มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเอง เมื่อเรามีกิจกรรมใดๆ มันย่อมต้องมีคนคิดจะทำสถิติเพื่อเป็นที่หนึ่งของโลกอยู่เสมอครับ และสถิติเหล่านี้มันก็สร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่นๆ อยากจะลองเอาชนะตัวเองทุบสถิติคนก่อนหน้าให้ได้สักวัน
ในแวดวงจักรยานเองก็มีสถิติมากมายหลายแบบ คิดว่าคนอ่านส่วนใหญ่น่าจะรู้จัก Hour Record หรือการปั่นให้ได้ระยะทางไกลที่สุดในหนึ่งชั่วโมงดีอยู่แล้ว แต่ยังมีอีกหลายสถิติบนจักรยานที่น่าตื่นตาตื่นใจครับ วันนี้มาดูเรื่องราวของ 14 สถิติโลกจักรยานที่คุณอาจจะยังไม่เคยรู้จักกัน!
1. ความเร็วสูงสุดบนจักรยาน (ไม่มีคนนำ)
สถิติความเร็วสูงสุดบนจักรยานแบบไม่มีคนนำ (Max speed, unpaced human powered record) ปัจจุบันเป็นของ Todd Reichert ที่ความเร็ว 144 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
สถิตินี้ไม่จำกัดประเภทของจักรยานที่ใช้ เริ่มปั่นแบบ flying start เพื่อหาความเร็วสูงสุด Todd และทีมของเขาใช้จักรยานที่ชื่อว่า Eta เป็นจักรยานรีคัมเบนท์แบบนอนปั่นที่หุ้มด้วยโครงคาร์บอนไฟเบอร์ โครงด้านในก็ใช้คาร์บอนไฟเบอร์เช่นกัน ตำแหน่งที่เขาปั่นนั้นออกแบบมาให้ออกแรงกดได้มากที่สุด และโครงรถออกแบบให้ลู่ลมที่สุด
จักรยานคันนี้ไม่มีหน้าต่างครับ Todd มองเส้นทางผ่านกล้องที่มีหน้าจอแสดงผลอยู่ในจักรยาน และยังบอกข้อมูลความเร็วและระยะทางแบบ real time ด้วย เขาใช้จานขนาด 93 ฟัน ที่อัตราทด 39:18 และฝึกซ้อมร่างกายอย่างหนักเพื่อให้ออกแรงได้เต็มที่
* * *
2. ความเร็วสูงสุดบนจักรยาน (มีคนนำ)
สถิติที่สองเป็นการทำความเร็วสูงสุดบนจักรยานแบบมีคนนำ (motor-paced) วิธีการคือใช้ยานพาหนะที่มีกล่องบังลมด้านหน้าจักรยานเพื่อดูว่านักปั่นจะทำความเร็วสูงสุดแบบไม่มีลมต้านเลยได้เท่าไร
สถิติปัจจุบันเป็นของ Fred Rombelberg ชาวดัทช์ที่ทำไว้ได้สูงถึง 268 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในปี 1995 ซึ่งยังไม่มีใครทำลายสถิตินี้ได้ครับ ทีมของ Fred ใช้รถแข่ง dragster ทำความเร็วนำ และสถานที่ทำสถิติคือที่ราบลานเกลือ (salt flat) ในเมืองบอนน์วิลล์ รัฐยูทาห์ในสหรัฐอเมริกา สถานที่ทำความเร็วของรถแข่งนาๆ ชนิดอันเลื่องชื่อนั่นเอง
จักรยานที่เขาใช้เป็นจักรยานสั่งตัดพิเศษโดย Cook Brothers ในราคาประมาณ 430,000 บาท ขับเคลื่อนแบบสองใบจาน จานใหญ่ขนาด 70/13 ฟัน จานหลัง 60/15 ฟัน หนึ่งรอบการควงขาจะทำระยะทางได้ 34 เมตร คิดเป็นสี่เท่าของระบบเกียร์ 10 สปีดที่เกียร์หนักที่สุด
ตะเกียบก็ออกแบบมาพิเศษเช่นกันเพื่อให้ซับแรงสะเทือนที่ความเร็วสูงเกินสองร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมง เบรคหลังใช้ของ Shimano แบบ Cantilever
* * *
3. ความเร็วลงเขาสูงสุด (จักรยานโปรโตไทป์)
สถิตินี้เป็นของคนฝรั่งเศสที่ชื่อ Eric Barone ครับ สถิติความเร็วลงเขาปกติมีสองแบบคือแบบที่ใช้จักรยานพิเศษ (โปรโตไทป์) ไม่มีวางจำหน่ายจริง และแบบที่สองคือจักรยานโปรดักชัน หรือจักรยานที่เราสามารถหาซื้อได้ทั่วไป
Eric ทำสถิตินี้ในปี 2015 ที่สกีรีสอร์ท Vars ในประเทศฝรั่งเศสที่ความเร็ว 223.3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
Eric เป็นคนที่บ้าความเร็วมาแต่ไหนแต่ไร เขาเคยเป็นผู้ตรวจความปลอดภัยในสนามสกีในช่วงปี ’80s ก่อนจะมาเป็นสนันท์แมนให้ภาพยนตร์ระดับโลกหลายเรื่อง (เช่น Taxi, Taxi 2, Highlander, Lucy) เขาปั่นจักรยานเสือภูเขาครั้งแรกในปี 1994 และเคยเป็นแชมป์โลกและแชมป์ยุโรปเสือภูเขาดาวน์ฮิลล์ในประเภท Master จนเริ่มเสพติดความเร็วจากการปั่นลงเขา
Eric ทำลายสถิติความเร็วลงเขาหลายครั้งทั้งบนเส้นทางภูเขาธรรมดาและบนหิมะ เขาทำลายสถิติลงเขาครั้งแรกได้ในปี 2000 ที่ 222.22 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ปี 2002 เขาพยายามทำลายสถิติตัวเองอีกครั้งที่สันภูเขาไฟในนิการากัวแต่กลับล้มคว่ำที่ความเร็ว 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไหล่เคลื่อน ซี่โครงหัก 6 ซี่, แผลที่มือติดเชื้อจนเกือบต้องตัดทิ้ง และความกลัวที่เขาต้องใช้เวลา 8 ปีกว่าจะกลับมาปั่นจักรยานดาวน์ฮิลล์ได้อีก
จักรยานของ Eric ร่วมพัฒนาโดย SR Suntour และสนับสนุนโดย Red Bull รถใช้โช้ค Suntour Auron ที่ปรับเปลี่ยนไส้ในให้รองรับความเร็วสูง (โช้คยุบได้ 70mm) โช้คหลังเป็น Suntour Unair โปรเจ็คนี้ใช้เวลาพัฒนา 3 ปีและใช้เงินร่วม 7 ล้านบาท
* * *
4. ความเร็วลงเขาสูงสุด (จักรยานโปรดักชั่น)
สถิตินี้เป็นของ Markus Stockl ชาวออสเตรียบนภูเขาไฟที่นิการากัว ทำลายสถิติของ Eric Barone ที่ตั้งไว้เมื่อ 9 ปีก่อน ด้วยความเร็ว 164.95 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งการทำลายสถิติครั้งนี้เจ้าของสถิติเก่าอย่าง Barone มาร่วมเป็นผู้ชม
Markus บอกว่า “การปั่นลงภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่นั้นไม่ง่ายเลย เพราะไม่ใช่ทางราบแต่เป็นทางกรวดผสมทรายที่ความชัน 45 องศาและกว่ารถจะนิ่งได้นั้นคุณต้องปั่นที่ความเร็วสูงมากๆ แล้ว”
* * *
5. ระยะทางมากสุดในหนึ่งชั่วโมง (Hour Record ชาย)
