วันนี้เรามาย้อนดูทีม Garmin-Sharp ครับถึงแม้จะเจออุปสรรคมากมายตลอดฤดูกาล 2012 แต่ชัยชนะรายการ Grand Tour ครั้งแรกของทีมก็มากพอที่จะลบข้อสงสัยในความสามารถของทีมมวยรองจากสหรัฐทีมนี้
Team Profile
ทีม Garmin-Sharp เป็นหนึ่งในทีมโปรดของผมครับ เชื่อว่าทีมการ์มินเป็นที่รู้จักดีสำหรับแฟนๆ เสือหมอบคนไทยเพราะเป็นทีมเดียวที่ใช้จักรยาน Cervelo การ์มินมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร เป็นโปรทีมอเมริกันเล็กๆ ที่เน้นการปั้นนักแข่งเยาวชนขึ้นมาเป็นตัวเต็งในระดับ Pro Tour แทนที่จะเซ็นสัญญากับนักแข่งรุ่นเก๋าค่าตัวสูงลิบ ทีมการ์มินก่อตั้งขึ้นในปี 2003 และรวมตัวกับทีม Cervelo Test Team ในปี 2010 ค่อยๆ ไต่เต้าเก็บริบรอมผลงาน ไม่ว่าจะเป็นรางวัลชนะเลิศ Paris Roubaix ในปี 2011, ชัยชนะเสตจจากทุกๆ Grand Tour, รางวัลผู้ชนะเวลารวมแบบทีม (Team Classification)ใน Tour de france, และล่าสุดรางวัลผู้ชนะเวลารวม Grand Tour รายการแรกของทีมใน Giro d’ Italia ปี 2012
จุดเด่นของทีมคือเป็นทีมที่เชี่ยวชาญการแข่งขัน Team Time Trial (TTT) เป็นพิเศษ ปรกติเราจะเห็นแต่ Individual Time Trial ในรายการแข่งเพราะการจัด TTT ต้องใช้ทรัพยากรและการจัดการที่ยุ่งยากกว่า แต่เป็นหนึ่งในประเภทการแข่งที่ยากที่สุดเพราะต้องอาศัยความสามัคคีของคนทั้งทีมช่วยกันปั่นให้ได้เวลาน้อยกว่าทีมอื่น (เร็วกว่า) และต้องอาศัยการฝึกซ้อมเฉพาะทางที่น้อยทีมจะให้ความสนใจ ปีที่แล้วการ์มินได้รางวัลชนะเลิศ TTT ถึง 3 รายการจาก Tour of Qatar, Giro d’Italia และ Tour of Utah
[divider] [/divider]
ผลงานปี 2012
สำหรับทีมการ์มินคงไม่มีรางวัลใดๆ ยอดเยี่ยมไปกว่ารางวัลผู้ชนะเวลารวมในจิโรปีที่ผ่านมา Ryder Hesjedal เฉือนเอาชนะ Joaquim Rodriguez ไปอย่างไม่น่าเชื่อ เราได้เห็นการต่อสู้ชิงเสื้อผู้นำแบบสูสีที่สุดในรอบหลายปี Ryder พลิกเอาเสื้อผู้นำกลับคืนมาในเสตจรองสุดท้าย Inidividual Time Trial และได้เป็นแชมป์จิโรในที่สุด
กลับกันกับสถานการณ์ใน Tour de France ที่นักปั่นเกือบทั้งทีมการ์มินประสบอุบัติเหต บาดเจ็บจนต้องถอนตัวไปหลายคนไม่ว่าจะเป็นตัวเต็ง GC อย่าง Ryder และไม้รอง Tom Danielson ถึงจะเสียลูกทีมไปเยอะและหมดโอกาสขึ้นโพเดียม แต่แล้ว David Millar นักปั่นชาวอังกฤษและหุ้นส่วนใหญ่ของทีมการ์มินก็ช่วยกู้หน้าทีมได้สำเร็จ คว้าชัยชนะมาได้ในเสตจ 12 ตูร์ปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นความล้มเหลว (อาจจะเรียกว่าดวงไม่ดีเสียมากกว่า) เพราะเมื่อเทียบกับปี 2011 การ์มินได้ชัยชนะถึงสามเสตจจาก Tyler Farrar และ Thor Husshovd แถมยังพกรางวัลทีมผู้ชนะเวลารวม (Team Classification) กลับบ้านไปนอนกอดอีกด้วย
