2015 Vuelta a Espana: 22 สิงหาคม – 13 กันยายน
ลิงก์ถ่ายทอดสด: www.duckintiger.com/live
เป็นเวลาหลายปีมาแล้วที่สนามแข่งแกรนด์ทัวร์รายการสุดท้ายของปี Vuelta a Espana (วูเอลต้า อา เอสปัณญ่า) หรือ Tour of Spain พิสูจน์ตัวเองในฐานะแกรนด์ทัวร์ที่สนุกตื่นเต้นที่สุด
The Race for Aces
ในวูเอลต้า ปี 2012 อัลเบอร์โต้ คอนทาดอร์ที่เพิ่งรับโทษแบนจากการใช้สารต้องห้าม โชว์ยอดกลยุทธ์ในการพลิกเกมเอาชนะวาคิม โรดริเกรซ ส่วนปี 2014 ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสนามล้างตาของคริส ฟรูม (Sky) และคอนทาดอร์ที่ต้องถอนตัวจากการแข่งขัน Tour ก่อนหน้าจากอาการบาดเจ็บ ก็กลับกลายเป็นเกมช้างชนช้างจากตัวเต็งขาใหญ่ 4 คน (ฟรูม คอนทาดอร์ วาวเวอเด้ และโรดริเกรซ)
ถึงแม้จะเป็นแกรนด์ทัวร์ที่อายุน้อยที่สุด (ปีนี้เป็นการจัดครั้งที่ 70) แต่ปีนี้ก็ดูจะน่าตืนตากว่า Vuelta ปีก่อนๆ เสียอีก ทำไมน่ะหรือ? ต้องลองดูรายชื่อนักปั่นที่จะลงแข่งครับ — คริส ฟรูม แชมป์ Tour de France จากทีม Sky, คู่โหด Movsitar อเลฮานโดร วาวเวอเด้และไนโร คินทานา, วาคิม โรดริเกรซ (Katusha), ทีเจย์ แวนการ์เดอเรน (BMC) ที่ป่วยต้องถอนตัวจากตูร์, สามทหารเสือจาก Astana — มิเคล แลนด้า, วินเชนโซ นิบาลิ และฟาบิโอ้ อารู ดีกรีโพเดี้ยมแกรนด์ทัวร์ทุกคน ยังไม่รวมแฟรงก์ ชเล็ค (Trek) นักปั่นฟอร์มลึกลับที่ยังไม่โชว์ฟอร์ฒ (สักที) มีราฟาล ไมย์ก้า ขาแรงจาก Tinkoff-Saxo ที่จะมานำทีมแทนเอซคอนทาดอร์ ตบท้ายด้วยนักปั่นที่ฟอร์มจี๊ดที่สุดในปีนี้ ปีเตอร์ ซากาน ขวัญใจนักปั่นชาวไทย โดยรวมแล้ว ถ้าไม่นับคอนทาดอร์ รายการนี้จัดว่ามีตัวเต็งมาเยอะไม่แพ้ตูร์เลยทีเดียว จะขาดไปก็แค่ Star Sprinter อย่างไกรเปิล คาเวนดิช และคิทเทล
Vuelta เปลี่ยนไปแล้ว
ที่ผ่านมา Vuelta มักจะถูกขนานนามว่าเป็นสนามลูกเมียน้อยเพราะนอกจากจะอายุน้อยกว่า Giro / Tour แล้ว ยังโด่งดังน้อยกว่าเพื่อนแล้ว การที่เป็นแกรนด์ทัวร์รายการสุดท้ายของปีหมายความว่านักปั่นหลายๆ คนเริ่มล้าจากการแข่งทั้งปี ทำให้ฟอร์มไม่จี๊ด แข่งไม่มันส์ คนดูก็เริ่มเอียน เพราะดูแข่งมาตลอดทั้งปี เมื่อไม่มีตัวเต็งมาลง สปอนเซอร์ก็ไม่มาก งานก็จัดได้ไม่ยิ่งใหญ่เหมือน Giro และ Tour ศักดิ์ศรีแชมป์จึงไม่เคยเทียบเท่าสนามใหญ่ในอิตาลีและสเปน แถมโปรหลายคน (แคนเชอลารา…) มักจะลง Vuelta เพื่อ “เป็นทางผ่าน” ใช้ฟิตฟอร์มซ้อมแข่งสนามชิงแชมป์โลกช่วงปลายเดือนกันยายน และมักจะ “ถอนตัว” ตั้งแต่สัปดาห์ที่สองของการแข่งขัน งานกร่อยตั้งแต่เกมยังไม่เดือด
แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รายชื่อ Startlist ระดับโลกมันสะท้อนข้อเท็จจริงบางอย่างครับ นั่นคือ ภาพลักษณ์ของ Vuelta นั้นเปลี่ยนไปจากสนาม “แก้มือ” ของบรรดาโปรที่พลาดในตูร์เดอฟรองซ์ ราวกับว่าสนามนี้ถูก “ยกระดับ” ขึ้นมาในช่วงเวลาไม่กี่ปี กลายเป็นแกรนด์ทัวร์ที่โปรเริ่มให้ความสนใจจริงจังกันอีกหนึ่งครั้ง
คลื่นใต้น้ำ
คนที่น่าจับตามองที่สุดใน Vuelta ปีนี้ DT คิดว่าเป็นคริส ฟรูม แชมป์ตูร์จากทีม Sky ลองคิดแบบทฤษฏีสมคมคบคิดแล้วก็มีประเด็นน่าสนใจครับ ปีนี้บอสทีม Tinkoff-Saxo โอเล็ก ทิงคอฟพยายามผลักดัน “The Grand Tour Challenge) หรือยุให้ตัวเต็งชื่อดังลงแข่งแกรนด์ทัวร์อย่างน้อยๆ 2 รายการต่อปี เพื่อให้ทุกสนามน่าตื่นตาตื่นใจ เป็นการกระตุ้นวงการจักรยาน กัปตันทีม อัลเบอร์โต้ คอนทาดอร์เลือกลงแข่ง Giro และ Tour เขาชนะ Giro แต่ฟอร์มตกใน Tour จากอาการเหนื่อยล้า ก็ทำไม่ได้ตามเป้าหมาย และโอเล็กก็ออกมาบอกที่หลังว่ามันไม่แฟร์ที่คอนทาดอร์จะแข่งกับฟรูมที่ยังสดไม่ได้ลงแกรนด์ทัวร์มาก่อนเหมือนเอซสเปน
การที่ฟรูมมาลง Vuelta นี้อาจจะมีความหมายครับ เพราะแชมป์เก่าปี 2014 คือคอนทาดอร์ ถ้าฟรูม “เบิ้ลแชมป์” แกรนด์ทัวร์ได้ในปีเดียวกัน คงเป็นเรื่องน่าอายสำหรับอดีตแชมป์เก่าที่เป็นถึงเจ้าถิ่นชาวสเปน
สำหรับฟรูมเอง การได้แชมป์ Vuelta นั้นมีความหมายยิ่งกว่าแค่ได้เย้ยหยันคอนทาดอร์และโอเล็ก เพราะถ้าเขาทำได้สำเร็จ เขาจะเป็นนักปั่นคนที่สามในโลกที่คว้าแชมป์ Tour และ Vuelta ในปีเดียวกัน ก่อนหน้านั้นมีฌาค อองเคอร์ทิล (1963) และ ‘The Badger’ เบอร์นาร์ด อินอลท์ (1978) คนที่ทำได้ใกล้เคียงที่สุดเป็นคาร์ลอส ซาสเตร้ ที่คว้าแชมป์ตูร์ในปี 2008 แต่ทำได้เพียงอันดับสามใน Vuelta ปีเดียวกัน พ่ายให้คอนทาดอร์ไป
ฟรูมกำลังเจอปัญหาเดียวกับคอนทาดอร์ที่ต้อง “หวด” ทั้งฟาบิโอ้ อารู และมิเคล แลนด้า สองตัวโฉดจาก Astana ที่เล่นเอาคอนทาดอร์หมดก๊อกตั้งแต่ยังไม่พ้นสัปดาห์ที่สอง ฟรูมที่เพิ่งคว้าแชมป์ตูร์มากับสารพัดพันธกิจของแชมป์ (ลงแข่ง Post Tour Criterium, ออกเจอสื่อ ให้สัมภาษณ์ บลาๆๆ) คำถามคือเขามีเวลาพักเต็มตัวหรือเปล่า และจะมีฟอร์มสู้กับ สามเทพ Astana (รวมนิบาลิด้วย) ได้หรือไม่? อย่าลืมว่ายังมีทั้งวาวเวอเด้ที่ฟอร์มแรงตลอดทั้งปี และไนโร คินทานาที่จะประมาทไม่ได้เช่นกัน ถ้านับแค่ตัวเต็งคู่แข่งฟรูมในตูร์ที่ลง Vuelta ด้วยเราจะเห็นว่าทุกคนฟอร์มดีกว่าฟรูมในสัปดาห์สุดท้ายครับ
เส้นทางไม่ธรรมดา
เหตุผลหลักที่ทำให้ Vuelta สนุกกว่าสนามอื่นๆ คือผู้จัดโละทิ้งแนวคิดการจัดแกรนด์ทัวร์ไปหมดเลย แทนที่จะเปิดสัปดาห์แรกด้วยสเตจทางราบ ผู้จัด Vuelta ยกภูเขาสูงชันพร้อมเส้นชัยบนยอดเขามาให้ปีนกันตั้งแต่สเตจที่สอง แทนที่จะจบสเตจรองสุดท้ายด้วยการปีนเขาสูงชัน ผู้จัดกลับใช้ทางลงเขาสุดเทคนิคัลที่เตรียมวัดความ “ใจถึง” ของตัวเต็ง! ยังไม่รวมสเตจ Time Trial ระยะทาง 39 กิโลเมตรที่อยู่คั่นกลางระหว่างสเตจภูเขาสูงชันในเทือกเขาแอนโดร่าและพีรานีส
DT จะเจาะลึกเส้นทาง Vuelta ในโพสต์ถัดไปครับ แต่อย่างที่บอก พลวัตรการแข่งขัน Vuelta ปีนี้รับรองว่าสนุกทุกวันแน่นอน แต่ละสเตจมีทริคเล็กๆ ที่ทำให้ต้องลุ้นกันจนถึงวินาทีสุดท้าย มีเส้นชัยบนยอดเนินและเขารวมกันร่วม 10 สเตจ (!!!!)