สถิตินี้เชื่อว่าแฟนๆ จักรยานคงรู้จักกันดีอยู่แล้ว เพราะมันคือผลงานของเซอร์แบรดลีย์ วิกกินส์ นักปั่นชื่อดังจากอังกฤษ เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 5 รายการ ผู้มากับความเก๋าและกวนที่สุดคนหนึ่งในวงการโปรทัวร์
วิกกินส์ทำลายสถิติภายใต้กฏใหม่ของทางสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (UCI) ที่อนุญาตให้นักปั่นใช้จักรยานรูปทรงลู่ลมที่อยู่ภายใต้กรอบการแข่งขันจักรยานลู่ซึ่งบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมา (แต่ก่อนนักปั่นต้องใช้จักรยานรูปทรงเสือหมอบที่ไม่สามารถใช้อุปกรณ์ลู่ลมไม่ว่าจะเป็นล้อ ท่าปั่น แฮนด์ และเฟรมได้เลย)
ระยะทางของวิกกินส์อยู่ที่ 54.526 กิโลเมตร ทำลายสถิติของเพื่อนร่วมชาติ อเล็กซ์ ดาวเซ็ตต์ที่ทำไว้ 52.937 กิโลเมตรแค่หนึ่งเดือนก่อนหน้าวิกกินส์เท่านั้น
จักรยาน Pinarello Bolide ของวิกกินส์นั้น DT เคยลงรายละเอียดไว้แล้วที่ ลิงก์นี้ครับ
* * *
6. ระยะทางมากสุดในหนึ่งชั่วโมง (Hour Record หญิง)
สำหรับ Hour Record ฝั่งหญิงนั้น อาจจะไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่เพิ่งทำลายสถิติกันเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี่เองครับ สถิตินี้เป็นของนักปั่นสาวอเมริกัน Evelyn Stevens ที่ทำลายสถิติคู่แข่ง Birdie O’Donnell ในปีเดียวกันด้วยระยะทาง 47.980 กิโลเมตร มากกว่า Birdie 1 กิโลเมตร
* * *
7. ระยะทางมากสุดในหนึ่งชั่วโมง (Hour Record ชาย*)
พูดถึง Hour Record แล้วจะไม่พูดถึงชายคนนี้คงไม่ได้ ถ้าไม่นับเรื่องกฏ Hour Record UCI ที่เปลี่ยนหลายครั้งแล้ว คริส บอร์ดแมนคือมนุษย์ที่ทำระยะทางในหนึ่งชั่วโมงได้เยอะที่สุดในโลก ที่ 56.375 กิโลเมตร บนจักรยานและท่าปั่นพิเศษซึ่งตอนนี้ถูกแบนไปแล้วทั้งสองอย่างครับ
บอร์ดแมนเป็นทั้งนักประดิษฐ์ นักปั่นระดับโลกผู้เคยคว้าเสื้อเหลืองจาก Tour de France และเป็นแชมป์โลกประเภท Individual Pursuit มาแล้ว ความพยายามในการทำลายสถิติ Hour Record ของเขาในช่วงท้ายปี 90s ที่ขับเคี่ยวกับคู่แข่งกราอีม โอบรีนั้นเป็นตำนานบขึ้นหิ้งของวงการจักรยานก็ว่าได้
สถิติของบอร์ดแมนนั้นถูกจัดอยู่ในหมวด “Best Human Effort” ซึ่งไม่ได้มีกฏบังคับอุปกรณ์หรือท่าปั่น แต่ต้องปั่นในเวโลโดรมและมีกรรมการจาก UCI เป็นคนคุมการทำสถิติครับ
* * *
8. ระยะทางมากสุดในหนึ่งชั่วโมง (Hour Record ชาย*)
และก่อนจะมีบอร์ดแมนกับโอบรีนั้น วงการเรามีตำนานระดับเทพอย่างเอ็ดดี้ เมิร์กซ์ บุรุษผู้พิชิตทุกรางวัลและทุกสถิติของวงการจักรยานครับ นอกจากจะเป็นแชมป์ Tour de France ห้าสมัยและสนามอื่นอีกนับไม่ถ้วนแล้ว เมิร์กซ์ยังถือครองสถิติ Hour Record ที่โหดที่สุดก็ว่าได้ เพราะเขาใช้จักรยานเสือหมอบโครโมลี่ธรรมดาๆ ที่โมดิฟายด้วยการเจาะรู้ (ซึ่งจริงๆ แล้วต้านลมกว่าเดิม!) เมิร์กซ์ทำสถิติไว้ที่ 49.441 กิโลเมตรในเวโลโดรมแบบเอาท์ดอร์บนเขาในเม็กซิโกด้วยอายุเพียง 27 ปีครับ
สถิติ Hour Record ของเมิร์กซ์ถูกทำลายโดยบอร์ดแมนในปี 2000 และออนเดร โซเซงก้าในปี 2005 ที่ระยะทาง 49.700 กิโลเมตร ปัจจุบันยังไม่มีใครทำลายสถิติของโซเซงก้าได้ด้วยจักรยานเสือหมอบแฮนด์ดรอป
* * *
9. ระยะทางมากสุดในหนึ่งชั่วโมง (Streamlined Recumbent)
นอกจาก Hour Record ที่ใช้จักรยานใต้กฏ UCI แล้วทางฝั่งจักรยานรีคัมเบนท์ หรือจักรยานนอนปั่นก็มีการทำสถิตินี้เช่นกันครับ
Hour Record จักรยานรีคัมเบนท์แบ่งออกเป็นสองแบบ คือจักรยานแบบ streamlined (ใส่โครงแอโรได้) และแบบ non-streamlined แบบแรกจัดอยู่ในประเภท Human Powered Vehicle นั่นคือจะโมยังไงก็ได้ขอให้ใช้แรงมนุษย์ในการขับเคลื่อน
สถิติปัจจุบันเป็นของ Frencesco Russo ชาวสวิสที่ทำไว้ 91.556 กิโลเมตรในหนึ่งชั่วโมงในปี 2011 ในสนามทดสอบรถ DEKRA ในประเทศเยอรมนี
วิธีการทำสถิตินั้นเหมือน สถิติความเร็วสูงสุดบนจักรยาน นั่นคือสตาร์ทแบบ Flying Sprint ระยะทาง 200 เมตรก่อนจะปล่อยให้ทำความเร็วหนึ่งชั่วโมงเต็มครับ
* * *
10. ระยะทางมากสุดในหนึ่งชั่วโมง (Recumbent)
สำหรับ Hour Record แบบ non-streamlined recumbent เป็นของชาวฝรั่งเศส Aurelien Bonneteau ที่ทำระยะทางไว้ 56.696 กิโลเมตร ในเวโลโดรม Bordeaux ประเทศฝรั่งเศส
สถิติประเภทนี้ให้ใช้จักรยาน recumbent แต่ไม่ให้ใช้อุปกรณ์แฟริ่ง ใช้ได้แค่ล้อแอโร Aurelien ใช้ใบจานรีและขาจานสั้นเพื่อลดลมปั่นป่วนที่เกิดขึ้นจากการควงขา
* * *
11. ระยะทางมากสุดใน 24 ชั่วโมง
วงการรถแข่งมีเลอมังส์ที่นักแข่งต้องขับรถต่อเนื่อง 24 ชั่วโมงในสนามแข่ง จักรยานก็มีเช่นกันครับ เป็นสถิติระยะทางมากสุดใน 24 ชั่วโมง ซึ่งสถิตินี้เป็นของ Christoph Strasser ชาวออสเตรียวัย 34 ปี แชมป์ Race Across America 3 สมัย
Strasser ทำสถิตินี้ในสนามบินเบอร์ลินบนจักรยานไตรกีฬา Spealized Shiv Tri เป็นระยะทางทั้งหมด 896 กิโลเมตร พลาดจากเป้าหมาย 900 กิโลเมตรที่เขาตั้งไว้นิดเดียวเท่านั้น
เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ว่าอากาศเย็นเกินจนทำให้เขาปั่นได้ไม่เต็มที่ สถิติ 24 ชั่วโมงก่อนหน้านี้เป็นของ Jure Robic ชาวสโลวีเนียในปี 2004 ที่ 840.037 กิโลเมตร
♦ ♦ ♦
12. คนที่ปั่นข้ามสหรัฐอเมริกาได้เร็วที่สุดในโลก
ก็คือ Strasser คนเดิมนั่นเองครับ เขาทำสถิติ Race Across America หรือ RAAM ระยะทาง 4,828 กิโลเมตร ในเวลา 7 วัน 15 ชั่วโมง 56 นาที เป็นเวลาที่ดีที่สุดของ RAAM ตั้งแต่แข่งมาทั้งหมด คิดเป็นความเร็วเฉลี่ย 26.42 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
* * *
13. ระยะทางมากที่สุดใน 1 ปี (ชาย)
สถิติ 24 ชั่วโมงก็มีแล้ว แล้วถ้าขยายเป็น 1 ปีคุณคิดว่ามนุษย์เราจะปั่นได้กี่กิโลเมตร? สถิตินี้ชื่ออย่างเป็นทางการคือ World Endurance Record (for a single year) ครับ ปัจจุบันเป็นของ Kurt Searvogel ชาอเมริกันที่ทำไว้ 122,432 กิโลเมตร แต่ก่อนจะทำได้นี่เรื่องราวการพิชิตสถิตินี้น่าสนใจมาก
ผู้ริเริ่มและสร้างแรงบันดาลใจในการปั่นจักรยานทางไกลคือทอมมี่ ก็อดวิน นักปั่นชาวอังกฤษที่ทำสถิติการปั่นเยอะที่สุดในหนึ่งปีไว้ในปี 1939 – เขาปั่นเป็นระยะทางทั้งหมด 120,805 กิโลเมตร! ตกวันละ 320 กิโลเมตรโดยแทบไม่หยุด สถิตินี้อยู่มายาวถึง 76 ปีเต็ม
ปี 2015 มีนักปั่นสามคนอยากจะทุบสถิติของปู่ก็อดวิน มี Steve Abraham (อังกฤษ) ที่เริ่มปั่น 1 มกรา 2015 คนที่สองคือลุง Searvogel (อเมริกัน) ที่เริ่ม 10 มกราคม 2015 และคนที่สาม Miles Smith (ออสเตรเลีย) เริ่มปั่น 18 มิถุนา 2015
ในสามคนนี้ Abraham ซวยสุดเพราะโดนรถชนจนข้อเท้าหัก เขาพักแค่สองสัปดาห์แล้วตัดสินใจปั่นต่อด้วยขาข้างเดียว ซึ่งใน 365 วันเขาทำระยะทางไป 102,303 กิโลเมตร
คนเดียวที่ทำสำเร็จคือลุง Searvogel ที่ทำลายสถิติของก็อดวินได้สำเร็จโดยยังเหลือเวลาให้ปั่นต่ออีก 5 วัน Searvogel ตัดสินใจจบสถิติที่ระยะทาง 76,076 ไมล์ (122,432 กิโลเมตร) เขาบอกว่าตัวเลขนี้มีความหมายมาก เพราะสถิติของก็อดวินนั้นอยู่มายาวนานถึง 76 ปีเต็ม การจบที่เลขนี้เป็นการให้เกียรติและรำลึกถึงความยิ่งใหญ่ของก็อดวินนั่นเองครับ
* * *
14. ระยะทางมากที่สุดใน 1 ปี (หญิง)
สถิติสุดท้ายเป็นระยะทางมากที่สุดใน 1 ปีของฝั่งหญิง ซึ่งเพิ่งจะถูกทำลายไปไม่กี่วันที่ผ่านมานี้นี่เอง สถิตินี้เป็นของ Kajsa Tylen ที่เริ่มปั่นเมื่อ 1 มกราคม 2015 และทำระยะทางรวมได้ 52,024 กิโลเมตร เฉลี่ยวันละ 142 กิโลเมตร
สถิติหญิงก่อนหน้านั้นต้องย้อนไปถึงปี 1938 ที่ทำไว้โดยบิลลี ฟเลมิ่ง นักปั่นชาวอังกฤษที่ปั่นได้ 47,642 กิโลเมตร ซึ่งไม่มีใครทำลายได้จนปี 2016 ครับ (คล้ายๆ ของชายเลย)
Tylen เริ่มจากน็อตติงแฮมในอังกฤษ ปั่นข้ามไปยุโรป โดยมีเป้าหมายอยากจะเป็นแรงบันดาลใจให้คนออกมาปั่นจักรยานมากขึ้นและ อยากจะทำลายสถิติของฟเลมิ่งด้วย
ใครจะเชื่อว่างานประจำของเธอคือเป็นนักวิเคราะห์ธุรกิจ ไม่ใช่นักกีฬา
* * *