Dan Martin บาดเจ็บหนักจนต้องถอนตัวออกจากการแข่งขัน TDF 2012ผลงานในรายการแข่งวันเดียวและรายการคลาสสิคก็ค่อนข้างน่าผิดหวังที่ Johan Vansummeren ไม่สามารถป้องกันแชมป์ Paris-Roubaix ได้และ Sep Vanmarcke นักปั่นตัวเต็งรายการคลาสสิคของทีมฟอร์มไม่ดีเท่าที่ควร นอกจากนี้ Tyler Farrar สปรินเตอร์หนุ่มประจำทีมที่เคยคว้าหลาย stage wins จาก Tour de France ก็ไม่มีผลงานเลยตลอดทั้งฤดูกาล ถึงผลงานจะดูเหมือนขึ้นๆ ลงๆ แต่ทีมการ์มินรักษาฟอร์มได้ดีมากในรายการแข่งที่อเมริกาซึ่งเป็นฐานที่มั่นหลักของทีมไม่ว่าจะเป็นผู้ชนะเวลารวม USA Pro Cycling Challenge โดย Christian Vande Velde, ในขณะที่ Tyler Farrar และ Tom Danielson คว้าชัยชนะ 3 เสตจ
ในช่วงท้ายปีทีมการ์มินต้องเจอกับข่าวฉาวที่ไม่ค่อยจะดีนักเพราะนักปั่นอาวุโสไม่ว่าจะเป็น David Zabriskie, Tom Danielson และ Christian Vande Velde ได้สารภาพการใช้สารกระตุ้นและระหว่างที่เคยแข่งในทีม US Postal กับ USADA หน่วยงานต่อต้านการใช้สารกระตุ้นแห่งสหรัฐอเมริกา รับโทษห้ามแข่งเป็นเวลาหกเดือน จะเริ่มแข่งได้ใหม่ในเดือนมีนาคมปีนี้[divider] [/divider]
แนวโน้มปี 2013
ในฤดูกาลนี้ทีมการ์มินอาจจะไม่มีผลงานดีเท่าปีก่อนๆ เพราะดูเหมือนจะเป็นช่วงเวลา “เปลี่ยนผ่าน” นักปั่นรุ่นเก๋าอย่าง Zabriskie, Millar, Tom Danielson อายุอานามค่อนข้างจะเกินวัย “peak” ยากที่จะชนะนักปั่นอายุน้อย ในขณะที่นักปั่นหน้าใหม่อย่าง Andrew Talansky และ Dan Martin ที่ถึงแม้ฟอร์มจะดี แต่ก็คงเป็นแค่มวยรองในรายการใหญ่ๆ อยู่ดีเพราะยังขาดประสบการณ์และกลยุทธ์ในการเอาชนะทีมอื่น อย่างไรก็ตามการ์มินยังมีปืนอีกหลายกระบอกที่พร้อมจะยิงเก็บชัยชนะแบบเซอร์ไพรส์อย่างจิโรปีที่ผ่านมาครับ ลองมาดูนักแข่งทีน่าจับตามองกัน
1. Ryder Hesjedal
แชมป์จิโรปี 2012 นักปั่นไสตล์ stage race จากแคนาดาวัย 32 ปี แน่นอนว่าถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด Ryder ต้องลงป้องกันแชมป์จิโร ซึ่งอาจจะต้องเจอกับ Bradley Wiggins จาก Sky Ryder น่าจะมีแต้มต่อพอสมควรเพราะพกความมั่นใจจากการเป็นแชมป์ปีที่แล้ว ต้องรอดูฟอร์มช่วงต้นปีว่าจะเป็นอย่างไร นักปั่นคนล่าสุดที่เป็นแชมป์จิโรสองสมัยซ้อนคือ Miguel Indurian เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ปีหน้าเราอาจจะได้เห็นดับเบิ้ลแชมป์อีกครั้งในรอบสองทศวรรษ[divider] [/divider]
