2016 Tour Down Under Race Preview
ที่ไหน: Adelaide, Australia
เมื่อไร: 17 และ 19-24 มกราคม
ชมยังไง: Streaming ที่ www.duckingtiger.com/live หรือทางช่อง CTH
ใครลงแข่งบ้าง: Startlist
Tour Down Under คือสนามแข่งระดับดิวิชัน 1 รายการแรกของทุกๆ ปี จะเรียกว่าเป็นสนามเปิดฤดูกาลก็ได้ครับ เป็นรายการที่ได้รับความนิยมมากทั้งในหมู่โปรชื่อดังและผู้ชมด้วย รายการนี้แข่งอยู่ทางใต้ของออสเตรเลียและไปจบที่เมือง Adelaide
รายการนี้แข่งกันมา 17 ปีแล้ว ก็จัดว่าเป็นรายการเก่าแก่ แต่ยังไม่ถึงระดับ “คลาสสิค” ที่แข่งกันมาหลายสิบ บางรายการเป็นร้อยปี กระนั้นก็เป็นรายการที่จัดได้ดี มีถ่ายทอดสดให้ชมครับ
แชมป์คนล่าสุดคือ Rohan Dennis จาก BMC นักปั่นที่ได้แชมป์เยอะที่สุดคือ Simon Gerrans (GreenEdge) เป็นแชมป์ 3 สมัย และคนที่ได้แชมป์สเตจเยอะที่สุดคืออังเดร ไกรเปิล (Lotto-Soudal) แต่ปีนี้ไม่มาลงแข่ง จนถึงทุกวันนี้ ยังไม่มีแชมป์คนไหนสามารถป้องกันแชมป์รายการในปีถัดไปได้เลย ต้องดูกันว่าปีนี้เดนนิสที่มากับทีม BMC สุดแข็งจะทำได้หรือเปล่า
รายการนี้มีถ่ายทอดสดในเมืองไทยผ่านช่อง Eurosport ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ CTH กำหนดการแข่งและถ่ายทอดสดตามตารางนี้ ส่วนใครไม่มี CTH ก็ดูได้ผ่าน livestream ที่ duckingtiger.com/live (ไม่มีบรรยายสด) ครับ
เส้นทาง
Stage 0: People’s Choice Classic
People Choice Classic เป็นไครทีเรียมเปิดตัวงานแข่ง Tour Down Under ซึ่งจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ก่อนสัปดาห์ที่เริ่มแข่งจริง ผลการแข่งขันจากสนามนี้จะไม่มีผลต่อรายการจริง เป็นเหมือนสนามอุ่นเครื่องครับ สำหรับ PCC ปีนี้ยังจัดในเมือง Adelaide เหมือนเดิม เป็นไครทีเรียมรอบเมืองระยะทาง 51 กิโลเมตร แข่งกัน 30 รอบ รอบละ 1.7 กิโลเมตร คงจบด้วยการสปรินต์เหมือนทุกๆ ปี มีชิงเก็บแต้ม Prime (สปรินต์ชิงเงินรางวัล) ใน lap 5 10 15 20 ด้วย ซึ่งก็น่าจะทำให้การแข่งมีสีสันมากขึ้น
Stage 1: Prospect > Lyndoch, 130.8km – อังคาร
สนาม TDU จริงเริ่มในสเตจนี้ครับ สเตจแรกเส้นทางขึ้นๆ ลงๆ มีจุด KOM ให้ชิงเสื้อและกระตุ้นการเบรคอเวย์ในวันแรกของการแข่งขัน แต่ดูแล้วคงจบด้วยการสปรินต์ไม่ยากเพราะเนินโรลลิ่งแบบนี้กลุ่มไม่น่าจะแตก
Stage 2: Unley > Stirling, 132km – พุธ
สเตจสองมาจบที่ Stirling ซึ่งมีลักษณะเป็นเซอร์กิตเรซ ระยะทาง 132km เส้นชัยก็เหมือนเดิมทุกปี คือเป็นเนินสั้นๆ ปีที่แล้ว JJ Lobato จาก Movistar สปรินเตอร์สายระเบิดเนินเก็บแชมป์ไปแบบสวยมาก จังหวะสปรินต์สำคัญที่สุดสำหรับสเตจนี้ แต่เพียวสปรินเตอร์น่าจะไม่ไหว จับตามอง Lobato, Ulissi, Thomas, และ Gerrans สำหรับแชมป์สเตจนี้
Stage 3: Glenelg > Campbelltown, 139km – พฤหัส
อีกหนึ่งสเตจที่มีเนินดักหน้าเส้นชัย ความยาว 3.7 กิโลเมตรและชันสูงสุด 10% เป็นจุดทำเวลาที่ดีสำหรับเบรคอเวย์และตัวเต็ง GC ที่อยากตุนเวลารวมไว้รอสเตจ 5
Stage 4: Norwood > Victor Harbor, 138km – ศุกร์
อีกหนึ่งสเตจสำหรับสปรินเตอร์ แต่ก็ไม่วายจะมีเนินตัดตัวที่ใกล้ๆ เส้นชัยด้วย เส้นทางยากหน่อยตรงที่เป็นทางเลียบชายทะเลซึ่งกลุ่มอาจจะขาดจากลม crosswind ที่มาจากทะเลก็เป็นได้ เขาลูกสุดท้ายชันร่วม 10% และยาว 3 กิโลเมตร เป็นที่ตัดตัว GC ได้เป็นอย่างดี Cadel Evans เคยโซโล่เดี่ยวเก็บแชมป์สเตจนี้มาก่อนจากจังหวะระเบิดพลังหนีขึ้นเขาแล้วแช่ยาวไปจนถึงเส้นชัยขึ้นนำเวลารวมเมื่อปีที่แล้ว
Stage 5: McLaren Vale > Willunga, 151.5km, เสาร์
Queen Stage หรือสเตจตัดสินของรายการ จบบนยอด Willunga Hill เขาลูกสุดท้ายยาว 3 กิโลเมตรและชันเฉลี่ย 7.5% ตัวเต็งแชมป์รายการน่าจะตัดสินกันในสเตจนี้ เห็นเขาชันๆ แบบนี้แต่ไม่ยาวพอจะให้นักไต่เขาสาย pure climber ได้แสดงฝีเท้า เหมาะกับ Puncheur อย่าง Gerrans, และ Thomas สาย all round อย่าง Dennis และ Porte ก็น่าจะไหว แต่อาจจะเร่งรอบได้ไม่ทันคู่แข่งบางคน
Stage 6: Adelaide, 90km, อาทิตย์
สเตจสุดท้ายปิดรายการด้วยสนามไครทีเรียม 90 กิโลเมตร แข่ง 20 รอบ รอบละ 4.5 กิโลเมตร มีจุดสปรินต์กลางสเตจสองจุด และเป็นโอกาสสุดท้ายที่สปรินเตอร์จะได้โชว์ฝีเท้า ถ้าตัวเต็ง GC เวลาไล่กันมาก บางทีอาจจะมีเห็น Top 3 GC ออกสปรินต์ชิงเวลาที่จุดสปรินต์กลางสเตจ เพราะรายการนี้มี time bonus ครับ
Time Bonuses: 10-6-4 วินาทีสำหรับอันดับ 1-2-3 ของสเตจ และ 3-2-1 วินาที สำหรับ 3 คนแรกที่ผ่านจุดสปรินต์กลางสเตจ
ใครมีลุ้น?
Rohan Dennis + Richie Porte (BMC): แชมป์เก่าปีที่แล้ว ที่เขาชนะด้วยลูกเผลอ ตอนที่คู่แข่งมัวจับตามองคาเดล เอวานส์อยู่ ปีนี้เขาเป็นตัวเต็ง และไม่น่าจะเล่นลูกเผลอได้อีก แต่ด้วยผลงานหลายอย่างที่ทำไว้ในปี 2015 ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของสถิติ Hour Record และแชมป์สเตจ 1 Tour de France พร้อมเสื้อเหลือง เขาน่าจะพัฒนาฟอร์มได้มากพอจะป้องกันแชมป์ที่รายการนี้ ฟอร์มกำลังดีเพราะเพิ่งได้แชมป์ TT ออสเตรเลีย เป็นคนที่ปั่นได้ดุดีและกล้าที่จะเสี่ยง
BMC มาแบบแพคคู่ เพราะเอาริชีย์ พอร์ท ที่เพิ่งย้ายมาจากทีม Sky มาเป็นกัปตันทีมร่วมด้วย ก็ถือว่ามีไพ่สองใบซึ่งแกร่งทั้งสองคน ถ้าถามว่าสองคนนี้ใครมีลุ้นกว่า ผมยังถือหางพอร์ท ด้วยฟอร์มการไต่เขา โดยเฉพาะในสเตจรองสุดท้ายที่เขาน่าจะทำได้ดีกว่าเดนนิส
Simon Gerrans (GreenEdge): แชมป์เก่า 3 สมัยที่พร้อมลุยสนามบ้านเกิดเสมอ เป็นคนที่มีอาวุธครบสำหรับ TDU เลยก็ว่าได้ ปีนเขาสั้นๆ ได้ไวมากและมีลูกสปรินต์ที่ไวใช้ได้ (เคยสปรินต์ชนะไกรเปิล!) เป็นคนที่ทีมอื่นต้องคอยหมายหัวให้ดี
Geraint Thomas + Sergio Henao (Sky): อีกทีมที่มาแบบแพคคู่ ว่ากันตามผลงาน โทมัสมีดีกรีดีกว่าเฮเนาในสนามนี้ (เคยเกือบชนะและเคยเป็นแชมป์สเตจ) น่าจะเป็นสนามชี้วัดฟอร์มโทมัสได้ดีทีเดียว เพราะปีนี้ดูเหมือน Sky อยากปั้นเขาเป็น Stage racer เต็มตัวด้วยเหมือนกัน อีกคนที่น่าจับตาคือปีเตอร์ เคนยอท์ ถึงไม่มีลูกสปรินต์แต่สไตล์การปั่นคล้ายๆ กับเจอร์รานส์ และขึ้นเขาได้ดีด้วย
Diego Ulissi (Lampre): อีกคนที่มีผลงานใช้ได้ใน Tour Down Under และเป็นนักปั่นสไตลล์เดียวกับเจอร์รานส์ ซึ่งก็น่าจะเหมาะกับโปรไฟล์เส้นทางในรายการนี้ครับ ปีที่แล้วเขามีผลงานใช้ได้ทีเดียวในสเตจเรซ ติด Top 10 ใน Tour of Abu Dhani, Slovenia, และ Poland
Louis Leon Sanchez (Astana): Astana ส่งทีมแข็งใช้ได้มาลงรายการนี้ และซานเชซเองก็เคยเป็นแชมป์เก่า มีลีเพ เวสตร้า และลารส์ บอมเป็นผู้ช่วย ปีหลังๆ มานี้อาจจะเงียบๆ ไปบ้างแต่ก็น่าดูว่าฟอร์ม LL Sanchez จะเป็นยังไง
Cameron Meyer (Dimension Data): เป็นสนามเปิดตัวของทีมนี้เลยก็ว่าได้ ทั้งไมเออร์ และนาธาน ฮาสเพื่อนร่วมทีมก็เป็นคอนออสเตรเลียทั้งคู่ น่าจะพอลุ้นทำผลงานสเตจได้บ้าง แต่แชมป์รายการอาจจะยากอยู่เหมือนกัน
ม้ามืด: จับตามอง Moreno Moser (Cannondale), Steele Von Hoff (Uni-SA), JJ Rojas (Movistar), Tiago Machado (Katusha), Jack Bobbridge (Trek-Segafredo) **บ็อบบริดจ์อาจจะชนะสเตจ แต่ผมไม่คิดว่าเขาจะขึ้นเขาได้สู้ระดับพอร์ท เดนนิส หรือเจอร์รานส์, และ Simon Geschke (Giant-Alpecin)
สปรินเตอร์
แต่ก่อน Tour Down Under เป็นสวรรค์ของสปรินเตอร์ก็ว่าได้ เพราะมีแต่สเตจทางราบ แต่เดี๋ยวนี้พัฒนามามีเนิน มีเขา โอกาสของสปรินเตอร์ก็ลดน้อยลงไปด้วย คงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม Andrei Griepel ไม่กลับมาลงรายการนี้สองปีแล้ว อย่างไรก็ดีปีนี้มีสปรินเตอร์ที่น่าสนใจหลายคนครับ
ฟอร์มดีสุดคงต้องยกให้ขาแรงวัย 22 ปี คาเล็บ ยวน (Orica-GreenEdge) ที่น่าจะเก็บแชมป์ได้ไม่ยากเลยยกเว้นว่ารุ่นพี่อย่าง มาร์ค เรนชอว์, ไทเลอร์ ฟาร์ราร์ และนาธาน ฮาส (Dimension Data) จะฟอร์มดีแต่ต้นปี คู่แข่งของยวนที่น่าจับตามองที่สุดคงเป็น แมทเทโอ เพลคุชี (IAM) ที่ผลงานเยอะใช้ได้เมื่อปีที่แล้ว
Movistar ส่ง JJ-Lobato สปรินเตอร์สายอัดเนิน แต่ถ้าเป็นทางราบคงไม่สู้สามคนข้างบนนี้ ทีมอื่นๆ ก็มี เบ็น สวิฟต์ (Sky), โคเอ็น เดอ คอร์ท (Giant-Alpecin), อดัม ไบลท์ (Tinkoff), จิาโคโม่ นิซโซโล่ (Trek), เวาเตอร์ วิพเพิร์ท (Cannondale), สตีล วอน ฮอฟ (Uni-SA)
