ปีที่แล้วต้องบอกว่าศึกการชิงชัยระหว่างนักปั่นสายสปรินเตอร์ไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าไร จากศึก 3 ทางอย่างใน Tour 2014 ที่มีตัวเต็งลงแข่งกันหลายคน ปี 2015 กลับมีตัวแรงแค่สองคนคืออังเดร ไกรเปิล (Lotto-Soudal) กับมาร์ค คาเวนดิช (Etixx-Quickstep) ส่วนตัวแรงปี 2014 อย่างมาร์เซล คิทเทลกลับเจ็บป่วยตลอดทั้งฤดูกาล
ขึ้นปีใหม่ อะไรๆ ก็เริ่มใหม่ ปีนี้เอซสปรินเตอร์สองคนย้ายทีมใหม่ ในขณะที่มีเด็กๆ ขาแรงเริ่มมีบทบาทในการสปรินต์ระดับสูงมากขึ้นด้วย มาดูกันว่า มีสปรินเตอร์คนไหนที่น่าจับตามองบ้างในฤดูกาลนี้ครับ
1. อังเดร ไกรเปิล
ทีม Lotto-Soudal / อายุ 33 ปี
ผลงานปี 2015: 16 ชัยชนะ ไฮไลท์คือแชมป์ TDF 4 สเตจ แชมป์ Giro 1 สเตจ
จุดเด่น: ถ้าผลงานใน Tour de France เป็นเครื่องชี้วัดความสำเร็จของสปรินเตอร์ ปีที่แล้วไกรเปิลก็คือสปรินเตอร์เบอร์หนึ่งอย่างไม่มีข้อกังขา ปี 2015 เป็นปีที่เขาประสบความสำเร็จที่สุดในตูร์ตั้งแต่ที่เคยลงแข่งมาทั้งหมด ถึงแม้จะเป็นสปรินเตอร์ที่อายุมากกว่าคนอื่นๆ ก็ตาม
ในปีก่อนๆ ผลงานที่ดีที่สุดสำหรับไกรเปิลคือแชมป์ 3 สเตจในตูร์ แต่เขาไม่ได้ชนะสปรินเตอร์ตัวท็อป (ชนะแมท กอส, อเลซานโดร เพทัคคี, และปีเตอร์ ซากาน) แต่ในปี 2015 เขาชนะคาเวนดิช ซากาน คริสทอฟได้แบบไม่ยากเย็น แสดงให้เห็นถึงประสบการณ์และความสามารถที่โดดเด่นขึ้นชัดเจน
จุดอ่อน: แน่นอนครับ เขาเป็นสปรินเตอร์ที่อายุมากที่สุดในฟิลด์ และปกติแล้วอัตราแร่ง ความสามารถในการระเบิดพลังขึ้นท็อปสปีดก็ย่อมต่ำลงตามอายุ การเป็นสปรินเตอร์ตอนอายุมากๆ นั้นยากกว่าการเป็นนักปั่น GC ที่อายุเท่ากัน ช่วงอายุ “ทำการ” ของสปรินเตอร์มักจะอยู่ที่ 23-30 ปีเท่านั้น หลังจากนั้นถึงจะอ่านไลน์ขาด มีลีดเอาท์ที่ดี ก็อาจจะแพ้ความเร็วเพียวๆ ของนักปั่นหน้าใหม่ อีกอย่างถึงเขาจะเป็นสปรินเตอร์ที่คงเส้นคงวา แต่ยังไม่มีผลงานที่หวือหวาโดดเด่นแบบคาเวนดิชหรือคิทเทล
สรุป: ผมว่าปีนี้น่าจะเป็นอีกปีที่ดีสำหรับไกรเปิล แต่คงไม่เปรี้ยงปร้างเหมือนปีก่อน อายุคงมีผลกับไกรเปิล เพราะเขาไม่ใช่คนที่อ่านไลน์ได้คมที่สุด จะพึ่งประสบการณ์อย่างเดียวเพื่อขึ้นโพเดี้ยมอาจจะยาก แต่ก็เป็นคนที่อัตราเร่งดีมากไม่แพ้ใครเช่นกัน สิ่งที่ไกรเปิลขาดเมื่อเทียบกับสปรินเตอร์คนอื่นๆ ที่สังเกตเห็นได้ชัดคือความเด็ดเดี่ยวในการตัดสินใจ คิดว่าเขาน่าจะเก็บสเตจสในแกรนด์ทัวร์ได้ 1-2 สเตจ ต่อรายการ (ถ้าลง Giro ด้วย) อย่าลืมว่า leadout train ของ Lotto-Soudal นั้นประสบการ์ณเยอะกว่าทีมไหนๆ และพึ่งพาได้เสมอ
2. Mark Cavendish
ทีม Dimension Data / อายุ 30 ปี
ผลงานปี 2015: 14 ชัยชนะ มีสเตจใน Tour de France หนึ่งครั้ง, ชนะ Overall Dubai Tour, ชนะ 4 สเตจใน Tour of California
จุดแข็ง: ถ้าฟอร์มมา คาเวนดิชคือสปรินเตอร์ที่เร็วที่สุดในวงการอย่างไม่ต้องสงสัย ถึงแม้จะย้ายทีม แต่เขามีลีดเอาท์คู่ใจที่ทำงานด้วยกันมาตลอดถึงสองคนทั้งมาร์ค เรนชอว์และเบอร์นี่ ไอเซิล แถมยังมีอดีตเพื่อน HTC อย่างเอ็ดวาลด์ โบสซัน ฮาเก็น (เคยลากให้คาเวนดิชชนะในสมัย Sky), สตีฟ คัมมิงส์ และไทเลอร์ ฟาร์ราร์ เรียกได้ว่าแทบครบก๊วน HTC เลยทีเดียว
คาเวนดิชเป็นคนที่อ่านไลน์ได้เฉียบคมกว่าคู่แข่งคนอื่นและมีไหวพริบระหว่างการสปรินต์กลุ่มแบบหาตัวจับได้ยาก ถึงบางครั้งจะเสียขบวน leadout เขาก็สามารถเก็บชัยชนะได้เองด้วยการตามล้อหัวลากทีมอื่น
จุดอ่อน: คาเวนดิชฟอร์มตกลงเรื่อยๆ ทุกปี เป็นเวลาต่อกันมาสามปีแล้ว 2013 เขาพ่ายให้กับคิทเทลแบบไม่ต้องเถียง 2014 เขาก็ล้มตั้งแต่สเตจแรกจนแข่งต่อไม่ได้ 2015 เขาพ่ายให้กับไกรเปิลในสเตจที่ปกติเขาไม่น่าจะแพ้
อีกประเด็นคือถึงจะมีเพื่อนขบวนหัวลากจาก HTC มาช่วย ไม่ใช่ว่าจะทำงานด้วยกันได้ดีเหมือนสมัยนั้น เปลี่ยนทีมใหม่ อุปกรณ์ใหม่ หลายๆ อย่างก็ต้องใช้เวลาปรับจูนเข้าหากันใหม่ด้วย แต่เชื่อว่าคาเวนดิชน่าจะมีความสุขมากกว่าในทีม DD เทียบกับสมัย Etixx-Quickstep และคงไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ครับ
สรุป: อายุยังไม่จัดว่าเยอะมาก ฟอร์มอาจจะดรอปลงเทียบกับสมัยปีทองของเขาแต่ยังไงก็เป็นคนที่เราจะกาชื่อทิ้งในการสปรินต์หน้าเส้นไม่ได้อยู่ดี ผลงานการเป็นนักปั่นที่มีอันดับแชมป์สเตจในตูร์เยอะที่สุดเป็นอันดับสามของโลก และมากกว่านักปั่นคนไหนๆ ที่ยังคงแข่งขันอยู่ในวงการอาชีพยืนยันศักยภาพของเขาได้ดีที่สุด
3. มาร์เซล คิทเทล
ทีม Etixx-Quickstep / อายุ 27 ปี
ผลงานปี 2015: 1 ชัยชนะใน Tour of Poland
จุดแข็ง: …ถ้านับจากฟอร์มปี 2015 แล้ว จัดว่าน้อยมากครับ ปีที่แล้วคิทเทลแทบไม่มีข้อแก้ตัวเลย เขาอาจจะบอกว่าตัวเองป่วยต่อเนื่อง แต่ความเห็นของโค้ชในทีม Giant-Alpecin ยืนยันว่าเขาไม่มีแรงจูงใจที่จะซ้อมเพื่อพลิกฟอร์มกลับมาเอาชนะอีกครั้ง พูดง่ายๆ คือขี้เกียจ แต่อย่างไรก็ดี โค้ช Etixx เพิ่งจะให้สัมภาษณ์ว่าตอนนี้ คิทเทลตั้งใจซ้อมมากจนเขาประทับใจว่าดูตั้งใจดีกว่าคนอื่นๆ ในทีมเสียอีก ราวกับอยากจะกู้คืนชื่อเสียงและความเชื่อใจของคนรอบข้างกลับมา
ถ้าเราย้อนไปปี 2013-2014 เขาคือนักปั่นที่ผลงานดีที่สุดใน Tour de France ทั้งสองปีต่อกัน เอาชนะทุกคนได้แบบไร้ข้อกังขาและทำผลงานมาร่วม 8 สเตจ แถมได้ใส่เสื้อเหลืองด้วย ปีนี้ที่ย้ายมา Etixx ก็น่าจะมีหัวลากที่ดีกว่า Giant แต่อาจจะต้องใช้เวลาปรับจูนเหมือนกัน
จุดอ่อน: มีไม่มาก คงเป็นเรื่องความตั้งใจ ฟอร์ม และเรื่องขบวนลีดเอาท์ที่ต้องจับตาดูครับ เขาอายุน้อยที่สุดเทียบกับสองคนข้างต้น แรงเยอะ สู่กับตัวเต็งแบบ 1:1 เผลอๆ อาจจะได้เปรียบคาเวนดิชและไกรเปิลด้วยซ้ำถ้าฟอร์มมา
สรุป: แฟนๆ คงได้แต่คาดหวังให้เขาคืนฟอร์มเหมือนเมื่อสองปีก่อนอีกครั้ง ส่วนตัวผมเชื่อว่าเขาน่าจะทำได้ และทีม Etixx ก็ดูพร้อมจะซัพพอร์ทเขาเต็มที่ น่าจะมีอย่างน้อยๆ 1-2 สเตจในตูร์ครับ
4+5. จอห์น เดเกนโคลบ์ (Giant-Alpecin) และอเล็กซานเดอร์ คริสทอฟ (Katusha)
ว่ากันตามตรง ทั้งคู่มีผลงานที่ “เหนือชั้น” กว่าสปรินเตอร์คนไหนๆ ในฤดูกาลก่อน ทั้งคู่ชนะสนามแข่งระดับ Monument (เดเกนโคลบ์ได้ Roubaix, คริสทอฟได้ Flanders) ทั้งคู่ไม่ใช่เพียวสปรินเตอร์ แต่เป็นผู้เชี่ยวชาญสนามคลาสสิคซะมากกว่า แต่ถ้าไม่นับสามคนข้างบน ทั้งคู่ก็เร็วไม่แพ้ใครในการสปรินต์ โดยเฉพาะคริสทอฟที่ปีก่อนมียอดชัยชนะอันดับหนึ่งในบรรดาโปรทั้งหมด ผลงาน 20 ชัยชนะ ถ้าเป็นสนามรองที่ตัวเต็งไม่ลงกัน ต้องจับตาดูคู่นี้ เดเกนโคลบ์เองก็น่าจะได้เป็นผู้นำสปรินเตอร์ในทีม Giant เต็มตัวแล้วเมื่อคิทเทลย้ายไป Etixx
6. ปีเตอร์ ซากาน (Tinkoff)
แชมป์โลกสุดป็อปปูลาร์ของเรา มาในพิมพ์เดียวกับคริสทอฟและเดเกนโคลบ์ นั่นคือเป็นสายคลาสสิคมากกว่าสปรินเตอร์ แน่นอน เขาเร็วไม่แพ้ใคร ดูจากผลงานอันดับสองร่วมสิบสเตจใน Tour de France ปีที่ผ่านมา แต่อย่างว่าหละครับ ถ้าไม่ชนะก็ไม่นับอยู่ดี ผมคิดว่าซากานคงโฟกัสไปที่รายการคลาสสิค One day race ซึ่งเป็นจุดแข็งของเขามากกว่ามาไล่เก็บสเตจวินในรายการใหญ่ๆ เหมือนที่เขาชนะแชมป์โลกใน Richmond เมื่อกันยายนปีก่อน
7. คาเล็บ ยวน (Orica-GreenEdge)
คนนี้อยากให้จับตาดีๆ เพราะแรงมากและแรงต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว อายุก็เพิ่งจะ 21 ปีครับ สปรินเตอร์เนทีฟออสเตรเลียคนนี้ สอยแชมป์สเตจใน Vuelta มาแล้วหนึ่งครั้งถึงแม้จะเป็นปีแรกที่เขาแข่งระดับดิวิชัน 1 เรียกได้ว่ามีทั้งความมั่นใจ ทั้งประสบการณ์เกินตัว และไม่กลัวที่จะชนรุ่นใหญ่ ปีนี้เขาเก็บแชมป์ไปแล้ว 3 สเตจใน Michelton Bay Classic ในออสเตรเลีย และคว้าแชมป์ Overall ด้วย!
8. เอลิอา วิวิอานี (Sky)
ปีที่แล้ว วิวิอานีเก็บแชมป์ไป 8 ครั้ง จัดว่าไม่เลว สำหรับทีมที่ไม่ได้โดดเด่นด้านการสปรินต์ จังหวะสปรินต์ของวิวิอานี บางทีก็ดูเร็วซะจนน่าทึ่ง (ชนะคาเวนดิชมาสองครั้งแล้ว) แต่ยังดูฟอร์มไม่คงเส้นคงวาเท่าไร คงต้องเก็บประสบการณ์มากกว่านี้ ปีนี้ Sky บอกว่าจะให้ความสำคัญกับการสปรินต์และรายการคลาสสิคมากขึ้นอีกด้วย ก็น่าจะเปิดโอกาสให้เขาได้นำทีมในสเตจทางราบหลายรายการมากขึ้น
9. เฟอร์นันโด้ กาวิเรีย (Etixx-Quickstep)
อีกตัวแรงที่น่าจะมีบทบาทมากขึ้น แต่คิดว่าคงยังไม่เยอะ เพราะคงมีจิอันนี้่ เมียรส์แมน และมาร์เซล คิทเทล เป็นสปรินเตอร์นำทีม Etixx อยู่ กาวิเรียอาจจะแรง เร็ว แต่ยังต้องเก็บประสบการณ์อีกเยอะ ว่ากันตามสกอร์แล้ว คาเล็บ ยวนยังดูเชียร์ขึ้นกว่ากาวิเรีย แต่ถ้าทีมเลี้ยงเขาดีๆ ก็มีแนวโน้มจะโตได้เหมือนคาเวนดิชอีกคน ปีนี้เขาคงโฟกัสไปที่สนามลู่ เพื่อเตรียมลงแข่งโอลิมปิกให้กับโคลอมเบีย อาจจะไม่ได้เห็นผลงานมากนักครับ
ที่ไม่ได้กล่าวถึงแต่อาจจะชนะบ่อย
เนเซอร์ บูฮานี (Cofidis), ซาช่า โมโดโล่ (Lampre), จิอันนี่ เมียรส์แมน (Etixx-Quickstep), แมทเทโอ เพลุคชี (IAM), อาร์ฺนอร์ด เดอแมร์ (FDJ), เจเจ โรฮาส (Movistar), จิอาโคโม่ นิซโซโล่ (Trek-Segafredo)
สรุป
ถ้าโชคเข้าข้างผู้ชม เราหวังว่าปีนี้จะได้เห็นท็อปสปรินเตอร์อย่างคาเวนดิช คิทเทล ไกรเปิล ดวลกันแบบตัวต่อตัวโดยไม่โชคร้ายล้มเลิกแข่งไปก่อนคนอื่นๆ ในรายการใหญ่ เหมือนที่เราได้เห็นในปี 2013 แน่นอน มันหมดสมัยที่สปรินเตอร์คนเดียวจะชนะทีละ 5-6 สเตจเหมือนที่คาเวนดิชเคยทำไว้ เพราะเดี๋ยวนี้สปรินเตอร์แต่ละทีมพัฒนาขึ้นมาสูสีกันมากแล้ว ถ้ามาแบบท็อปฟอร์มกันทุกคน ก็คงเฉือนกันนิดหน่อยที่จังหวะหน้าเส้น ที่ขบวนลีดเอาท์ และฟอร์ม แบ่งกันไปคนละ 1-2 สเตจ ยกเว้นว่าจะมีใครโดดเด่นจริงๆ แบบไกรเปิลปีที่แล้ว หรือคิทเทลเมื่อสองปีก่อน
แน่นอน ถ้าเอซสามคนนี้พลาดเรามีพล็อตรองให้เชียร์อีกมากมาย ซากาน คริสทอฟ เดเกนโคลบ์ต้องลงแข่งตูร์โดยปริยาย เพราะเป็นดาราดังของทีมและมีลุ้นที่จะทำผลงาน และการเติบโตของเด็กใหม่อย่างยวนและกาวิเรียก็น่าจับตามองเป็นพิเศษครับ DT คิดว่าน่าจะเป็นปีที่สนุกสำหรับศึกสปรินเตอร์ เอซสองคนย้ายทีมใหม่ ก็น่าสนใจว่าจะมีผลกับฟอร์มการสปรินต์ยังไงด้วย
เดือนมกราคมนี้เราคงยังไม่เห็นตัวใหญ่ออกโรงเพราะ คิทเทล คาเวนดิช ไกรเปิลจะเริ่มลงแข่งเดือนกุมภาพันธ์ แต่ใน Tour Down Under (19-24 มค) นี้จับตาดูคาเล็บ ยวนให้ดีครับ
* * *