2. Tyler Farrar
ฤดูกาลที่แล้วถือว่าแย่มากสำหรับ Farrar ที่มีผลงานแค่ 2 ชัยชนะตลอดทั้งปี แต่จะโทษว่าฝีมือไม่ดีหรือขี้เกียจก็อาจจะไม่ถูกกเสียทีเดียว เพราะ Farrar เจออุบัติเหตใหญ่ๆ ถึงสี่ครั้งจนต้องหยุดปั่นไปพักรักษาตัว จริงๆ แล้วนักปั่นอเมริกันวัย 28 ปีคนนี้เป็นสปรินเตอร์ฝีมือใช้ได้ แต่หลังจากฟอร์มตกไปพักใหญ่ก็น่าจะยากที่จะต่อกรกับขาแรงมือฉมังอย่าง Andre Griepel, Mark Cavendish และ Peter Sagan ต้องดูว่าเขาจะแก้มือได้หรือเปล่าใน Tour de France ปีนี้ ชัยชนะใน Tour de France เป็นสิ่งจำเป็นมากสำหรับทีมเล็กๆ อย่างการ์มินที่ไม่มีนักปั่น GC ระดับท๊อป การเก็บ stage win อย่างน้อยก็ช่วยลดแรงกดดันให้กับเพื่อนร่วมทีมครับ [divider] [/divider]
3. Nick Nuyens
นักปั่นคลาสสิคชาวเบลเยี่ยมที่พึ่งจะย้ายทีมมาจาก Saxo Tinkoff อดีตแชมป์ Tour of Flanders ปี 2011 และรายการคลาสสิคอย่าง Kuurne-Brussels-Kuurne และ Dwars door Vlaanderen น่าจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ทีมในสนามแข่งช่วงต้นปีได้ดี เรียกได้ว่าเข้ามาแทน Sep Vanmarcke เซียนคลาสสิคคนก่อน แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ Nuyens เคยรถล้มกระดูกสะโพกหักเมื่อต้นปีที่แล้ว ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อการแข่งในฤดูกาลนี้ก็เป็นได้ [divider] [/divider]
4. Andrew Talansky
ว่าที่นักปั่น GC คนใหม่ของการ์มิน หนุ่มอเมริกันวัย 23 ปีคนนี้ถือว่ารอบจัดทีเดียว เป็นนัก Time trial และนักไต่เขาฝีมือดี เคยเป็นแชมป์ Time trial อเมริกาในระดับเยาวชน และปีที่แล้วก็เป็นที่สองรองจาก Bradley Wiggins ใน Tour of Romandie และอันดับ 7 ใน Vuelta a Espana ผลงานระดับนี้ถือว่าไม่ธรรมดาสำหรับคนที่พึ่งจะเทิร์นโปรได้สองปี ฤดูกาลนี้ต้องจับตาดูฝีมือไอ้หนูคนนี้ใน Tour de France [divider] [/divider]
สรุป
Garmin Sharp ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นมวยรองในบรรดา Peloton มีนักปั่นระดับท๊อปค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกันแบบทีมต่อทีม แต่ก็เป็นทีมที่มักจะมีเซอร์ไพรส์ให้ผู้ชมได้เห็นอยู่บ่อยๆ ถ้าดวงไม่แย่จนเกินไปเหมือนเมื่อปีที่ผ่านมา การ์มินก็น่าจะเป็นทีมที่สร้างสีสันใน Tour de France ได้ดีทีเดียว ปีนี้คงเป็นเป็นปีเปลี่ยนผ่านในการผลัดไม้เก่าของนักปั่นอาวุโส และใช้เป็นช่วงเวลาเก็บประสบการณ์สำหรับนักปั่นรุ่นน้องที่พึ่งจะเทิร์นโปร อาจจะไม่ได้เห็นอะไรหวือหวามาก แต่ก็น่าติดตามครับ
