จะมีสนามแข่งจักรยานสักกี่รายการที่จะยิ่งใหญ่ขนาดที่กลายเป็นปรากฏการณ์ทางสังคมประจำปี?
Tour of Flanders หรือ Ronde van Vlaanderen เป็นมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเบลเยียมที่จัดแข่งติดต่อกันมาร่วม 100 ปีและแต่ละปีมีผู้ชมเต็มสองข้างทางกว่า 1 ล้านคน ยังไม่รวมจำนวนผู้ชมในโทรทัศน์ทั่วโลก ไม่ใช่เรื่องแปลกครับที่ใครๆ ก็กล่าวว่าจักรยานถนนคือกีฬาประจำชาติของชาวเบลเยียม
Tour of Flanders เป็นสนามแข่งวันเดียวในระดับ Monument สนามที่สองของทุกๆ ปีการแข่งขันจักรยานถนน ToF จัดขึ้นครั้งแรกในปี 1913 โดยหนังสือพิมพ์ในเบลเยียมเพื่อเพิ่มยอดขายหนังสือพิมพ์ คล้ายๆ กับสนามแข่งอื่นๆ ที่ถูกจัดขึ้นในยุคเดียวกัน (Tour de France / Giro ก็เป็นงานมาร์เก็ตติ้งเพื่อขาย นสพ.) ผู้ก่อตั้งมีชื่อว่า Leon van den Haute นักหนังสือพิมพ์ที่ดูแลด้านกีฬาให้ นสพ. Sportwereld เพื่อโปรโมทแคว้นแฟลนเดอส์
ใน Tour of Flanders ครั้งแรก การแข่งขันเริ่มที่เมือง Ghent ตั้งแต่ 6 โมงเช้า ในวันที่ 25 พฤษภาคมปี 1913 และมีระยะทางร่วม 330 กิโลเมตรบนเส้นทางผุๆ พังๆ แชมป์คนแรกคือ Paul Deman วัย 25 ปีที่สปรินต์เอาชนะกลุ่มเบรคอเวย์จำนวน 6 คน และใช้เวลาแข่งรวม 12 ชั่วโมงเต็ม
ถึง Flanders ในยุคแรกๆ จะประสบความสำเร็จ ดึงดูดนักปั่นและผู้เข้าชมหลายต่อหลายคน แต่รายการก็ยังหาสปอนเซอร์ได้ลำบาก กว่าจะเริ่มโด่งดังจริงๆ ก็ช่วงปี 1930s อย่างในปี 1933 รายการได้รับความนิยมมากจนมีผู้เข้าร่วมแข่งขันร่วม 164 คน
ในการแข่งขันช่วงแรก ผู้จัดไม่อนุญาติให้นักปั่นมีผู้ติดตามและห้ามการช่วยเหลือทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นยางรั่วหรือรถพัง นักปั่นต้องแก้ปัญหาด้วยตัวเอง แต่กฏเหล็กแบบนี้ทำให้ผู้เข้าแข่งขันลดลงเพราะยากเกินไป จนในยุค 1930s ผู้จัดอนุญาติใหนักปั่นขอยืมสูบลม และยางสำรองได้แต่ต้องได้รับการอนุมัติจากกรรมการผู้ตัดสินระหว่างแข่งเท่านั้น จนปี 1950s ผู้จัดเริ่มปรับมาใช้กฏเหมือนสนามแข่งรายการอื่นๆ มากขึ้น
เข้าสู่ช่วงปี 1960s, Tour of Flanders เริ่มโด่งดังเหนือสนามอื่นๆ ในเบลเยียม เป็นรายการที่ให้กำเนิดแชมป์ชื่อดังอย่างทอม ซิมป์สัน (1961) และเอ็ดดี้ เมิร์กซ์ (1969) ที่เขาเอาชนะเฟลิซ จิมอนดี้ด้วยการเบรคอเวย์ทำเวลาห่างถึง 5 นาที 36 วินาที – เยอะที่สุดในประวัติศาสตร์การแข่งขันรายการนี้
18 เนินนรก
จุดเด่นของ Tour of Flanders จะเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจาก “เนิน” หรือที่ชาวเบลเยียมเรียกกันว่า Hellingen เนินพวกนี้ไม่ได้สูงชันเหมือนภูเขา แต่มีจำนวนมากกว่า 18-20 เนินในการแข่งขันแต่ละปี และอยู่เรียงต่อกัน เป็นอุปสรรคใหญ่ของนักปั่น และช่วยเพิ่มมิติการแข่งขันให้สนุกขึ้น เพราะไม่ใช่การแข่งทางราบระยะทางไกลหรือผ่านทางวิบากอย่างเดียว แต่ตัวเต็งต้องสู้กับเนินชันสั้นๆ ได้ด้วย
ในปี 1976 ผู้จัดได้เพิ่มเนิน Koppenberg ที่ชันถึง 22% เข้ามาในเส้นทางไม่ใช่แค่ชันอย่างเดียว ถนนบนทางขึ้นเนินนี้ยังเป็นถนนหินที่สั่นสะเทือน กลายเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการชิงชัยชนะกันระหว่างตัวเต็งตั้งแต่นั้นมา
ช่วงปี 1990 นักปั่นชาวเบลเยียมอย่าง Johan Museeuws (รูปข้างบน) ผูกขาดชัยชนะ กวาดแชมป์ถึง 3 สมัยและขึ้นโพเดี้ยมถึง 8 ครั้ง และกลายมาเป็นต้นกำเนิดของทีมที่โฟกัสการแข่งสนามคลาสสิค อย่าง Etixx-Quickstep ที่พัฒนามาจากทีม Mapei นั่นเอง
