เปิดตัว: เส้นทาง Tour de France 2017

เมื่อคืนนี้ผู้จัดสนามแข่ง Tour de France – บริษัท ASO เปิดเผยเส้นทางการแข่งขัน Tour de France (TDF) ปี 2017 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เริ่มจากวันที่ 1-23 กรกฏาคม 2017

จัดว่าจะเป็นปีที่น่าสนใจไม่น้อยครับ โดยเฉพาะในสเตจภูเขาที่เลือกไม่ใช้ ภูเขาที่มีชื่อเสียงเดิมๆ อย่าง Alpe d’Huez หรือ Mont Ventoux แต่ทดลองหาภูเขาอื่นๆ ที่ไม่ได้ใช้ในการแข่งมาก่อน มาดูกันว่าไฮไลท์เส้นทางปีหน้ามีอะไรบ้าง

Route Highlight

2017-tour-de-france-2

  • การแข่งขันเริ่มในเมืองดุซเซลดอร์ในประเทศเยอรมนี และผ่านเบลเยียมและลักแซมเบิร์กก่อนจะกลับเข้าฝรั่งเศสในสเตจที่ 4
  • เส้นทางแข่งจะผ่านเทือกเขาที่สำคัญทั้ง 5 เทือกในฝรั่งเศส – Vosges, Jura, Pyreneese, Massif Central, และ Alps
  • จำนวนภูเขามีน้อยลง: ภูเขาในระดับความยากระดับ HC, Cat 1 และ Cat 2 รวมกันแล้วมีทั้งหมด 23 ลูก น้อยกว่าในปี 2016 ห้าลูก
  • แต่ความชันของภูเขาบางลูกโดยเฉลี่ยแล้วมีมากกว่าเดิม บางลูกมีจุดที่ชันสูงสุด 14% และอาจจะสูงได้ถึง 22%
  • รวมระยะทางทั้งสิ้น 3,516 กิโลเมตร กระจายออกใน 21 สเตจ
  • สเตจ Time Trial มีแค่ 2 สเตจ คือสเตจ 1 ระยะทาง 13.8 กิโลเมตร และสเตจ 20 ระยะทาง 23 กิโลเมตร
  • มีเส้นชัยบนยอดเขาแค่ 3 ครั้งเท่านั้น ครั้งแรกที่ La Planche des Belles Filles (สเตจ 5), ครั้งที่สองที่ Peyragudes (สเตจ 12) และครั้งสุดท้ายที่ Col d’Izoard (สเตจ 18)
  • สเตจภูเขาอื่นๆ จะจบด้วยการลงเขา ซึ่งก็จะทำให้พลวัตรการแข่งขันเปลี่ยนไปอีกแบบ
  • สเตจทางราบมีทั้งหมด 9 สเตจ มากกว่าปีก่อนๆ ทั้งแบบที่เหมาะกับนักปั่นสายคลาสสิค และเพียวสปรินเตอร์ นั่นหมายความว่านักปั่นอย่างคาเวนดิชมีโอกาสที่จะทำลายสถิติยอดชัยชนะในตูร์เดอฟรองซ์ของเอ็ดดี้ เมิร์กซ์ ที่ 34 สเตจ (คาเวนดิชตามอยู่ที่ 30 สเตจ)
  • คริสเตียน พรูดออม์  ประธานผู้จัดการแข่งขันกล่าวว่า เส้นทางแบบนี้ที่ลดเส้นชัยบนยอดเขาเป็นการลดโอกาสของทีมใหญ่ๆ ที่สามารถล็อกดาวน์การแข่งขันได้เหมือนทีม Sky จนทีมอื่นไม่มีโอกาส เขาหวังว่าเส้นทางปีนี้จะช่วยให้การแข่งสนุกสนานและคาดเดาได้ยากขึ้น
  • พรูดออม์ยังกล่าวว่า เขาอยากให้ลดจำนวนนักปั่นจากทั้งหมด 9 คนต่อทีมเหลือแค่ 8 คน เพื่อให้ทีมคุมเกมแบบผูกขาดได้ยากขึ้น และการแข่งขันสนุกขึ้นด้วย

วิดีโอข้างบนนี้คือเส้นทางขึ้นเขา Mont du Cat ซึ่งเป็นสเตจที่จบบนยอดเขาครั้งที่สอง (สเตจ 8) ที่นักปั่นต้องผ่านภูเขาสุดโหดอย่าง Grand Colombier (max 22%) และเป็นจุดที่เรย์มอนด์ พูลิดอร์เอาชนะเอ็ดดี้ เมิร์กซ์ในปี 1947

 

DT วิเคราะห์

โดยรวมแล้วเป็นปีที่น่าสนใจทีเดียวครับ เพราะถ้าผู้จัดสามารถลดจำนวนนักปั่นต่อทีมได้จริง จะทำให้ทีมใหญ่ๆ คุมเกมได้ยากพอสมควร และการที่ไม่มีเส้นชัยบนยอดเขาเยอะๆ เปลี่ยนมาเป็นทางลงเขายากๆ แทนก็หมายความว่ากลยุทธ์การผูกขาดการแข่งขันของทีมอย่าง Sky ไม่น่าจะใช้ได้ผล (หรือไม่ก็ต้องหาแผนใหม่) แถมสเตจ Time Trial ก็น้อยและสั้น เรียกได้ว่ามันไม่ “เข้าทาง” ตัวเต็งคนไหนๆ เลย

พอไม่มีสเตจภูเขายาวๆ นักปั่นอย่างคินทานา (Movistar) ก็ไม่มีจุดให้โชว์ฝีเท้าทำเวลาห่างคู่แข่ง และพอไม่มีสเตจ TT ยาวๆ แชมป์เก่า 3 สมัยอย่างฟรูม (Sky) ก็เสียเปรียบ

กลับกัน มันน่าจะช่วยให้นักปั่นหัวแหลมอย่างคอนทาดอร์ (Trek-Segafredo) และโรเมน บาค์เดต์ (AG2R) ได้โชว์กลยุทธ์การแข่งมากขึ้น รวมถึงม้ามืดอีกหลายๆ คนที่ผลงานดีมากในปีนี้เช่น เอสเตบาน ชาเวซ และพี่น้องเยทส์ (Orica-BikeExchange) และแม้แต่ ทอม ดูโมลาน์ (Giant) ก็น่าจะมีโอกาสเช่นกันครับ

 

นักปั่นคิดยังไงกับเส้นทางนี้?

คริส ฟรูม (Sky): “เหลือสเตจ TT แค่สองสเตจ และระยะทางสั้นๆ แบบนี้มันน่าจะยากสำหรับผมครับ แต่เราคงต้องกลับไปทบทวนเส้นทางและวางแผนกันใหม่ว่าจะรับมือยังไง 

ผมชอบที่ La Planche des Belles Filles เป็นเส้นชัยบนยอดเขาครั้งแรก และมาตั้งแต่สเตจ 5 มันเป็นเส้นทางพิเศษเพราะเป็นสถานที่ๆ ผมคว้าแชมป์สเตจในตูร์ได้เป็นครั้งแรก (2012) และมันคงช่วยทำให้เวลารวมค่อนข้างชัดเจนแต่เริ่ม ลดอันตรายในเปโลตองลง 

การที่สเตจภูเขาไม่จบบนยอดเขา น่าจะช่วยทำให้เกมการแข่งขันดุเดือดขึ้นไม่น้อยครับ แถมภูเขาชันๆ ระดับ 20%+ เหมือนใน Vuelta ก็ช่วยให้เกมสนุกมากขึ้นและทีมใช้ลูกทีมช่วยได้น้อยลงด้วย 

ผมตื่นเต้นครับ ยอมรับเลย ผมชนะมาแล้ว 3 ครั้ง และผมยังอยากจะชนะให้ได้อีก ผมรอจะกลับไปแข่งไม่ไหวแล้ว”

โรเมน บาค์เดต์ (AG2R): “รวมระยะทาง TT แล้วเยอะเหมือนกันครับ สองสเตจ 36 กิโลเมตร ผมคงเสียเปรียบตรงนี้ แต่โดยรวมแล้วเรามีสเตจภูเขาแปลกๆ มากขึ้น และสเตจนึงจบใกล้ๆ กับสำนักงานใหญ่ของ AG2R ด้วย

ปีหน้าเราจะได้ปีนเขาทุกเทือกเขารอบฝรั่งเศส นั่นหมายความว่าแทบไม่มีโอกาสให้ผู้เข้าแข่งขันได้พักเลยครับ พอมียอดเขาน้อย ตัวเต็งก็ต้องหาโอกาสทำเวลากัน มันอาจจะทำให้มีกลยุทธ์การแข่งที่ทีมหักเหลี่ยมชิงดีกันมากกว่าแค่ซัดกันขึ้นเขาให้เร็วที่สุด แถมตัวเต็งเดี๋ยวนี้ก็ฝีเท้าใกล้ๆ กันหมดแล้ว”

 

 2017 Tour de France  

Stage 1, July 1: Düsseldorf to Düsseldorf, 13.8km ITT
Stage 2, July 2: Düsseldorf to Liège, 202km
Stage 3, July 3: Verviers to Longwy 202km
Stage 4, July 4: Mondorf-les-Bains to Vittel, 203km
Stage 5, July 5: Vittel to La Planche des Belles Filles 160km (เส้นชัยบนยอดเขา)
Stage 6, July 6: Vesoul to Troyes, 216km
Stage 7, July 7: Troyes to Nuits-Saint-Georges, 214km
Stage 8, July 8: Dole to Station des Rousses, 187km
Stage 9, July 9: Nantua to Chambéry 181km

วันพัก, July 10:

Stage 10, July 11: Périgueux to Bergerac 178km
Stage 11, July 12: Eymet to Pau 202km
Stage 12, July 13: Pau to Peyragudes 214km (เส้นชัยบนยอดเขา)
Stage 13, July 14: Saint-Girons to Foix 100km
Stage 14, July 15: Blagnac to Rodez 181km
Stage 15, July 16: Laissac-Sévérac L’Eglise to Le Puy-en-Velay 189km

วันพัก, July 17:

Stage 16, July 18: Brioude to Romans-sur-Isère 165km
Stage 17, July 19: La Mure to Serre Chevalier 183km
Stage 18, July 20: Briançon to Col d’Izoard 178km (เส้นชัยบนยอดเขา)
Stage 19, July 21: Embrun to Salon-de-Provence 220km
Stage 20, July 22: Marseille ITT 23km
Stage 21, July 23: Montgeron to Paris 100km

2017-tour-de-france-1

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *