Eneco Tour เริ่มแข่งวันนี้และมันเป็นรายการที่ไม่ควรพลาดเด็ดขาด

Vuelta จบแล้วยังเหลือสนามแข่งรายการไหนให้ชมบ้าง?

ต้องบอกว่าช่วงปลายฤดูกาลนี้จริงๆ แล้วก็ยังเหลืออีกหลายรายการที่น่าสนใจและเข้มข้นทีเดียวครับ เพราะเป็นช่วงปิดสนามแล้ว และหลายๆ ทีมต้องชิงเก็บแต้ม UCI กันเพื่อที่จะไม่ตกดิวิชันสำหรับฤดูกาลถัดไป! (Dimension Data และ Giant-Alpecin กำลังอยู่ในภาวะหน้าสิ่วหน้าขวาน มีสิทธิตกไปดิวิชันสอง – เดี๋ยวมาวิเคราะห์กันอีกทีว่าทำไม)

สำหรับเดือนกันยา – ตุลาคมเหลืออีก 6 รายการที่น่าชมครับ

  1. Eneco Tour (WT) 19-25 กันยายน
  2. Il Lombardia (WT) 1 ตุลาคม
  3. Paris-Tours (1.HC) 9 ตุลาคม
  4. World Championships Team Time Trial  9 ตุลาคม
  5. World Championships Road Races   15-16 ตุลาคม
  6. Abu Dhabi Tour (2.HC) 20-23 ตุลาคม

 

Eneco Tour: สเตจเรซกึ่งสนามคลาสสิคที่อัดแน่นไปด้วยดาวดัง

Eneco 1

รายการแรกที่เริ่มแข่งกันคืนนี้คือ Eneco Tour สนามสเตจเรซหนึ่งสัปดาห์ที่แข่งกันในเนเธอร์แลนด์และเบลเยี่ยม เป็นสเตจเรซที่ไม่ค่อยมีภูเขา แต่เต็มไปด้วยเส้นทางคล้ายๆ สนามคลาสสิค กระแสลมแรง เนินชันสั้น และสเตจจับเวลาทั้งเดี่ยวและบุคคล พร้อมสเตจทางราบสำหรับศึกสปรินต์อีกหลายสเตจ ซึ่งเป็นการแข่งขันระดับ UCI WorldTour นั่นหมายความว่าทีมใหญ่ต้องลงแข่งทุกทีมครับ

จัดแข่งครั้งแรกเมื่อ 11 ปีก่อนในปี 2005 ซึ่งแชมป์ตกเป็นของบ็อบบี้ จูลิช นักปั่นชาวอเมริกัน แชมป์สองปีล่าสุดเป็นทิม เวลเลนส์ (Lotto-Soudal) และเอ็ดวาลด์ บอสซัน ฮาเก็น (Dimension Data) ก็เคยได้แชมป์รายการทั้งสองครั้ง

 

กำหนดการถ่ายทอดสด

19-25 กันยายน / 20:00-22:00 / ถ่ายทอดสดช่อง Eurosport หรือชมออนไลน์ที่ duckingtiger.com/live

 

เส้นทางเป็นยังไง?

เส้นทางเป็นการผสมผสานกันระหว่างสเตจทางราบ, สนามคลาสสิค และสเตจ Time Trial สองสเตจ ซึ่งแน่นอนว่านี่ไม่ใช่รายการสำหรับนักไต่เขาตัวจิ๋วผอมบาง แต่เป็นสนามรบของ Hardmen สายโหด สายอึด สายระเบิดเนินและสายสปรินต์ รับรองว่าเดือดทั้งศึกชิงผู้นำเวลารวมและแชมป์สเตจครับ แต่ละสเตจก็มี Time bonus ให้แย่งชิงกันด้วย

Stage 1: ทางราบ 184 กิโลเมตรในเมือง Bolsward

2e-Etappe-Tijdrit-Breda-Breda-v7
สเตจ 2: Individual Time Trial ระยะทาง 9.6 กิโลเมตร

สเตจ 3: เข้าสู่ประเทศเบลเยี่ยมกับสเตจทางราบ 186 กิโลเมตร

stage-4-profile
สเตจ 4: เส้นทางสไตล์คลาสสิค ทางราบปนถนนหินพร้อมเนินชันหลายจุดในช่วงครึ่งหลัง

สเตจ 5: Team Time Trial 20.9 กิโลเมตร

6e-Etappe-Riemst-Lanaken-v7
สเตจ 6: ปีนเขา 6 ลูกชัน เหมาะกับนักปั่นสายระเบิดเนินและเบรคอเวย์
7e-Etappe-Bornem-Geraardsbergen-v4
สเตจ 7: วันสุดท้ายของการแข่งขันซึ่งจะผ่านเนิน Geraardsbergen ในเบลเยียมที่ชันเป็นพิเศษในช่วงสุดท้าย เป็นที่ๆ GVA เคยชนะสเตจ (แต่ยังไม่ชนะรายการ) มาก่อน และน่าจะเป็นวันที่สนุกทีเดียว เพราะตัวเต็งGC หากเวลาใกล้เคียงกันเข้ามาถึงสเตจสุดท้ายก็น่าจะซัดกันเต็มที่ในสไตล์เดียวกัย Tour of Flanders หรือ Paris-Roubaix ครับ

 

ตัวเต็งมีใครบ้าง?  (Startlist)

ถามว่าใครมีสิทธิชนะ Eneco Tour จริงๆ มีนักปั่นไม่กี่ประเภทครับ เริ่มจากคนที่ปั่น TT ได้ดีมากๆ แล้วกรองลงมาดูว่าในบรรดาเอซ TT พวกนี้ มีคนไหนปั่นสนามคลาสสิคได้ดีบ้าง? สปรินเตอร์อาจจะครองเสื้อผู้นำได้ในวันแรกๆ แต่เมื่อเจอโปรไฟล์สเตจ 5 6 7 แล้วต้องบอกว่ายากที่จะได้แชมป์  ปีที่แล้วทอม ดูโมลาน์ ซึ่งเป็นเอซ TT ที่ครองเสื้อผู้นำได้หลายวันต้องเสื้อหลุด พ่ายให้กับการโจมตีของทิม เวลเลนส์ สายคลาสสิคตัวจี๊ดจาก Lotto-Soudal ที่แจกกระสุนยิงสาดกระจายเป็นว่าเล่นในช่วงสเตจสุดท้าย ได้แชมป์ไปในที่สุด

1. โรฮาน เดนนิส (BMC): เป็นหนึ่งในคนที่น่าจับตามองเพราะเป็นเอซ TT และขึ้นเนินสั้นๆ ได้ไว และตอนนี้ฟอร์มก็ดีมากทีเดียวเพราเพิ่งจะจบ Tour of Britain ด้วยอันดับสอง Overall มาหยกๆ ครับ แต่ปัญหาอาจจะอยู่ที่ Team Time Trial เพราะผู้ช่วยไม่แข็งเท่าไร

 

2. ยอน อิซาร์เกอร์เร (Movistar): ไม่ใช่ตัวเต็งคลาสสิคแต่เป็นยอดนัก TT ที่มากับทีม Movistar ชุดที่เรียกได้ว่าเป็นชุด Team Time Trial All Star เลยก็ว่าได้ และยังสู้เนินสั้นๆ ได้ดีไม่แพ้ใคร เพิ่งโชว์ฟอร์มใน Gp de Montreal โซโล่ระเบิดเนินช่วงสุดท้ายหน้าเส้นชัยแต่พ่ายให้ซากานและแวนเอเวอร์มาร์ทไป ก็เป็นอีกคนที่น่าจับตามองครับ

 

3. GVA (BMC): เกร็ก แวน เอเวอร์มาร์ทเป็นอันดับสอง overall เมื่อปีที่แล้วในรายการนี้ เรื่องเส้นทางสไตล์สนามคลาสสิคไม่ต้องห่วงเพราะเป็นตัวเต็งอยู่แล้ว และฟอร์มก็ดีมากหลังจากที่คว้าแชมป์เหรียญทองโอลิมปิก Road Race และคู่โพเดี้ยมใน GP Quebec / Montreal มาสดๆ ร้อนๆ ปัญหาเดียวคือ Time Trial อาจจะไม่แข็งมาก ซึ่งอาจจะเสียเวลาให้คู่แข่งจากตรงนี้ ในสเตจ TTT ก็มีโรฮาน เดนนิสช่วยก็คงพอไปได้ครับ

 

4. โทนี มาร์ติน (Etixx-Quickstep): อดีตแชมป์รายการหนึ่งสมัย กลับมาอีกครั้งในปีที่เส้นทางเหมาะกับเขามาก เพราะเนินไม่ชันและไม่สูงนัก และมีสเตจ TT ถึงสองสเตจ ฟอร์ม TT ยังคงเป็นที่หนึ่ง เพิ่งคว้าแชมป์สเตจ TT ใน Tour of Britain มาแบบขาดลอย สเตจคลาสสิคก็น่าจะสู้คนอื่นได้ระดับหนึ่งครับ

https://www.instagram.com/p/BKbl3wLgEv0/?taken-by=_tony_martin_official_

 

5. ไมเคิล แมธธิวส์ (Orica-BikeExchange): สปรินเตอร์ที่เล่นสนามคลาสสิคได้ดี แมธธิวส์มีลุ้นแชมป์รายการนี้เช่นกัน น่าจะเก็บ Time Bonus ได้เยอะในสเตจสปรินต์แรกๆ และสเตจ TT ระยะสั้นเขาก็ไม่เลวครับ (ตามประสาสปรินเตอร์) เขาเคยคว้าแชมป์สเตจ Prolouge ใน Paris-Nice มาแล้วด้วยซ้ำ

 

6. ปีเตอร์ ซากาน (Tinkoff): เพิ่งจะคว้าแชมป์เสือหมอบยุโรปมาเมื่อวันก่อนนี้เอง และยังเป็นแชมป์โลกคนปัจจุบัน กับฟอร์มที่ฟิตพร้อมลงสู้ทุกสนาม TT ระยะสั้นไม่ต้องห่วงซากาน สเตจคลาสสิค หรือสเตจสปรินต์ก็หายห่วงอีกเช่นกัน ปัญหาอยู่ที่ Team Time Trial เพราะ Tinkoff คงไม่แข็งพอจะสู้ทีมอื่นที่มาลงได้ ซากานอาจจะเสียเวลาตรงนี้ไปบ้าง แต่ด้วยฟอร์มโคตรบ้าพลังระดับปีศาจน่าจะหา time bonus ในสเตจอื่นๆ มาถมคืนได้ไม่ยากครับ

 

7. ทอม ดูโมลาน์ (Giant-Alpecin): ต้องการชนะสนามนี้ เพราะ Giant-Alpecin อยู่ในอันดับรองบ๊วยในตารางคะแนน UCI WorldTour ถ้าเขาไม่ชนะ และทีม Dimension Data ทำผลงานได้ดีกว่า ก็มีสิทธิร่วงดิวิชัน ซึ่งคงไม่น่าพอใจนักสำหรับสปอนเซอร์และเพื่อนร่วมทีม ถือว่าเป็นเกมที่กดดันทีเดียวสำหรับเอซคนนี้ อย่างไรก็ดีเรารู้กันอยู่แล้วว่า ดูโมลาน์น่าจะได้เปรียบหลายประการในสนามนี้ครับ เป็นคนพื้นที่ (ดัทช์) ปั่น TT ระดับเทพ และขึ้นเนินสั้นๆ ได้อย่างไว เหมือนที่เขาโชว์เก็บแชมป์ใน Vuelta สองสเตจรวดเมื่อปีก่อน และเพิ่งจะได้อันดับ 3 overall ใน Tour of Britain มาด้วย

 

8. เอ็ดวาลด์ บอสซัน ฮาเก็น (Dimension Data): เป็นอีกคนที่เครียด ถึงจะเป็นแชมป์สองสมัย แต่ทีม DD ต้องการแต้ม UCI อย่างมาก เพราะตอนนี้อยู่อันดับบ๊วยของตาราง และนี่เป็นรายการระดับ WorldTour รองสุดท้ายของฤดูกาลแล้ว ถ้าไม่ได้แต้มในสนามนี้ ก็ยากที่จะพลิกกับขึ้นมาอยู่ดิวิชัน 1 ครับ EBH ก็เป็นนักปั่นสไตล์เดียวกับซากาน รอบด้าน สปรินต์ได้ ระเบิดเนินได้ TT สั้นๆ ก็ได้ เป็นคนที่จะประมาทไม่ได้ทีเดียว

 

9. เกอเรนท์ โทมัส (Sky): ถึงจะแอบปันใจไปเป็นนักปั่นแกรนด์ทัวร์ แต่สายเลือดแชมป์คลาสสิคยังคงอยู่เต็มเปี่ยม โทมัสน่าจะฟอร์มคล้ายๆ ดูโมลาน์ TT ได้ดี ขึ้นเขาได้เร็ว ขาดลูกสปรินต์ แต่มีประสบการณ์เส้นทางแบบคลาสสิคแน่นๆ เพราะเคยเป็นแชมป์สนามยากๆ อย่าง E3 Harelbeke มาแล้ว และลูกทีมที่ขนมาก็น่าจะลุยสเตจ TTT ได้ดีระดับหนึ่งครับ

 

วิดีโอไฮไลท์ปี 2015

 

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *