11 สปรินเตอร์ที่น่าจับตามองใน Giro 2016

Giro d’Italia ไม่ใช่รายการที่เราจดจำสปรินเตอร์หรือช็อตการสปรินต์เด็ดๆ ได้สักเท่าไร เพราะจุดเด่นของรายการนี้คือสเตจภูเขามากกว่าสเตจทางราบ นั่นหมายความว่าแต่ละปีสปรินเตอร์ตัวเต็งมักจะเลือกไปลง Tour de France ที่โด่งดังและมีชื่อเสียงมากกว่าครับ สปรินเตอร์ส่วนใหญ่ที่ลงจะเป็นนักปั่นอิตาเลียนที่อยากทำผลงานในสนามบ้านเกิด

แต่! ปีนี้เรามีสปรินเตอร์เก่งๆ หลายคนมาลง Giro ด้วย เพราะผู้จัดลดเส้นทางสเตจภูเขาลงไม่ยากเท่าปีก่อนๆ และมีสเตจทางราบเพิ่มขึ้น เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักปั่นอย่างมาร์เซล คิทเทล (Etixx-Quickstep) และอังเดร ไกรเปิล (Lotto-Soudal) ได้เป็นอย่างดี (รู้หรือไม่ว่าสมัยก่อน Giro เคยมีสเตจสปรินต์มากถึง 11 สเตจ!)

เพราะงั้นเรามาดูกันว่าสปรินเตอร์ที่น่าจับตามองใน Giro ปีนี้มีใครบ้าง

1. Marcel Kittel (Etixx-Quickstep)

ตัวเต็งเบอร์หนึ่งของรายการ มาร์เซล คิทเทล สปรินเตอร์วัย 27 ปีจาก Etixx-Quickstep ตอนแรกที่เห็นชื่อคิทเทล ผมก็สงสัยเหมือนกันว่าเขามาลงรายการนี้ทำไม ไม่เก็บแรงไว้สปรินต์ใน Tour ดีกว่าหรือ? แต่พอเห็นเส้นทางแล้วก็เข้าใจได้ว่าทำไม Etixx ต้องส่งสปรินเตอร์มา เพราะนอกจากจะมีสเตจทางราบเยอะแล้ว Etixx เองไม่มีตัวเต็ง GC ด้วย และคิทเทลก็น่าจะมั่นใจในฟอร์มพอสมควรที่จะลงสองแกรนด์ทัวร์ต่อกันและประสบความสำเร็จด้วย

เมื่อคิทเทลออนฟอร์ม ก็แทบไม่ต้องถกเถียงกันว่าใครจะชนะเขาได้ เพราะเอาจริงๆ แล้วตอนนี้คือ ไม่มี! สิ่งที่เราอยากรู้มากกว่าคือจะเป็นคิทเทล “คนไหน” ที่ลงแข่ง เพราะคิทเทลที่ไม่ออนฟอร์มนี่แทบไม่ต้องกวาดสายตาหาตอนสปรินต์เลย มักจะหลุดกลุ่มไปตั้งแต่เริ่มฟอร์มขบวนสปรินต์ด้วยซ้ำ…

แฟนๆ อาจจะดีใจได้เพราะตั้งแต่เริ่มฤดูกาลมา คิทเทลพลิกฟอร์มจากหน้ามือเป็นหลังมือ ในปี 2015 เขาชนะแค่หนึ่งสนามเท่านั้น แต่ปีนี้ผ่านมาไม่ถึง 5 เดือน เขาคว้าแชมป์สปรินต์มาแล้ว 8 ครั้ง เป็นสปรินเตอร์ที่ประสบความสำเร็จในฤดูกาลนี้ ถ้าฟอร์มเขามาจริงและ Etixx เดินงานลีดเอาท์ได้ดี ก็น่าจะกินเรียบๆ อย่างน้อย 3–4 สเตจ แต่ถ้าฟอร์มเริ่มตกเดาได้ว่าคิทเทลน่าจะปั่นไม่จบรายการ อาจจะเลือกเก็บแรงไว้ไปสู้ Tour de France แทน เพราะสปรินเตอร์ที่ลงทั้ง Giro และ Tour มักจะล้าสะสมจนทำผลงานได้ไม่ดีในตูร์ครับ

2. André Greipel (Lotto-Soudal)

อีกหนึ่งทีมที่ไม่มีตัวเต็ง GC เพราะงั้น ทุกคนทุ่มสุดตัวให้กอริลล่าไกรเปิล สำหรับไกรเปิล Giro ไม่ใช่รายการที่เขาโฟกัสสักเท่าไร ที่ผ่านมาเคยชนะ 3 สเตจ (’08, ’10, ’15) เหตุผลที่ไม่ค่อยมาไม่ใช่อะไร แต่เพราะเขาเป็นสปรินเตอร์คนเดียวใน Lotto-Soudal ทำให้ทีมอยากเก็บเขาไว้ใช้ในตูร์มากกว่า

ปีนี้ไกรเปิลบาดเจ็บจนมีผลงานติดโพเดี้ยมแค่ครั้งสองครั้ง ถ้าเขากลับมาพีคได้เหมือนในตูร์ปีที่แล้วที่เก็บไป 4 สเตจ ก็จะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวสำหรับคิทเทลทีเดียว แต่ถ้าฟอร์มไม่มาก็หวังยากเหมือนกัน ผมว่าอย่างน้อยๆ เขาน่าจะได้สัก 1 สเตจ

3. Caleb Ewan (Orica-GreenEdge)

ยวนน่าจะเป็นคนที่ “น่าสนใจ” ที่สุดในบรรดาสปรินเตอร์ เป็นครั้งแรกที่เขาลง Giro ต่อยอดจากความสำเร็จใน Vuelta ปีที่แล้ว ครั้งนี้ไม่ใช่โหมโรงสำหรับสปรินเตอร์ตัวจิ๋วอีกต่อไปเพราะครั้งนี้เจอโปรรุ่นพี่ของจริง ซึ่งน่าจะทำให้เราเห็นว่าเขาจะรับมือการสปรินต์ระดับสูงสุดจริงๆ ได้หรือเปล่า

ความสำเร็จหรือไม่สำเร็จของยวนใน Giro เป็นประเด็นสำคัญที่ทีม Orica ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะว่ากันตามเนื้อผ้าแล้ว เขาเป็นเพียวสปรินเตอร์คนเดียวในทีม ในขณะที่ไมเคิล แมธธิวส์เริ่มจะผันตัวไปทางสนาม Classic One day race มากกว่าเป็น stage hunter ในแกรนด์ทัวร์ เป็นคนที่คงฟันธงมากไม่ได้ว่าจะได้แชมป์สักกี่สเตจ เพราะเอาจริงๆ แล้วตั้งแต่เริ่มแข่งมาเรายังไม่เคยเห็นเขาชนตัวต่อตัวกับสปรินเตอร์เกรด A ในเวลาที่ทุกคนฟอร์มพีคสักทีครับ

4. Elia Viviani (Sky)

เป้าหมายสำคัญของวิวิอานีคือแชมป์สเตจใน Giro สนามบ้านเกิดของเขา และดูจะเป็นคนที่เข้าล็อกกับ Sky มากเพราะเขาพอจะชนะหรือติดโพเดี้ยมได้โดยไม่ต้องพึ่งลีดเอาท์ ก็ประจวบเหมาะกับที่ Sky เน้นใช้โดเมสติกไปช่วยเอซ GC (แลนด้า) มากกว่ามาช่วยลากสปรินเตอร์ในสเตจทางราบ ถ้าวิวิอานีชนะก็ช่วยลดความกดดันของตัวเต็ง GC ของทีมไปด้วย เรียกได้ว่าเป็นการซื้อตัวที่คุ้มมากของทีม (และวิวิอานีก็ไม่เคยเรียกร้องของทีมซัพพอร์ท…)

จุดเด่นของวิวิอานีคือสปีดปลายที่ชนกับคิทเทลและไกรเปิลได้ง่ายๆ แต่จุดอ่อนก็คือไม่มีทีมซัพพอร์ทที่จะพาเขาขึ้นตำแหน่งดีๆ ก่อนเปิดสปรินต์นั่นหละครับ

5. Sacha Modolo (Lampre)

โมโดโลเป็นคนที่ชนะได้เยอะเมื่อตัวเต็งสปรินเตอร์คนอื่นไม่มาลง ถ้าไม่ถือว่าผมใจร้ายไปเราอาจจะจัดเขาไว้ในกลุ่มสปรินเตอร์ B Grade ก็ว่าได้ เร็วใช้ได้แต่ยังเอาแน่เอานอนไม่ได้นั่นเองครับ อาจจะพอหวังโพเดี้ยมหรือสัก 1 สเตจก็ได้อยู่ Lampre คงหนุนโมโดโลเต็มที่เพราะเป็นทีมอิตาเลียนในสนามอิตาลี

6. Matteo Pelucchi (IAM)

อีกหนึ่งคนในแรงค์ B Grade สปรินเตอร์…เมื่อเจอช้างอย่างคิทเทลและไกรเปิล จะชนะคงไม่ง่ายครับ เพลุคชีมีผลงานเรื่อยๆ แต่ยังไม่ค่อยเห็นผลงานในแกรนด์ทัวร์

7. Giacomo Nizzolo (Trek)

ในฐานะแชมป์เสื้อเจ้าความเร็วคนล่าสุด เขาน่าจะอยากป้องกันเสื้อแชมป์ให้ได้ และขอแชมป์สเตจกลับบ้านด้วย (ปีที่แล้วไม่ได้สักสเตจ) ปีนี้นิซโซโล่ดูฟอร์มดีและมั่นใจขึ้นเยอะครับ ล่าสุดสปรินต์ชนะคาเวนดิชใน Tour of Croatia ถึงสองสเตจ ปัญหาของนิซโซโล่คือ มักจะลงแข่งพร้อมกับสปรินเตอร์ที่เร็วกกว่าและมีทีมช่วยเหลือดีกว่าเขาเสมอ… Trek พาเฮซเชดาล แชมป์เก่ามาด้วย ก็น่าดูว่าทีมจะให้ความสำคัญสเตจวินของนิซโซโล่หรือทุ่มกำลังมาดันอันดับ GC ของเฮซเชดาลมากวก่ากัน

8. Kristian Sbaragli (Dimension-Data)

คนๆ นี้ชื่ออ่านว่า คริสเตียน ซบารากลี ที่ผลงานล่าสุดคือแชมป์สเตจใน Vuelta a Espana ปีนี้จริงๆ DD มาช่วยนักไต่เขาเก็บแชมป์สเตจมากกว่ามาช่วยสปรินเตอร์ (เพราะเก็บลีดเอาท์ไว้ใช้กับคาเวนดิชในตูร์) แต่ซบารากลีน่าจะเหมาะกับสเตจสปรินต์ที่ไม่ใช่ทางราบซะทีเดียวหรือมีเนินใกล้ๆ เส้นชัย ก็เป็นแผนรองสำหรับคว้าผลงานในกรณีที่นักไต่เขาฟอร์มไม่มา

9. Arnaud Démare (FDJ)

เดอแมร์เคยลงแข่งจิโรไม่กี่ครั้ง และก็ไม่มีผลงานในสนามนี้ด้วย ล่าสุดเขาเป็นแชมป์ Milan-San Remo แต่ปีนี้ก็ไม่ได้มีผลงานอื่นๆ อะไรให้น่าพูดถึงสักเท่าไร FDJ เองอาจจะเอาใจเดอแมร์ด้วยการให้นำทีม Giro เพื่อที่ว่าพอถึงเวลาแข่งตูร์ ทีมจะได้จัดเต็มให้ GC ของทีมไม่ต้องส่งลีดเอาท์ไปเยอะ จะได้เอาคนไปช่วยพินอท์คว้าอันดับ GC หรือเปล่า?

10. JJ Rojas (Movistar)

โรฮาสเหมือนเป็นของแถมของทีม Movistar เสียมากกว่าา เพราะชัดเจนมากว่าทีมทุ่มสุดตัวให้วาวเวอเด้ที่ลงแข่ง Giro เป็นครั้งแรก…แต่โรฮาสก็เป็นสายไม่ต้องพึ่งทีมในการทำผลงานอยู่แล้ว ดูคู่แข่งแล้วน่าจะยากเหมือนกัน

11. Nikias Arndt (Giant-Alpecin)

Giant-Alpecin อาจจะเป็นทีมสปรินเตอร์ที่เก่งมาก แต่ความเก่งนั้นมันอยู่ในมาร์เซล คิทเทล ซึ่งตอนนี้ไปอยู่กับ Etixx เสียแล้ว กระนั้นทีมก็ยังมีเบอร์รองอีกหลายคน หนึ่งในนั้นคือ นิคิอาส อานท์ ไม่ใช่ตัวจี๊ดแต่เป็นม้ามืดเสียมากกว่า สปรินต์เร็วใช้ได้แต่ยังขาดประสบการณ์ สนามนี้น่าจะเป็นโอกาสให้เขาได้เริ่มนำทีมและสร้างความมั่นใจในการสปรินต์มากขึ้น แต่ยังคงหวังผลงานอะไรมากไม่ได้ครับ

[separator type=”thin”]