ตัวเต็งมีใครบ้าง?
1. คริส ฟรูม (Sky): มีความหลังกับ Vuelta เพราะมันคือสนามที่พาเขาก้าวขึ้นสู้เวทีโลกอย่างแท้จริงหลังจากที่คว้าอันดับ 2 ในปี 2011, อันดับ 4 ในปี 2012, และอันดับ 2 ในปี 2014 เรียกว่าเฉียด แต่ก็ยังไปไม่ถึงฝั่ง ถึงฟรูมจะมีสิทธิกรอบจากตูร์ แต่เขามีตัวช่วยสำคัญคือสเตจ TT ความยาว 39 กิโลเมตรที่น่าจะตบเวลาคู่แข่งไปได้หลายนาทีทีเดียวทีม Sky ส่งทีมโหดช่วยฟรูม มีทั้งมิเคล เนียเว, โทมัส, เฮนาโอ้, และนิโคลาส โรช ถ้าฟรูมไปไม่ไหวจริงๆ เนียเวและเฮนาโอ้น่าจะขึ้นมานำทีมแทนได้
2. ไนโร คินทานา และอเลฮานโดร วาวเวอเด้ (Movistar): คู่โพเดี้ยมที่โดนฟรูมเชือดในตูร์จะกลับมาแก้มืออีกครั้งใน Vuelta ปีนี้ จากปากผู้จัดการทีม ผลงานใดๆ ที่ทั้งคู่ทำได้ในปีนี้จัดว่าเป็น “โบนัส” เพราะตอนนี้วาวเวอเด้เป็นนักปั่นที่มีคะแนนสะสมสูงสุดในตาราง UCI และชนะมาแล้วหลายรายการ ดูจากโปรไฟล์เส้นทางแล้ว คินทานาจัดว่าเป็นตัวเต็งเบอร์ต้นๆ และเป็นหนึ่งในเอซไม่กี่คนที่ตั้งใจซ้อมตลอดทั้งปีเพื่อลงควบ Tour + Vuelta โดยเฉพาะ วาวเวอเด้เองก็คงเล่นแผน 1–2 ได้เหมือนในตูร์ปัญหาของ Movistar คือทั้งคู่แข่งมาตั้งแต่เริ่มฤดูกาล วาวเวอเด้เปิดฤดูกาลตั้งแต่เดือนกราคม วาวเวอเด้แข่งมาแล้ว 63 วัน เทียบกับฟรูมที่แข่งเพียง 48 วันเท่านั้น ถ้าทั้งคู่ “กรอบ” จริง ทีมยังมีแอนเดร อามาดอร์ที่ทำผลงานได้ดีมากใน Tour de Suisse ปีนี้
3. The Astana Trio: ดูชื่อก็รู้แล้วว่าทีมที่แข็งที่สุดใน Vuelta ปีนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Astana ครับ ด้วยนักปั่นระดับ อารู นิบาลิ และแลนด้า พร้อมตัวช่วยอย่าง LL Sanchez, ดาริโอ้ คาทาลโด้ (อดีตตัวแรงจาก Sky), เพาโล ทิราลองโก้ และอเลซานโดร วานอตตี้ ปัญหาเดียวของทีมนี้คือ “การจัดการ” โค้ชจะแบ่งหน้าที่สามตัวเต็งยังไงให้ไม่ขัดผลประโยชน์กัน? ใครจะเป็นคนนำทีม? ใครจะเป็นตัวช่วย?
4. วาคิม โรดริเกรซ (Katusha): กลับมาลงสนามอีกครั้งในฐานะนักปั่นตัวเต็งที่อายุมากที่สุด (36 ปี) ถ้าดูจากชัยชนะของคริส ออเนอร์ (Trek) ในปี 2012 แล้ว อายุคงไม่ใช่ปัญหาสำหรับโรดริเกรซ ถึงจะชวดอันดับ GC แต่เอซ Katusha ก็คว้าแชมป์สเตจไปถึงสองครั้ง อาจจะยากหน่อยสำหรับแชมป์รายการแต่ถ้าได้ขึ้นโพเดี้ยมปีนี้ โรดริเกรซก็สามารถรีไทร์ได้อย่างสมศักดิ์ศรี
5. ทีเจย์ แวนการ์เดอเรน (BMC): เกือบจะได้เหยียบโพเดี้ยมตูร์ครั้งแรกในชีวิตแต่ก็ต้องถอนตัวไปก่อนจากอาการป่วย TJVG กลับมาลง Vuelta ในฐานะตัวเต็งที่จะประมาทไม่ได้ อย่าลืมว่า BMC คือทีมที่ปั่นได้แข็งที่สุดในตูร์เลยก็ว่าได้ครับ ตัวช่วยก็ไม่ธรรมดา มีนักไต่เขาโคลอมเบียอย่าง ดาร์วิน อทาพูมา, ปีเตอร์ เวลิทส์, แซมมี่ แซนเชซ และอเลซานโดร เดอมาชีที่ไว้ใจได้
ม้ามืด
จับตามองคู่ แดน มาร์คิน และแอนดรูว์ ทาลานสกี้ (Cannondale-Garmin), ราฟาล ไมย์ก้า (Tinkoff-Saxo), โดเมนิโค พอซโซวิโว่ (AG2R), แฟรงก์ ชเล็ค (Trek), แดนนี่ นาร์วารโร (Cofidis), เคนนี่ เออลิงซองด์ (FDJ), เยอร์เกน แวน เดน โบรค (Lotto-Soudal), เอสตาบาน ชาเวซ (GreenEdge) และฟาบิโอ้ ดูอาร์เต้ (Colombia)
สปรินต์เตอร์ / TT Specialist? Vuelta ขึ้นชื่อว่าเป็นรายการ “ซ้อมมือ” สำหรับตัวเต็งชิงแชมป์โลก ปีนี้ก็เช่นกันครับ เฟเบียน แคนเชอลารา (Trek) ลงแข่งอีกครั้งหลังจากล้มกระดูกสันหลังร้าวในตูร์, ปีเตอร์ ซากาน (Tinkoff) ก็มาตามหาสเตจวินด้วยแกรนด์ทัวร์ที่เขายังทำไม่ได้สักทีในปีนี้
ส่วนด้านสปรินเตอร์ออกจะจางๆ จืดๆ สักหน่อย เพราะขาแรงไม่ค่อยมากัน มี จอห์น เดเกนโคลบ์ อดีตแชมป์เสื้อเจ้าความเร็ว (Giant), เนเซอร์ บูฮานี (Cofidis), ซากาน (Tinkoff), มีน้องใหม่ท็อปฟอร์มอย่างคาเล็บ ยวน (GreenEdge), เจเจ โรฮาส (Movistar), แมทเทโอ เพลุคชี (IAM) และฌอง พิแอร์ ดรักเกอร์ (BMC) ที่สปรินต์ชนะในรายการ Ride London เมื่อสองสัปดาห์ก่อน
ด้านตัวเต็ง TT ก็ซบเซาเช่นกันเพราะโทนี่ มาร์ตินก็ยังไม่หายเจ็บดีไม่มาลง คงบมีแค่แคนเชอลารา และทอม ดูโมลาน (Giant), TJGV (BMC), ฟรูม (Sky) และอามาดอร์ (Movistar) ที่น่าสนใจครับ
สรุป
ในโพสต์ต่อไปเราจะมาดูรายละเอียดเส้นทางทั้ง 21 สเตจ แต่สิ่งที่เราเรียนรู้จากโพสต์นี้ชัดๆ เลยก็คือ Vuelta ไม่ใช่สนามเบอร์รองอีกต่อไป เส้นทางที่สนุกสนานหลายรูปแบบ ตัวเต็งนักไต่เขาระดับโลกที่มากันครบๆ อาจจะทำให้ Vuelta คว้าแชมป์แกรนด์ทัวร์ที่สนุกที่สุดในรอบปีได้อีกหนึ่งสมัยครับ
เช็ครายชื่อนักปั่นล่าสุด (Startlist) ได้ที่ > ลิงก์นี้ <
และเช็คตารางแข่งขันพร้อมวันบรรยายสดของ Ducking Tiger ได้ที่ > DT Live < ครับ
* * *