ทำไม้เสื้อปั่นถึงมีกลิ่นแรง?

ปัญหาเรื่องกลิ่นตัวสำหรับนักกีฬาเป็นเรื่องที่เรารับรู้ แต่คงไม่มีใครกล้าบอกเตือนกัน ยิ่งกับกีฬาอย่างจักรยานที่คุณต้องคอยปั่นตามคนอื่นอยู่ตลอดแล้ว การมีกลิ่นตัวแรงคงไม่น่าอภิรมย์เท่าไรครับ แต่ที่จะคุยวันนี้ไม่ใช่เรื่องกลิ่นตัว แต่มันคือกลิ่นจากเสื้อปั่น

ผมเพิ่งจะสังเกตว่าเสื้อปั่นบางตัวมันมีดีกรีความเหม็นไม่เท่ากันครับ บางตัวเหม็นแรง บางตัวไม่ค่อยเหม็น บางตัวก็เหม็นเปรี้ยวทะลุโลกไปเลย แล้วกลิ่นเสื้อที่บอกนี้จะเกิดขึ้นหลังการปั่นแบบที่เหงื่อออกมากๆ ประเด็นสำคัญคือมันเหม็นกว่ากลิ่นตัวจากวงแขนผมมาก เป็นเรื่องน่าสงสัยเพราะปกติใส่เสื้อเชิ้ตหรือเสื้อยืดธรรมดา ถึงเหงื่อจะออกหนักแค่ไหนก็ไม่เหม็นแบบนี้ครับ

 

กลไกแห่งความเหม็น

เรื่องของเรื่องคือ ผ้าใยสังเคราะห์​อย่างผ้าที่ใช้ในชุดกีฬาที่ระบายเหงื่อได้ดีนั้นมันมีความพิเศษอยู่ ถ้าเราเอากล้องจุลทรรศน์ส่องจะพบว่าเนื้อผ้ามีการถักทอเส้นใยละเอียดมากกว่าผ้าธรรมชาติอย่างผ้าฝ้ายค่อนข้างมาก เนื้อผ้าที่ละเอียดช่วยให้เสื้อมีน้ำหนักเบาและแข็งแรง แต่มันมาพร้อมกับปัญหาข้อใหญ่ครับ ความหนาแน่นของใยผ้าเป็นเสมือนบ้านชั้นดีสำหรับเหล่าแบคทีเรียและจุลินทรีย์!

โดยปกติแล้วเหงื่อของเรานั้นไม่มีกลิ่นครับ กลิ่นตัวเกิดจากเหงื่อของคนเราที่ออกมาผสมกับเชื้อจุลินทรีย์ที่อยู่บนผิวหนัง (โดยเฉพาะบริเวณวงแขน) ทำให้เกิดการบูดเน่าของเหงื่อจึงเป็นที่มาของกลิ่นเหม็นเปรี้ยวนั่นเอง นักวิทยาศาสตร์เคยทดลองเอาเหงื่อมาสกัดเชื้อจุลินทรีย์ออก แล้วตั้งทิ้งไว้ในที่ปลอดเชื้อประมาณ 24 ชั่วโมง พบว่าเหงื่อนั้นไม่มีกลิ่นเหม็นหรือเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรจากเดิมเลย แต่กลับกัน เมื่อนำเหงื่อมาสกัดเอาเชื้อจุลินทรีย์ออกแล้วตั้งทิ้งไว้ในที่โล่งแจ้งประมาณ 24 ชั่วโมง ปรากฏว่า เหงื่อนั้นเกิดกลิ่นเหม็นขึ้น สรุปได้ว่า เชื้อจุลินทรีย์เป็นตัวที่ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นนั่นเอง

แน่นอนว่าเมื่อเหงื่อและจุลินทรีย์ลงไปหมักหมมกันในใยเสื้อปั่นราคาแพง ผ้าหนาแน่นระดับนาโน (ยิ่งเบา! ยิ่งระบายอากาศดี!) กลิ่นมันเลยทวีคูณความเหม็นอย่างร้ายแรง เสื้อที่เหม็นที่สุดของผมคือ Rapha Super Lightweight Jersey ซึ่งเสื้อตัวนี้ขึ้นชื่อเรื่องความ “เย็น” ในการระบายเหงื่อ พอรู้กลไกความเหม็นแล้วก็เดาได้ไม่ยากว่า เส้นใยผ้าในเสื้อตัวนี้มันคงมีพื้นที่ให้จุลินทรีย์ดองความบูดเน่ามากยิ่งกว่าตัวอื่น!

ในมุมกลับ เสื้อผ้าธรรมชาติอย่างผ้าฝ้าย หรือเสื้อปั่นแบบวูลนั้นจะไม่ค่อยมีกลิ่น เพราะจุลินทรีย์เหล่านี้เติบโตได้ไม่ดีในเส้นใยผ้าธรรมชาติ

Rapha jersey (1 of 1)-2

ซักแล้วแต่ยังไม่หายเหม็น?

ปัญหาที่อาจจะเคยเจอก็คือ บางทีซักเสื้อแล้ว แต่กลิ่นยังไม่หายไป ยิ่งเอากลับมาใส่ใหม่ยิ่งเหม็นกว่าเดิม ที่กลิ่นไม่หายก็เพราะ บางครั้งเชื้อจุลีนทรีย์ที่หลบซ่อนอยู่ในเนื้อผ้าระดับนาโนอาจจะยังมีชีวิตอยู่ เมื่อมันได้รับประทานเหงื่อจากใต้วงแขนของเรา กระบวนการหมักดองก็เกิดขึ้นอีกครั้ง

ที่สำคัญ​ เสื้อจักรยานที่ระบายเหงื่อได้ดีนั้น อาจจะเป็นตัวกั้นไม่ให้ผงซักฟอกแทรกซึมเข้าไปถึงเนื้อผ้าด้านในสุดที่เป็นบ้านเกิดของเหล่าจุลินทรีย์ พูดง่ายๆ คือเสื้อซักไม่สะอาดครับ

 

แก้ยังไง?

1. ปั่นเสร็จแล้วควรซักเลย อย่าดองไว้ข้ามคืน ไม่งั้นจะซักกลิ่นออกยากกว่าเดิม ซักเสร็จแล้วตากในที่ลมโกรกดี จะได้ไม่เหม็นอับยิ่งกว่าเดิม

2. เวลาซักชุดปั่นพยายามอย่าใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม เพราะน้ำมันและน้ำหอมในน้ำยาปรับผ้านุ่มจะเข้าไปอุดตันเส้นใยเนื้อผ้าที่ช่วยระบายเหงื่อ ทำให้มันระบายเหงื่อได้แย่ลงและเหม็นอับ

  1. ใช้เบกกิ้งโซดาหรือเกลือละลายน้ำเปล่าในกาละมังแล้วแช่เสื้อปั่นใส่ไว้สัก 10-20 นาที จะใช้เบกกิ้งโซดาถูตรงจุดที่เหม็นอย่างใต้วงแขนก็ได้ จะช่วยกำจัดทำลายจุลินทรีย์ข้างในได้ดี บางคนแนะนำให้เติมน้ำส้มสายชูขาวลงไปผสมกับผงซักฟอกด้วย อันนี้ไม่เคยลองครับ แต่ก็เห็นว่าได้ผลดีเหมือนกัน

ปล. เวลาซักผ้าพยายามอย่าใช้อุณหภูมิสูงๆ ไม่ควรเกิน 30 องศา ดีที่สุดใช้ำน้ำธรรมดาจากก๊อก เพื่อช่วยถนอมผ้าครับ

แล้วคุณมีวิธีแก้เสื้อเหม็นยังไง? แบ่งปันกันครับ!

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *