หลังจากสุดสัปดาห์สนุกๆ ในเบลเยียมกับสนาม Omloop กับ Kuurne Brussel Kuurne อาทิตย์นี้เรามีอีกหนึ่งรายการแข่งแบบวันเดียวจบที่ต่างกันออกไปเล็กน้อย เพราะมาจัดที่อิตาลี และเป็นสนามน้องใหม่ที่กำลังมาแรงที่สุดในปฏิทินการแข่งขันด้วยครับ นั่นคือ Strade Bianche นั่นเองครับ
รายการนี้แข่งในแคว้นทัสคานีที่อิตาลี ไปจบที่เมืองเซียน่า (Siena) และจัดเป็นปีที่ 12 แล้ว ซึ่งถึงจะยังไม่เก่าแก่แบบรายการ “คลาสสิค” สนามอื่นๆ ที่มักมีอายุเกิน 50 ปี แต่ด้วยเส้นทางที่เป็นเนินชันตลอดการแข่งขันพร้อมช่วงถนนที่เป็นกรวดขาว ทิวทัศน์ไร่องุ่นสวยงาม และระดับนักปั่นที่ลงแข่งก็ทำให้รายการนี้โดดเด่นแซงหน้าสนามนี้คลาสสิคหลายๆ รายการขึ้นมาเลยทีเดียว
ลักษณะเส้นทางเอื้อให้มีผู้ชนะได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นนักปั่นสายอึด สายคลาสสิคชอบทางวิบาก แม้แต่ตัวเต็ง GC บางคนก็ยังมีลุ้น หรือจะเป็นม้ามืดเบรคอเวย์โนเนมที่เราไม่รู้จักก็เกือบชนะมาแล้วเหมือนกัน แถมระยะทางที่ไม่ได้ไกลมาก แค่ราวๆ 175 กิโลเมตร ทำให้เกมการแข่งขันเข้มข้นและกระชับไม่ยืดเยื้อเหมือนรายการคลาสสิคอื่นๆ ที่มักยาวตั้งแต่ 200-250 กิโลเมตรครับ
เส้นทาง
ปีนี้ระยะทางทั้งหมด 175 กิโลเมตร เริ่มจากเมืองเซียน่าผ่านไปยังรอบๆ เมือง Chianti และต้องเจอช่วงถนน gravel (ลูกรังกรวดขาว) 11 ช่วง รวมช่วงถนนลูกรังทั้งหมด 61 กิโลเมตร! จุดท้าทายจะมีอยู่สามสี่ช่วง โดยเฉพาะช่วงถนนลูกรังสองช่วงสุดท้ายครับ Colle Pinzunto และ Le Tolfe เพราะเป็นทางลงเนินชันมาก่อนแล้วก็หักเป็นเนินชันพร้อมถนนสภาพไม่ดี ทดสอบทั้งความสามารถในการบังคับรถและพละกำลังของนักปั่น (โซนสีเทาในรูปข้างบนคือช่วงถนนลูกรัง)
พ้นช่วงถนนลูกรังสุดท้ายไปแล้วก็จะเป็นทางกลับเข้าเมืองเซียน่าแต่มีเนินเพียบ โดยเฉพาะทางเข้าเมืองที่กิโลเมตรสุดท้ายซึ่งมีความชันสูงสุด 10%+ และเป็นทางลาดลงเส้นชัยที่ 500 เมตรสุดท้าย ตรงนี้เป็นอะไรที่ทำให้นักปั่นหลายคนเสียแชมป์มาแล้วเวลาตีคู่มากับคู่แข่งคนอื่น ลองชมช่วงกิโลเมตรสุดท้ายของปีที่ผ่านๆ มา
ใครมีลุ้นแชมป์? (Startlist)
Quickstep Floors: มากับตัวเต็งแชมป์เก่า 2015 ชเน็ค สตีบาร์ และได้ที่สองรองจากแคนเชอลาราเมื่อปีที่แล้ว และยังมีตัวช่วยอย่างจิอันลูคา แบรมบิลลา (ที่ 3 2016), และปีเตอร์ วาคอช (ที่ 5, 2016) เหตุผลที่สตีบาร์ทำผลงานสนามนี้ได้ดีกว่าเพื่อนก็เพราะเส้นทางเหมาะกับสกิลเขาครับ เขาเป็นอดีตแชมป์โลกไซโคลครอส ซึ่งถนัดกับทางเนินสั้นๆ ชันๆ บนสภาพพื้นถนนที่ไม่ดีและมีความอึดเป็นเลิศ ปีนี้ก็น่าจะได้เห็นเขาในกลุ่มหน้าอีกครั้ง
Bora-Hansgrohe: มีปีเตอร์ ซากาน ซึ่งยังไม่เคยได้แชมป์รายการนี้มาก่อน ผลงานที่ดีที่สุดคืออันดับสอง, สองสมัย และปีนี้ก็ดูจะฟอร์มดีกว่าคนอื่นๆ เสียด้วยเพราะเพิ่งได้แชมป์และติดโพเดี้ยมในสนามคลาสสิคเมื่อสุดสัปดาห์ก่อนนี่เอง เนินหน้าเส้นชัยอาจจะไม่เหมาะกับซากานเท่าไรถ้าต้องหนีไปกับนักปั่นที่ไต่เขาได้ดีกว่า แต่ฟอร์มตอนนี้ของซากานก็ไม่เหมือนปีก่อนๆ ที่เขาได้อันดับสองเช่นกัน
BMC: มากับคู่กัดซากาน เกร็ก แวน เอเวอร์มาร์ต ก็เป็นอีกคนที่ผลงานดีเช่นกันครับ เคยได้ Top 10 มาแล้ว 5 ครั้ง พร้อมอันดับสองในปี 2015 ไม่แน่ใจว่า GVA มองเป้ารายการนี้เป็นยังไง แต่เขามากับทีมซัพพอร์ทที่ดีมากที่สุดทีมหนึ่งในเปโลตองครับ ชุดโดเมสติกที่มาด้วยเป็นคนที่ช่วยให้เขาทำผลงานในรายการคลาสสิคได้ดีเสมอมา อย่างน้อยก็ชัวร์เกมกว่าทีมของซากานแน่ๆ
Sky: ส่งแชมป์ปี 2014 มิฮาล เควียทคอฟสกี้ พร้อมตัวเต็ง Giro ปีนี้ของทีม เกอเรนท์ โทมัส ซึ่งทั้งคู่ก็ปั่นสนามสไตล์นี้ได้ดีพอสมควรอยู่แล้ว เควียทคอฟสกี้อาจจะดูแผ่วๆ ไปบ้างหลังมาอยู่กับ Sky ด้วยอาการเจ็บป่วยและต้องไปรับหน้าที่ลูกมือแทนการเป็นหัวหน้าทีมในสนามใหญ่ แต่ก็น่าจับตาดูฟอร์มปีนี้ว่าจะเป็นยังไง ส่วนโทมัสนั้นดูจะหันไปเอาดีในสเตจเรซมากกว่าฟอร์มสนามคลาสสิค ซึ่งก็เป็นที่น่าเสียดายอยู่เหมือนกัน เพราะกัปตันสนามคลาสสิคคนอื่นของทีม (สแตนนาร์ดและ ลุค โรว์) ผลงานยังไม่เข้าเป้าเท่าไร
Cannondale-Drapac: ส่งสองเอซ ริกโอเบอร์โต้ อูราน ที่หันมาเอาดีด้านสนามแข่งวันเดียวมากกว่าแกรนด์ทัวร์แล้ว และเซป ฟานมาร์คเอซคลาสสิคของทีม ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ทำผลงานได้ดี เกาะกลุ่มตัวเต็งและเปิดเกมสำคัญหลายครั้ง น่าจับตามองทั้งคู่ครับ
อีกคนทีน่าดูคือวินเชนโซ นิบาลี (Bahrain-Merida) นิบาลีเป็นตัวเต็ง GC ไม่กี่คนที่ชอบลงสนามแข่งวันเดียวและมักทำผลงานได้ดีด้วย โดยเฉพาะรายการที่ต้องปีนขึ้นปีนลงเยอะๆ เป็นอีกคนที่น่าจับตามอง
ม้ามืด
มีหลายคนที่น่าดูครับ จับตามอง ทิม เวลเลนส์และทีช เบนูท (Lotto-Soudal), รูย คอสต้า (UAE Team Emirates), เอ็ดวาลด์ บอสซัน ฮาเก็น (Dimension Data), แยสเปอร์ สตอยเว็นและฟาบิโอ้ เฟลิเน่ (Trek-Segafredo), ฟาบิโอ้ อารู (Astana), โรมัน ครอยซิเกอร์ (Orica-Scott) และทอม ดูโมลาน์ (Sunweb)
ถ่ายทอดสด: 4 มีนาคม 2017
รายการนี้ถ่ายทอดสดทางช่อง Eurosport เวลา 20:00-21:30 เช็คลิงก์ถ่ายทอดสดแบบสตรีมมิ่งช่องทางต่างๆ ที่ duckingtiger.com/live ครับ
