นี่คือ 10 ผู้ท้าชิงแชมป์ 2017 Vuelta a Espana

2017 Vuelta a Esapan – 19 สิงหาคม ถึง 10 กันยายน 2560

Vuelta a Espana หรือ Tour of Spain เป็นแกรนด์ทัวร์รายการสุดท้ายของปี แต่ละปี Vuelta ก็จะมี cycle ของมันครับ ช่วงต้นปีไม่มีนักแข่งคนไหนสนใจอยากจะชนะรายการนี้ จนถึง Tour de France ก็ยังไม่มีใคร “ตั้งเป้า” จะคว้าแชมป์ Vuelta เหมือนที่มีคนตั้งเป้าจะคว้าแชมป์ Giro d’Italia หรือ Tour de France (ฟังดูน่าสงสารเนอะ..) แต่พอตูร์ผ่านไปสักครึ่งรายการ นักปั่นตัวเต็งบางคนบาดเจ็บถอนตัว พวกที่ลงแข่ง Giro แล้วไม่ชนะหรือได้อันดับดีๆ ก็เริ่มเช็คดูว่าปีนี้เหลืออะไรให้แข่งมาก รู้ตัวอีกทีก็มีคนมาลง Veulta เต็มไปหมด ทั้งคนที่ผิดหวังจาก Giro / Tour, เด็กใหม่ในวงการที่อยากจะโชว์ผลงานเอาใจต้นสังกัด… สุดท้ายจากรายการที่ไม่มีใครเหลียวตามองกลายเป็นสนามที่นักปั่นเก่งๆ น่าลุ้นลงกันเต็มไปมด ปีนี้ก็เช่นกันครับ

 

เส้นทางเต็มไปด้วยยอดเขาสูงชันแต่ระยะทาง Time Trial ก็เยอะไม่แพ้กัน

2017 Vuelta ยังคงเอกลักษณ์ความเป็น Vuelta ไว้เหมือนเดิม นั่นคือเป็นสนามแข่งที่มีเส้นชัยบนยอดดเนินหรือยอดเขาเยอะที่สุดในรอบปี เทียบกับ Tour de France ที่มีเส้นชัยบนยอดเขาแค่ 3 สเตจ ใน Vuelta ปีนี้มีเส้นชัยบนยอดเขาสูงชัน 5 สเตจ, เส้นชัยบนยอดเขาที่ยาว 2-5 กิโลเมตร 3 สเตจ และเส้นชัยอยู่หลังเนินเขาชันๆ อีก 3 สเตจ รวมๆ แล้วมี pure summit finsih 8 สเตจ ครับ เพราะงั้นจะเป็นแชมป์ Vuelta ได้ต้องไต่เขาดีมาก

แต่ก็ต้องปั่น Time Trial ได้ดีด้วย เพราะว่ามีสเตจ Time Trial สองสเตจ แบ่งเป็น TT เดี่ยว 40.2 กิโลเมตร และ TT แบบทีมอีก 13.7 กิโลเมตร รวมระยะทางปั่น TT 53.9 กิโลเมตร!

นอกจากนี้มีสเตจทางราบเรียบสนิทสำหรับสปรินเตอร์อีก 5 สเตจ ระยะทางทั้ง 21 รวม 3,324 กิโลเมตร

รายการนี้มี Time Bonus แจกให้อันดับ 1-2-3 สเตจ 10-6-4 วินาทีตามลำดับ และอันดับ 1-2-3 ที่ผ่านจุดสปรินต์กลางสเตจจะได้ time bonus 3-2-1 วินาทีตามลำดับ

 

1. คริส ฟรูม (Team Sky) คือตัวเต็งหมายเลขหนึ่ง

ถ้าดูจากรายชื่อผู้เข้าแข่งขันแล้ว ก็พูดได้เต็มปากอยู่ว่าไม่ใช่ Vuelta ที่มีผู้ท้าชิงดุเดือดเท่าปีที่ผ่านๆ มาครับ (อย่างน้อยๆ ไม่มีคินทานาและดูโมลาน)​ เมื่อบวกกับระยะทาง Time Trial ร่วม 50 กิโลเมตร มันยากมากที่จะมองหาตัวเต็งคนอื่นที่ไม่ใช่คริส ฟรูม – ทักษะทีเขาเชี่ยวชาญกว่าคู่แข่งทุกคน และอย่างที่เราเห็นใน Tour de France ฟรูมเกือบจะน็อกโรเมน บาค์เดต์ที่หน้าเส้นชัยในสเตจ Time Trial สุดท้ายของรายการ

ฟรูมบอกชัดเจนว่าเขามี “ธุระที่ยังต้องสะสาง” ใน Vuelta ซึ่งก็เข้าใจได้เพราะเจ้าตัวได้ที่สองมาสามครั้งแล้วแต่ยังไม่เคยได้แชมป์เลย ถ้าเราวิเคราะห์ฟอร์มของฟรูมปีนี้ ที่แข่งตูร์แบบ conservative ดูราวกับจะเซฟแรงไว้เพื่ออะไรบางอย่าง ไม่โจมตีคู่แข่งเลยผิดกับปีก่อนๆ ผมว่าก็เซฟไว้ซัดใน Vuelta นี่หละครับ ถ้าฟรูมไม่ชนะ Vuelta ปีนี้ผมว่าปีหลังๆ ปีนี้เขาน่าจะฟอร์มดีที่สุด และปีถัดๆ ไปเขาก็คงยังให้ความสำคัญกับ Tour de France มากกว่ารายการอื่นอยู่ดี

แต่ถ้าจะมีเหตุผลที่ทำให้ฟรูมไม่ชนะ ก็เดาไม่ยากเหมือนกัน ฟรูมไม่เคยชนะสเตจเรซไหนๆ เลยในสเปน (ไมแน่ใจว่าไม่ถนัดลักษณะภูเขาชันๆ สั้นๆ อย่างในสเปนหรือเปล่า) ท่าซิกเนเจอร์ของฟรูมใน Vuelta คือโดนทิ้งที่ตีนเขาแล้วค่อยๆ ไล่เพซกลับขึ้นไปทันกลุ่ม ถ้าแรงดีก็มีโจมตีซ้ำ แต่แทคติคแบบนี้เสี่ยงเสียมากกว่าได้ อีกเหตุผลอาจจะเพราะเขาทุ่มให้ตูร์ก่อนเสมอมาตลอด เพราะงั้นยังไม่มี Vuelta ปีไหนที่เขาลงแข่งแบบเตรียมตัวมา 100% เพื่อรายการนี้ เหตุผลเดียวที่เขาจะไม่ชนะคือกรอบจากตูร์ แต่เหตุผลนี้ก็ใช้ได้กับคู่แข่งเกือบทั้งหมดของเขาในรายการที่ตามมาล้างตาจากตูร์เหมือนกัน

ทีม Sky ส่งผู้ช่วยที่แข็งแทบไม่แพ้ชุดทีมตูร์ครับ นักไต่เขามี ดิเอโก้ โรซ่า, เวาท์ โพลส์, มิเคล เนียเว, และจิอันนี มอสคอน มีคริสเตียน นีส์, เอียน สแตนนาร์ดและเดวิด โลเปซคุมเกมทางราบ

 

2. นิบาลี (Bahrain-Merida) คือคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดของฟรูม

นิบาลีเป็นตัวเต็งไม่กี่คนในรายการนี้ที่ร่างกายสด ไม่ได้ลงตูร์มาก่อน ตัวเขาเองก็ประสบการณ์แกรนด์ทัวร์เต็มเปี่ยมอยู่แล้ว นิบาลีที่ฟอร์มดีนั้นแม้แต่ฟรูมหรือคอนทาดอร์ก็สู้ยาก เราไม่รู้ว่านิบาลีตอนนี้เป็นเวอร์ชันไหน ถ้าเป็นเหมือนใน Giro ปีนี้ก็คงไม่น่าไว้ใจเท่าไร (ได้ที่ 3 ใน Giro ปีนี้ ช้ากว่าแชมป์ 40 วินาที ทั้งๆ ทีี่ดูโมลานจอดทิ้งระเบิดตามหลังสองนาทีกว่า)​ นิบาลีที่ฟอร์มดีที่สุดคือในตูร์ 2014 แต่หลังจากนั้นเราก็ไม่เห็นฟอร์มแรงของเขาอีกเลย ในปี 2016 ที่เขาได้แชมป์ Giro นั่นก็เพราะเคราซ์เวกฟาดกำแพงหิมะจนเสื้อหลุด ถ้าว่ากันตามพละกำลังในปีนั้น นิบาลีไม่น่าจะทำเวลาแซงเคราซ์เวกในการดวลแบบตัวต่อตัวแน่นอน ถ้าเขาจะชนะเขาต้องโชว์ฟอร์มทำเวลาขึ้นนำตั้งแต่ต้นๆ รายการ เพราะถ้าจะรอช่วงหลัง และสเตจ TT คงสู้ฟรูมยากครับ

 

3. ฟาบิโอ้ อารู (Astana) ก็น่าจับตามอง

คนที่เคยได้แชมป์มาแล้วมีเครดิตดีกว่าเสมอ อารูก็เป็นหนึ่งในนั้น ถึงแม้ปีที่เขาได้แชมป์จะเป็นเพราะฟรูมปั่นไม่จบ และอารูไม่ได้ลงตูร์มาก่อนเหมือนฟรูมก็ตาม แต่ถ้าเราใช้ตรรกะนี้แล้วบอกว่าฟรูมเป็นตัวเต็งเบอร์หนึ่ง อารูก็ต้องเป็นตัวเต็งเหมือนกัน เพราะทั้งคู่ลงตูร์ปีนี้มาเหมือนกันครับ อีกอย่างในตูร์ อารูมีปัญหาติดเชื้อในปอด หายใจลำบากทำให้เขาเฟดไปในช่วงสัปดาห์ที่สอง ถ้าตอนนี้เขาพักฟื้นได้เต็มที่แล้ว สไตล์การปั่นของอารูนั้นก็น่ากลัว มีความสด และโจมตีได้รุนแรง เหมือนในสเตจที่เขาแซงฟรูมเพื่อคว้าเสื้อเหลืองในตูร์ปีนี้บนยอด La Planche des Belle Filles

ปัญหาเดียวของอารูคือแผนการแข่งปีนี้ของเขามั่วไปหมด เขาตั้งเป้าจะลง Giro นั่นหมายความว่าคัดฟอร์มให้เตรียมพีคในรายการนั้นไปแล้ว แต่ปรากฏบาดเจ็บลงแข่งไม่ได้ เลยต้องมาลงตูร์แทน การลง Vuelta หมายความว่าเขาต้องเตรียมฟอร์มให้พีคถึงสามรอบ ซึ่งไม่ง่ายสำหรับนักแข่งมืออาชีพครับ ปัญหาที่จะเจอคือ consistency หรือการรักษาฟอร์มให้นิ่งไม่ขึ้นไม่ลงวูบวาบ เหมือนที่ผ่านๆ มา ถ้าทำได้ก็ยังต้องเจอสเตจ TT ยาวๆ ที่เขาจะเสียเวลาได้มากอีกเช่นกัน

 

4. อดัม เยทส์ (Orica-Scott) จะไหวมั้ย?

เยทส์เป็นอีกคนที่ลง Giro มาแต่แข่งได้ไม่เต็มรายการเพราะล้มบาดเจ็บในสเตจ 9 ทำได้เพียงติด Top 10 รายการเท่านั้น และฟอร์มก็กำลังดีด้วยหลังจากที่ได้อันดับ 5 ใน Tour de Pologne สองสัปดาห์ก่อนนี้ครับ (ได้อันสองใน Queen Stage ด้วย) และน่าจะเป็นนักปั่นใน Orica ที่สดที่สุด เทียบกับแฝดไซมอนที่เพิ่งลงตูร์มา และชาเวซที่ป่วยยาวทั้งปี

ปัญหาเดียวของเยทส์คือประสบการณ์ เขายังไม่เคยชนะสเตจเรซเลยสักรายการเดียว

 

5. แล้วเอสเตบานา ชาเวซ (Orica-Scott) ลุ้นขึ้นมั้ย?

ในบรรดาตัวเต็งแกรนด์ทัวร์ของ Orica ชาเวซเป็นคนที่พัฒนาการดีที่สุด สเตจวินใน Vuelta 2015 ตามด้วยที่สองใน Giro 2016 และในบรรดาตัวเต็งทั้งหมดของรายการนี้ ชาเวซเป็นคนที่ใช้แรงไปน้อยที่สุดในฤดูกาลครับ (ชั่วโมงการแข่งก็อาจจะน้อยที่สุดด้วยเช่นกัน) จากอาการเจ็บป่วยทั้งทางกาย และทางใจ (เพื่อนสนิทเสียชีวิต) ในตูร์เขาก็ไม่ได้มีบทบาทและไม่ได้โจมตีหรือช่วยเพื่อนลากแต่อย่างใด

ปีนี้ชาเวซน้ำหนักขึ้นและฟอร์มตก น่าสนใจว่าใน Vuelta ปีนี้เขาจะพลิกฟอร์มกลับมามีบทบาทได้มั้ย เพราะอย่างที่เราเห็นใน Vuelta 2015 การโจมตีของชาเวซแบบแรงๆ กระชากสั้นๆ เก็บ time bonus แต่ละสเตจนั้น เหมาะกับเส้นทาง Vuelta เป็นอย่างมากครับ เป็นม้ามืดที่น่าสนใจล่ะนะ

 

6. โรเมน บาเดต์ (AG2R) มาทำอะไรที่นี่?

ปีนี้เป็นการแข่ง Vuelta ครั้งแรกของบาเดต์ และเป็นแข่งแกรนด์ทัวร์สองครั้งในปีเดียวกันของเขาเช่นกัน ในตูร์ปีนี้เขาเป็นนักไต่เขาที่ขยันที่สุด โจมตีคู่แข่งหลายครั้งและพยายามจนถึงวันสุดท้าย แน่นอนจุดอ่อนคือ Time Trial ที่ทีมเขาอาจจะเสียเวลาทั้งสเตจแรก (TTT) และสเตจ ITT ทางเดียวที่จะชนะได้คือต้องโจมตีบ่อยๆ ในสเตจภูเขาเพื่อเก็บ time bonus ตุนไว้เยอะๆ แต่บาเดต์เองก็หมดไปเยอะกับตูร์ จะสดโจมตีได้บ่อยเหมือนในเดือนกรกฏาหรือเปล่าคงต้องติดตามกันต่อไป

 

7. ราฟาล ไมย์ก้า (Bora-Hansgrohe) ก็น่าติดตาม

ไมย์ก้าเป็นคนที่เหมือนจะไปถึงฝั่งแต่ก็ยังไม่ถึงสักที เรารู้ว่าเขาไต่เขาได้ดีมาก และสู้แกรนด์ทัวร์ได้ (ที่ 7,6,5 ใน Giro ’13, ’14, ’16 และที่ 3 ใน Vuelta 2015) ปีนี้เขาล้มเจ็บในสเตจ 9 ตูร์ แผลถลอกเต็มตัวและสุดท้ายถอนตัวไป เพราะงั้นมีเวลาฟื้นตัวเยอะ และฟอร์มก็มาแรงมากใน Tour de Pologne ปีนี้กับการคว้าอันดับสอง ผมว่ามีลุ้นโพเดี้ยม แต่ลุ้นแชมป์รายการอาจจะยังไม่ถึงขั้น ฟรูมและนิบาลี

 

8. อัลเบอร์โต้ คอนทาดอร์ (Trek-Segafredo) กับการลงสนามครั้งสุดท้าย

คอนทาดอร์จะชนะมั้ย? ผมว่าไม่ชนะ แต่เป็นคนที่เราจะพูดถึงไม่ได้เพราะถึงจะไม่ชนะ เขาก็ไม่อยู่เฉยๆ แน่ๆ ในตูร์ปีนี้เขาพยายามทำลายจังหวะของทีมคู่แข่งหลายครั้ง ทั้งโจมตีระยะไกล โจมตีระยะใกล้ ส่งเพื่อนหนีไปรอช่วย แต่ดูเหมือนว่าคอนทาดอร์จะขาดสปีดที่เร็วพอจะทุบคู่แข่งได้ เจอตัว-ตัวไม่ชนะทั้งฟรูมและบาเดต์ เลยต้องหาทางอื่น แถมยังล้มบ่อยกว่าเพื่อน เหมือนกับขาดความเฉียบคมที่เคยมีเมื่อ 6-7 ปีก่อน และการที่ลงตูร์แถมแข่งแบบถวายชีวิตก็คงไม่ช่วยให้ฟอร์มดีขึ้น แต่อย่างน้อยการแข่งจะสนุกเพราะมีคอนทาดอร์นี่หละครับ สนามสุดท้ายเขาไม่จากไปแบบเงียบๆ แน่นอน

 

9. ยังจำอิลเนอร์ ซาคาริน (Katusha) ได้หรือเปล่า?

เอาจริงๆ ซาคารินนี่ก็เป็นคนที่ประมาทไม่ได้เลย ถ้านับจากเวลาใน Giro ปีนี้ที่เขาช้ากว่าแชมป์รายการ 1:56 นาที เวลาเกือบทั้งหมดที่เขาช้ากว่านั้นมาจากสเตจเดียวที่จบบนยอด Blockhaus ที่เขาพลาดไป แต่ถ้าดูฟอร์มเสตจอื่นแล้วเขาอยู่ระดับเดียวกับนิบาลีด้วยซ้ำ และเป็นนักปั่นที่โจมตีเยอะที่สุดใน Giro ปีนี้ ถ้าเขาระวังตัวไม่พลาดเสียเวลาเยอะๆ ก็น่าจะลุ้นโพเดี้ยมได้เหมือนกัน จุดอ่อนคือซาคารินไม่เคยแข่ง Vuelta เลยและปีที่เขาลงแข่งแกรนด์ทัวร์สองรายการพร้อมกันเขานำเกม GC ไม่ได้ ทำได้แค่ไล่เก็บแชมป์สเตจบนเขา

 

10. มิกูเอล โลเปซ (Astana) เป็นแผนสองของ Astana

ถ้าจะบอกว่าโลเปซจะได้แชมป์รายการก็คงจะเกินเลยไปหน่อย เขาเพิ่งอายุ 23 และลงแข่งแกรนด์ทัวร์เป็นครั้งที่สองในชีวิต แถมครั้งแรก (Vuelta ปีที่แล้ว) ก็แข่งไม่จบซะงั้น โลเปซเป็นนักปั่นชาวโคลอมเบียที่กำลังมาแรงครับ ทีม Sky เคยเล็งหมายตัวไว้แต่ซื้อไม่ทัน เป็นนักไต่เขาชั้นดีที่อารูหวังพึ่งได้ (ว่าจะไม่แทงข้างหลัง 555) ได้แชมป์ในสเตจ 5 Vuelta a Burgos เมื่อไม่นานมานี้ และเคยได้แชมป์รายการ Tour de Suisse ด้วย ผมว่า Top 10 ลุ้นได้ แต่โพเดี้ยมคงยาก

 

คนอื่นที่น่าสนใจมีใครบ้าง?

  • จะเห็นว่าไม่มี Movistar ในรายชื่อนักปั่นข้างบนนี้ก็เพราะทั้งวาวเวอเด้และคินทานาไม่ลงแข่งครับ เบทันเคอร์ และมาร์ค โซเลอร์จะนำทีมแทน
  • นี่คงเป็นครั้งแรกที่ผมไม่ได้เขียนชื่อทีเจย์ แวนการ์เดอเรน (BMC) ในฐานะตัวเต็ง ซึ่งก็คงต้องเป็นอย่างนั้นกับผลงานที่ยังไม่ถึงเกณฑ์ตลอดหลายปีที่ผ่านมา จริงๆ BMC มีทีมแข็งนะ โรฮาน เดนนิส, ดามิอาโน คารูโซ่, นิโคลาส โรช, และแดนเนียล ออส นี่อาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายในการกู้ฟอร์มและชื่อเสียงของทีเจย์ DT ขอเอาใจช่วยละกัน
  • Sunweb มีใครบ้าง? หลังจากที่ผลงานโฉ่งฉ่างมากใน Tour de France รอบนี้ส่งวิลโค เคลเดอร์แมนนำ GC และวาร์เรน บากิลล์มาล่าสเตจต่อ
  • เคราซ์เวก (LottoNL-Jumbo) ดูเงียบๆ ฟอร์ม Giro ปีนั้นหายไปไหนหมดแล้วก็ไม่รู้
  • Quickstep ส่งบ็อบ ยุงเกลส์และเดวิด เดอ ลาครูซ ยุงเกลส์ไม่น่าจะปีนเขาเยอะขนาดนี้ไหว แต่ก็น่าติดตามพัฒนาการครับ

 

สรุป

ถ้าฟรูมจะชนะ Vuelta มันก็ต้องชนะปีนี้แล้ว เพราะโอกาสดีที่สุด เส้นทางเข้าขาที่สุด ผมไม่คิดว่าเขาจะโจมตีกลุ่มแบบระเบิดเถิดเทิง อาจจะใช้แทคติคเดียวกับตูร์คือเอาเวลาในสเตจ TT แล้วรักษาระยะห่างในสเตจภูเขาให้ไม่เสียเยอะเกินไป ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับฟรูม นิบาลีคงมีลุ้นแชมป์ ชิงที่สามผมให้ไมย์ก้า ซาคาริน และบาเดต์

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *