใหม่ในสนาม Tirreno-Adriatico ปีนี้
เส้นชัยบนยอดเขานี้เป็นจุดที่เขาเคยชนะมาก่อนแล้วในปี 2015 ซึ่งทำให้เขาชนะแชมป์รายการ
คินทานาโจมตีกลุ่มตัวเต็งหลังจากที่ทีม Movistar และ Bahrain-Merida ทำความเร็วคุมเกมตั้งแต่ตีนเขาจนรวบจับเบรคอเวย์ได้หลายคน มีเพียงเกอเรนท์ โทมัส (Sky) และอดัม เยทส์ (Orica-Scott) ที่ไล่เกาะคินทานามาได้ ขณะเดียวกันคินทานารวบจับและขึ้นแซงเบรคอเวย์คนสุดท้ายของวัน ไซมอน สปิแลค (Katusha-Alpecin)
แต่ถึงเอซ Sky และ Orica จะตามมาได้ ชัดเจนว่าความฟิตไม่เท่าตัวเต็ง Movistar คินทานาโจมตีกลุ่มอีกครั้งและหนียาวจนถึงเส้นชัย คว้าแชมป์บนยอดเขา Terminillo เป็นครั้งที่สอง เข้าเส้นก่อนหน้าโทมัส +18 วินาที และนำเยทส์ +24 วินาที ทำให้เขากลายเป็นผู้นำเวลารวมคนใหม่ นำอดัม เยทส์ (Orica-Scott) +33 วินาที และนำพินอท์ (FDJ) +56 วินาที
พินอท์ สารภาพ “มันยากที่จะชนะรายการนี้ถ้าคินทานาลงแข่งพร้อมกับเราครับ”
ฟาบิโอ้ อารู (Astana) เสียเวลาเยอะที่สุดในบรรดาตัวเต็ง เข้าเส้นชัยหลังคินทานา +4:06 นาที
แวน การ์เดอเรน (BMC) ก็เสียไป +2:19 นาที เช่นเดียวกับวินเชนโซ นิบาลี (Bahrain-Merida) ที่ฟอร์มยังไม่ดีนัก เสียเวลาไป +1:43 นาที
โทมัส (Sky) ให้สัมภาษณ์ภายหลัง: “อัตราเร่งของคินทานามันเหลือเชื่อครับ ผมรู้เลยว่าตามไม่ได้หรอก ผมเลยต้องค่อยๆ คุมเพซตามเขาไป”
เยทส์ (Orica-Scott) ก็เห็นด้วยกับโทมัส: “คุณต้องพยายามตามให้ได้ครับเวลาที่คินทานายิงกลุ่ม อย่างน้อยต้องให้เวลาเสียน้อยที่สุด”
“ผมมีประสบการณ์มากกว่าสองปีก่อนครับ และผมก็ใช้มันเต็มที่ในวันนี้ แต่บอกได้เลยว่าชัยชนะวันนี้มันไม่มีความหมายครับ เดี๋ยวถึง Giro เกมมันจะต่างกว่านี้เยอะ…ผมว่าคู่แข่งผมเตรียมตัวดี และฟอร์มจะพีคพอดีกับตอนเริ่ม Giro…ผมต้องเตรียมรับมือพวกเขา ผมจะไม่ประมาทเด็ดขาด” คินทานากล่าว
Stage 3:ซากานเก็บแชมป์, BMC นำเวลารวม
แชมป์โลกสองสมัย ปีเตอร์ ซากาน (Bora-Hansgrohe) เก็บแชมป์ได้อีกหนึ่งครั้งในการสปรินต์ขึ้นเนินในสเตจ 3 Tirreno-Adriatico กับระยะทาง 204 กิโลเมตร เอเลีย วิวิอานี (Sky) คว้าอันดับสอง และเยอร์เกนท์ โรแลนท์ (Lotto FIXALL) อันดับสาม
ซากาน: “เดาได้ยากครับว่าสเตจแบบวันนี้จะจบยังไงเพราะลมแรงมาก ทุกคนกลัวลมในช่วง 15 กิโลเมตรสุดท้าย แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรพิเศษ คิดว่าหลายคนคงหมดแรงจากการปั่นสู้ลม เลยไม่ได้แย่งตำแหน่งกันเท่าไร”
ช่วงสุดท้ายเป็นทางขึ้นเนินสั้นๆ และมีโค้งพอสมควร ทีมสปรินเตอร์เริ่มหมดกำลังลีดเอาท์จากกระแสลมต้านแรง คาเวนดิช (Dimension Data), ซากาน, วิวิอานี อยู่ในกลุ่มหน้าสุด ถึง 300 เมตรสุดท้าย วิวิอานีอยู่หน้าสุดของกลุ่มและต้องเปิดสปรินต์ก่อนคนอื่น ซากานขึ้นแซงอ้อมสปรินเตอร์จาก Sky และนำเข้าเส้นชัยก่อน
ในอันดับเวลารวม โรฮาน เดนนิส (BMC) ขึ้นนำตารางแทนเกร็ก แวน เอเวอร์มาร์ท เพื่อนร่วมทีม
Stage 2: โทมัสโซโล่เดี่ยวเก็บแชมป์สเตจ 2
หลังจากวิกฤตในสเตจแรกที่ทีม Sky ล้มจนต้องเสียเวลาให้คู่แข่งเกือบสองนาที เกอเรนท์ โทมัส กัปตันทีมเปลี่ยนความโชคร้ายเป็นโอกาส ออกหนีกลุ่มคู่แข่งในช่วงสุดท้ายของสเตจ 2 ในจังหวะขึ้นเนินใกล้เส้นชัยและรักษาระยะห่างจากกลุ่มไล่จนคว้าแชมป์สเตจได้สำเร็จ
โทมัสเบรคอเวย์หนีออกมาจากกลุ่มเปโลตองในช่วง 5 กิโลเมตรสุดท้าย ดึงเอาบ็อบ ยุงเกลส์ (Quicksteps), โจนาธาน คาสโตรวิเอโญ่ (Movistar), ดามิอาโน คารูโซ่ (BMC) และ ทอม ดูโมลาน์ (Sunweb) ออกมาด้วย แต่เมื่อเบรคอเวย์ไม่ร่วมมือกันเท่าที่ควร โทมัสตัดสินใจหนีเดี่ยว มีแค่ดูโมลาน์ที่พยายามออกไล่ตามแต่ก็ยังช้ากว่าโทมัส ทำได้ดีที่สุดเพียงอันดับสอง ส่วนเปโลตองไล่เข้ามาติดๆ เป็นปีเตอร์ ซากาน (Bora-Hansgrohe) ที่คว้าอันดับสาม ส่วนอันดับเวลารวมนั้น เกร็ก แวน เอเวอร์มาร์ท (BMC) เป็นผู้นำเวลารวมคนใหม่ ของรายการ
The race rolls on Friday with a 204km stage from Monterotondo Marittimo to Montalto di Castro.
Stage 1: BMC โชว์ฟอร์มแชมป์โลก TTT, Sky เสียหายหลายแสน
ถึงตัวเต็งอย่างริชีย์ พอร์ท (BMC) จะแพ้หลุดลุ่นใน Paris-Nice แต่ในสนามที่อิตาลี BMC ทำเวลาเป็นต่อคู่แข่งแล้วด้วยการคว้าแชมป์สเตจ 1 Tirreno-Adriatico เมื่อคืนนี้ ทำเวลาเร็วกว่า Quickstep Floors +17 วินาที และ FDJ +22 วินาที ส่วนทีม Movistar ของคินทานาได้อันดับ 4 ที่ +22 วินาทีเช่นกัน
แต่ไม่ใช่วันที่ดีที่สุดสำหรับทีม Sky เมื่อนักปั่นในทีมสามคนเหยียบหลุมและฝาท่อระบายน้ำจนยางล้อหน้าหลุด ทำให้ล้อแตกจนนักปั่นล้มเจ็บ
ทีมส่งตัวเต็งว่าที่แชมป์รายการมาถึงสามคน ทั้ง เกอเรนท์ โทมัส, มิเคล แลนด้า, และดิเอโก้ โรซ่า, แต่เมื่อต้องรอเพื่อนร่วมทีมที่ล้มจนต้องเปลี่ยนรถกลางสนามแข่ง ก็ทำให้ทีมเสียเวลาไปเยอะทีเดียว เข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 18 ช้ากว่า BMC แชมป์สเตจ +1:42 นาที
“การแข่งขันมันจบแล้วหละครับ รายการแข่งสัปดาห์เดียวแบบนี้เราชนะกันด้วยหลักวินาที การที่เราเสียไปเกือบสองนาทีนี่ไม่ดีแน่ๆ แต่อย่างน้อยผมว่าทีมเรามีนักปั่นที่พอจะได้แชมป์สเตจในแต่ละวันนะ เพราะงั้นเราจะเล่นเกมรุกหนักเพื่อเก็บแชมป์สเตจ แต่เกม GC คงต้องเลิกหวังแล้วหละ”
Tirreno-Adriatico รายการนี้คืออะไร ทำไมถึงน่าดู?
Tirreno-Adriatico (ขอย่อสั้นๆ ว่า TA) เป็นสเตจเรซ หรือสนามแข่งแบบหลายวันต่อกัน แบบหนึ่งสัปดาห์ที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆ ของชาวอิตาเลียนครับ รายการนี้เป็นสนามแข่งระดับ WorldTour นั่นคือดิวิชันสูงสุด หมายความว่ามีนักปั่นชื่อดังจากหลายทีม หลายคนมาประลองกำลังกันในสนามนี้ มีทั้งพวกสายคลาสสิคที่มาสร้างฟอร์ม, สปรินเตอร์, และนักไต่เขา
รายการนี้จัดเหลื่อมๆ กับ Paris-Nice และมีคาแรคเตอร์คล้ายๆ กันหลายอย่าง ด้วยที่ยังเป็นช่วงปลายฤดูหนาวในอิตาลี (เหมือนกับในฝรั่งเศส) ทำให้สภาพอากาศมีผลต่อการแข่งพอสมควรครับ ฝนตก หิมะตก ลมแรง มีทั้งสเตจ Time Trial, Team Time Trial, ภูเขาสูงชัน ทางโรลลิ่ง และทางราบสนิท เมื่อรวมกับอากาศแย่ๆ แล้วก็น่าจะได้สนามแข่งที่อรรถรสเต็มอิ่มถูกใจผู้ชมครับ
ยกตัวอย่างสเตจข้างบนในปี 2013 ปีนั้น คริส ฟรูม (Sky) ขึ้นนำเวลารวมพอดี แต่เป็นปีแรกที่เขาเริ่มได้เป็นผู้นำทีมในสเตจเรซและแกรนด์ทัวร์ (ยังไม่เคยชนะตูร์) วันนั้นฝนตกกระหน่ำ อากาศบัดซบ และวันนั้นมีตัวเต็งคนอื่นที่จ้องรอจะเชือดเขาอยู่ เป็นวินเชนโซ นิบาลี (Astana) ที่กระชากหนีบนยอดเขาก่อนถึงเส้นชัย แล้วดิ่งลงเขาอย่างรวดเร็วตามความถนัดของเขา นิบาลีหนีไปจนทันกลุ่มเบรคอเวย์ที่มีปีเตอร์ ซากาน (Cannondale) และวาคิม โรดริเกรซ (Katusha) ซึ่งทั้งสามคนช่วยกันหนีสุดชีวิตจนนิบาลีปลดเสื้อผู้นำจากฟรูมได้สำเร็จ ส่วนซากานก็สอยสเตจวินไปสยายๆ
ปีนี้ก็น่าจะได้อารมณ์พีคๆ แบบเดียวกันครับ
ใครมีลุ้นแชมป์
อันดับแรกดูตัวเต็งแต่ละประเภทกันก่อน (Startlist)
GC: ทิบอต์ พินอท์ (FDJ), เกอเรนท์ โทมัส, มิเคล แลนด้า (Sky), ไนโร คินทานา (Movistar), วินเชนโซ นิบาลี (Bahrain-Merida), ทอม ดูโมลาน์ (Sunweb), ทีเจย์ แวนการ์เดอเรน (BMC), ฟาบิโอ้ อารู (Astana), ริกโอเบอร์โต้ อูราน (Cannondale), อดัม เยทส์ (Orica-Scott), รูย คอสต้า (UAE Team Emirates), เบาเก้ โมเล็มม่า (Trek-Segafredo)
สปรินเตอร์: ปีเตอร์ ซากาน (Bora-Hansgrohe), มาร์ค คาเวนดิช (Dimension-Data), เฟอร์นันโด กาวิเรีย (Quickstep Floors), คาเล็บ ยวน (Orica-Scott), เอลิอา วิวิอานี (Sky)
คลาสสิค: แวน เอเวอร์มาร์ท (BMC), ทีช เบนูท และทิม เวลเลนส์ (Lotto-Soudal), ทอม โบเน็น, นิกี้ เทิร์ปสตร้า, ชเน็ค สตีบาร์ (Quickstep Floors), เซป ฟานมาร์ค (Cannondale), แยสเปอร์ สตอยเว็น (Trek-Segafredo)
สำหรับตัวเต็งแชมป์รายการนั้นก็มีหลายคนทีเดียวครับ แต่คนที่ฟอร์มดีกว่าเพื่อนคงเป็นไนโร คินทานา (Movistar) สเตจแรกที่เป็น Team Time Trial ก็น่าจะเข้าทางทั้ง Movistar และ BMC ที่ปกติทำเวลาในสเตจ TTT ได้ดีอยู่แล้ว
สเตจ 2 เป็นเส้นชัยบนยอดเนิน ซึ่งน่าจะเทสต์ฟอร์มนักปั่นคลาสสิคหลายๆ คนได้ดี
สเตจสำคัญคือวันเสาร์ที่ปีนยอดเขา Terminillo ซึ่งเป็นสเตจที่คินทานาเคยทุบคอนทาดอร์จนพัง จนเขาได้แชมป์รายการในปี 2015 ท่ามกลางหิมะที่ตกหนักตลอดทั้งสเตจ (ดราม่าจริงๆ) ถ้าคู่แข่งคนอื่นไต่เขาได้ไม่ดีมากนัก ก็อาจจะพอแก้มือได้ในสเตจ Time Trial วันสุดท้ายของการแข่งขัน
จะเห็นว่ามีตัวเต็งที่จะลง Giro มาแข่งเยอะเหมือนกัน เพราะงั้นเราน่าจะเริ่มเห็นฟอร์มแบบจริงๆ จังๆ ของนักปั่นบางคนอย่างนิบาลีและอารูบ้างแล้ว
สเตจวันอาทิตย์เป็นเส้นชัยบนยอดเนิน วันจันทร์เป็นทางราบ รวมๆ แล้ว GC / Sprinter มีโอกาสโชว์ฝีเท้าพอๆ กัน แต่จุดสำคัญของรายการนี้ไปอยู่ที่ Time Trial เสียมากกว่าครับ ใช้เปิดและปิดรายการเลย
ถ่ายทอดสดเวลาไหน ?
DT มีลิงก์สตรีมมิ่งบริการทุกวันที่ duckingtiger.com/live เวลา 20:00-22:00 จาก 8-14 มีนาคมครับ
