เกิดอะไรขึ้นในสเตจ 3?
สเตจ 3 เมื่อวานนี้เป็นการแข่งจับเวลาแบบทีม (Team Time Trial) ระยะทาง 35.5 กิโลเมตรในเมือง Cholet แชมป์สเตจตกเป็นของทีม BMC Racing ที่ทำเวลาได้ดีที่สุด และเสื้อเหลืองผู้นำเวลารวมก็เปลี่ยนมือจากปีเตอร์ ซากาน (Bora-Hansgrohe) มาเป็นเกร็ก แวน เอเวอร์มาร์ท (BMC)
แต่ไฮไลท์ของวันอยู่ที่อันดับเวลารวมของตัวเต็งรายการหลายๆ คน มีทั้งนักปั่นที่กู้เวลาคืนจากที่เสียไปในสองวันแรก (ฟรูม, พอร์ท, เยทส์) และคนที่เสียเวลาเพิ่ม (คินทานา, นิบาลี, มาร์ติน, บาเดต์)
เริ่มจากคนแรกก่อน ปีเตอร์ ซากานที่คว้าแชมป์สเตจสองและคว้าเสื้อเหลือง แน่นอนยู่แล้วว่าเขาไม่ใช่ตัวเต็งที่มีโอกาสคว้าแชมป์รายการ แต่เมื่อวานซากานอาจจะฟอร์มไม่ดีหรือตั้งใจออมแรงไว้ใช้ในสเตจอื่นๆ เมื่อเขาหลุดกลุ่มจากทีมตัวเอง เข้าเส้นชัยช้ากว่าเพื่อนร่วมทีมถึงสองนาที แต่ยังคงนำเสื้อเขียวผู้นำคะแนนรวมอยู่
Quickstep-Floors เป็นอีกทีมที่ไม่มีตัวเต็ง GC แต่พยายามจะเอาชนะสเตจให้ได้ เพราจะเป็นการคว้าเสื้อเหลืองให้ฟิลลิป จิลแบร์ ทว่าเฟอร์นันโด กาวิเรีย เอซสปรินเตอร์ของทีมหลุดกลุ่มกลางทาง ทีมชะงักเล็กน้อยก่อนจะตัดสินใจไม่รอกาวิเรีย ซึ่งเข้าเส้นชัยหลังเพื่อนร่วมทีมถึง +4:47 นาที เสียเสื้อขาว Best Young Rider ให้ โซเร็น คราก์ แอนเดอร์เซ็น (Sunweb)
BMC, Sky, Mitchelton-Scott แก้เกม
BMC ยังคงยืนยันฟอร์มทีมที่ปั่น Team Time Trial ได้ดีที่สุดในโลก ถึงจะไม่ได้แชมป์โลกเป็นสมัยที่สามในการแข่งขันปีที่แล้ว แต่ก็ยังเป็นทีมที่ชนะการแข่งประเภทนี้่เยอะที่สุดในฤดูกาล 2018 ในระยะทาง 35.5 กิโลเมตร BMC ใช้เวลาปั่นเพียง 38:46 นาที คิดเป็นความเร็วเฉลี่ย 54.994 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และทำความเร็วสูงสุดช่วงลงเขาเกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ที่เร็วไม่แพ้กันคือทีม Sky ที่จบสเตจช้ากว่า BMC แค่ +4 วินาทีเท่านั้น กู้เวลาคืนให้คริส ฟรูมที่เสียไปในวันแรก 51 วินาทีได้เกือบทั้งหมด ขณะเดียวกันก็พาเกอเรนท์ โทมัสขึ้นเป็นตัวเต็ง GC (Virtual) ที่เวลาดีที่สุดตอนนี้
Mitchelton-Scott ที่อันดับ 4 +9 วินาทีก็ทำได้ไม่เลว เยทส์กลับขึ้นมาอยู่ในอันดับเวลาใกล้เคียงตัวเต็งคนอื่น Sunweb ที่อันดับ 5 +11 วินาทีอาจจะปั่นได้ไม่ดีเท่าปีที่แล้วที่ทีมได้แชมป์โลก แต่นั่นก็หมายความว่าทอม ดูโมลานขึ้นมาอยู่อันดับ Top 3 ในบรรดาตัวเต็ง ตามหลังโทมัสแค่ 8 วินาทีเท่านั้น
นอกจาก 4 ทีมใหญ่นี้ ทีมอื่นๆ ที่ไม่ได้เชี่ยวชาญ Team TIme Trial ก็มีอันดับเวลากระจัดกระจายเยอะทีเดียว ทีมที่ช้าที่สุดคือ Cofidis ช้ากว่า BMC ถึง 3:23 นาที ส่วนตัวเต็งคนอื่นเสียเวลาไปเกือบหนึ่งนาทีหรือมากกว่า
ยาค็อบ ฟูลก์แซง (Astana) และอิลเนอร์ ซาคาริน (Katusha-Alpecin) ยังพอท้าชิงได้ ตามคู่แข่งที่ +51 และ 52 วินาทีตามลำดับ วินเชนโซ นิบาลี (Bahrain-Merida) เสียไป +1:06 นาที โรมัน บาเดต์ (AG2R) และพริมอซ โรจ์กลิค (LottoNL) ที่ +1:15 นาที
แดน มาร์ติน (UAE) โดนหนักกว่าเพื่อนที่ +1:38 นาที และไนโร คินทานา ที่เสียเวลามากจากสเตจแรกอยู่แล้ว ตอนนี้เป็นตัวเต็งที่เวลาแย่ที่สุดที่ +2:08 นาที
อันดับเวลาของตัวเต็ง GC ตอนนี้ออกมาเป็นอย่างนี้ครับ
0. Greg Van Avermaet (BMC Racing), 9:08:55 ชั่วโมง
1. Tejay van Garderen (BMC Racing), +0:00
2. Geraint Thomas (Team Sky), +0:03
3. Tom Dumoulin (Team Sunweb), +0:11
4. Rigoberto Uran (EF Education First-Drapac), +0:35
5. Rafal Majka (Bora-Hansgrohe), +0:50
6. Jakob Fuglsang (Astana), +0:51
7. Richie Porte (BMC Racing), +0:51
8. Alejandro Valverde (Movistar), +0:53
9. Mikel Landa (Movistar), +0:53
10. Chris Froome (Team Sky), +0:55
11. Adam Yates (Mitchelton-Scott), +1:00
12. Vincenzo Nibali (Bahrain-Merida), +1:06
13. Romain Bardet (Ag2r La Mondiale), +1:15
14. Dan Martin (UAE-Team Emirates), +1:38
15. Nairo Quintana (Movistar), +2:08
นั่นหมายความว่ากลุ่มตัวเต็งเวลายังทิ้งกันไม่เกินสองนาที แต่นี่แค่สเตจ 3 เท่านั้น สัปดาห์แรกถึงจะไม่มีสเตจภูเขามากนักแต่ก็มีจุดที่ GC สามารถเสียเวลาได้อีกหลายสเตจครับ อย่างที่เราเห็น แค่สเตจทางราบสองสเตจนักปั่นบางคนก็เสียไปเป็นนาทีได้จากอุบัติเหตุแล้ว ดูโมลาน, โทมัส และอูรานน่าจะแฮปปี้กว่าเพื่อน แต่บททดสอบสำหรับทั้งสามคน เริ่มในสเตจภูเขา ไม่ใช่สเตจทางราบ จุดสำคัญหลังสเตจนี้คือ TTT ไม่ได้ทำให้เกมขาดกันชัดมาก ซึ่งเป็นเรื่องดีครับไม่งั้นคงน่าเบื่อ สมมติว่าฟรูมไม่ล้มในสเตจแรก ตอนนี้เขาจะมีเวลานำคู่แข่งไปแล้วเกินหนึ่งนาที การที่โทมัสเวลาดีกับฟรูม และคนอื่นๆ เวลาไล่กันอย่างนี้น่าจะทำให้เกมสนุกขึ้นตลอดทั้งสัปดาห์แรก
ผลการแข่งขัน
วิดีโอไฮไลท์
ใครพูดอะไรบ้าง?
คริส ฟรูม (Sky)
“ก็อย่างที่เห็น ผมเริ่มการแข่งไม่ดีเท่าไรที่ล้มในสเตจ 1 แต่ยังต้องแข่งกันอีกเยอะ วันนี้เราได้เวลาคืน ผมว่าเราปั่นโอเคนะ เราทุ่มสุดตัว ใน TTT เราบอกไม่ได้เลยว่าคนไหนจะฟอร์มีฟอร์มตก แต่ทีมเราทำได้ดีครับ มันคงดีกว่าถ้าผมไม่เสียเวลาแต่แรก บางวันคุณก็ทำเวลานำได้ บางวันคุณก็เสีย มันเป็นธรรมชาติของการแข่ง”
เกอเรนท์ โทมัส (Sky)
“วันนี้เราอยากได้แชมป์สเตจครับ เราเคยเกือบได้หลายครั้งแล้วในตูร์ปีก่อนๆ ปีนี้ก็เหมือนกัน ใกล้แต่ไม่สำเร็จ ผมผิดหวังนิดหน่อย เพราะตอนใกล้จบผมคิดว่าผมจะเหลือแรงเยอะกว่านี้”
วินเชนโซ นิบาลี (Bahrain-Merida)
“ทีมเราไม่แข็งแรงพอ ตอนจบเราเหลือแค่สี่คน เราก็พยายามกันเต็มที่น่ะนะ แต่พวกเราไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ Team Time Trial เราอาจจะจบด้วยเวลาที่แย่กว่านี้ แต่มันก็น่าจะทำได้ดีกว่านี้เหมือนกัน เวลาเหลือแค่สี่คนคุณมีสิทธิพลาดเยอะครับ (เวลาของทีมนับจากคนที่สี่ที่เข้าเส้นชัย) ถ้าเกิดมีคนล้มหรือจักรยานพังขึ้นมา คุณเสียเวลาเยอะได้เลยนะ ในแกรนด์ทัวร์คุณต้องใจเย็นครับ มันเป็นเกมที่ซับซ้อน เล่นกับมันแบบวันต่อวันจะดีที่สุด”
เกร็ก แวน เอเวอร์มาร์ท (BMC)
GVA แชมป์สเตจก็ดีใจไม่น้อยเขามีโอกาสที่จะป้องกันเสื้อเหลืองไปจนถึงสเตจ 10
“Team Time Trial เป็นการแข่งที่พิเศษครับ ทั้งทีมทุ่มสุดตัวเพื่อเป้าหมายเดียว ผมคิดว่าทีมเราทำได้ดีจนเป็นระดับผู้เชี่ยวชาญในการแข่งประเภทนี้แล้ว ผมดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของชัยชนะนี้ เป้าหมายของทีมเราคือต้องเก็บเสื้อเหลืองให้ได้ในสัปดาห์แรก สำหรับนักปั่นทุกคน การได้เสื้อเหลืองมันเป็นเรื่องพิเศษมากครับ ผมอยากขอบคุณเพื่อนทุกคนเพราะถ้าไม่มีพวกเขาเราคงไม่ได้สิ่งนี้”
ริชีย์ พอร์ทที่มีข่าวออกมาว่าได้เซ็นสัญญากับ Trek-Segafredo สำหรับฤดูกาลหน้าแล้วให้สัมภาษณ์:
“ไม่แย่เลยกับทีมที่กำลังหาสปอนเซอร์ที่จะได้เสื้อเหลือง และเราไล่เวลา GC กลับมาได้ไม่น้อยครับ อีกหกสเตจวุ่นๆ กว่าจะถึงภูเขา”
แดน มาร์ติน (UAE)
“มันไม่ดีหรอกที่จะเสียเวลา แต่ถ้าพูดถึงวันแย่ๆ ผมว่าวันนี้เราก็ไม่แย่มากนัก ถ้าคุณบอกผมว่าผมจะช้ากว่าฟรูมแค่ 40 วินาทีในสเตจ Time Trial ผมก็พอใจนะ ก็จริงว่าผมช้ากว่าโทมัส 1:40 นาที แต่ผมก็นำคินทานาอยู่ไม่น้อย จะคิดอะไรมาก วันนี้แดดออกอากาศดี เรากำลังแข่ง Tour de France สิ่งที่เราทำได้มีแค่ดีที่สุด”
ยูเซบิโอ อุนซึ ผจก. ทีม Movistar
“วันนี้มันยากอยู่แล้วครับเพราะเส้นทางมันเหมาะกับพวกนักปั่นตัวใหญ่ๆ แรงดีๆ สำหรับทางราบ เราทำได้ดีในช่วงแรกของสเตจนะ ซึ่งเป็นจุดที่ยากที่สุด เราทำเช็คพอยท์แรกได้เร็วไม่แพ้ทีมตัวเต็ง แต่จุดที่ยากจริงๆ คือครึ่งหลัง ซึ่งไม่ค่อยมีเนิน เราเสียทั้งโรฮาส และเออร์วิตี (โดเมสติกทางราบของทีม) ไปแล้ว เราต้องปั่นกันเร็ว 60-70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เราเหลือนักปั่นแค่ 5 คน แล้วสามคนนั้นหนักแค่ 60 กิโลกรัม…”
พรีวิวสเตจ 4
จาก Le Baule ไป Sarzeau (195km)
สเตจนี้ตรงไปตรงมาครับ ทางราบๆ มีเนินบ้างช่วงกลาง น่าจะจบด้วยการสปรินต์เหมือนเดิม (แต่ระหว่างทางใครจะเสียเวลาบ้างก็บอกไม่ได้เหมือนกันล่ะนะ) ช่วงสุดท้ายของสเตจไม่ซับซ้อนเท่าสเตจ 2 เพราะงั้นโอกาสล้มคงไม่เยอะเท่า จริงๆ แล้วกลุ่มสปรินเตอร์นี่ฟอร์มก็ไม่หลุดกันมากเท่าไร มีหลายคนที่ดวงไม่ค่อยดี เช่นคิทเทลที่ยางรั่วในสเตจ 2 คาเวนดิชที่โซ่ตกในสเตจ 1 ส่วนคนอื่นๆ อย่างโกรนเวเก็น แมธธิวส์ ซากาน ไกรเปิล คริสทอฟ โคลเบรลลี ก็สูสีใช้ได้ แพ้ชนะกันแค่จังหวะ คนที่ดูจะเร็วจริงๆ คือกาวิเรียที่มีลีดเอาท์ดีที่สุดในงาน ก็เป็นอีกวันที่น่าลุ้นครับ
ถ่ายทอดสด 20:00-22:30 เช็คลิงก์ถ่ายทอดสดที่ duckingtiger.com/live
