Lead Photo Credit: © BORA – hansgrohe / Bettiniphoto & VeloImages
สเตจ 9 ใน Tour de France ที่นักปั่นต้องแข่งบนเส้นทางถนนหิน สุดท้ายมันอาจจะไม่ใช่สเตจที่นักปั่นตัวเต็งเสียเวลากันมากอย่างที่หลายๆ คนคาดไว้ แต่ก็เป็นวันที่หนักและเหนื่อยสำหรับทุกคนครับ มีผู้นำทีมน้อยคนมากที่ไม่ล้มหรือมีปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่ง ลองดู 10 รูปที่ DT คิดว่าจับบรรยากาศการแข่งเมื่อวานนี้ได้ดีที่สุดโดยช่างภาพจักรยานชื่อดังครับ
1. Naesen’s bunnyhop
ภาพนี้จับโดย Nossports สำนักข่าวกีฬาจากเนเธอร์แลนด์ จับจังหวะที่ราฟาล ไมย์ก้า เอซจาก Bora-Hansgrohe ล้ม และโอลิเวอร์ เนเซ็น อดีตแชมป์เสือหมอบเบลเยียมจาก AG2R อยู่ข้างหลังพอดี เราไม่รู้ว่าต่อจากนี้เนเซ็นล้มหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ เขาแข่งต่อได้จนจบ
2. คริส ฟรูม “บิน”
ภาพจับโดย Benoit Tessier อยู่ในหัวโค้งที่ทีม Sky และคริส ฟรูมลื่นสไลด์พอดี คนที่นอนอยู่กับพื้นน่าจะเป็นลุค โรว์ สเตจ 9 เมื่อคืนนี้มีนักปั่นหลายคนมากที่ลื่นแหกโค้ง
3. เดเกนโคลบ์หลังเข้าเส้นชัย
จอห์น เดนเกนโคลบ์ตื้นตันกับชัยชนะครั้งใหญ่ในรอบสองปีของเขา เดนเกนโคลบ์อยู่ในช่วงเวลาที่ลำบากตลอดสองปีที่ผ่านมา เขาบาดเจ็บใหญ่โดนรถชนระหว่างฝึกซ้อมเมื่อต้นปี 2016 และเพื่อนรักเสียชีวิตไปในปี 2017 ทำให้ไม่มีผลงานยาวหลายปี ซึ่งจริงๆ แล้วเขากำลังฟอร์มดีก่อนหน้านี้หลังจากที่ได้แชมป์ Milan San Remo และ Paris-Roubaix ในปี 2015
ชัยชนะเมื่อคืนนี้เป็นแชมป์สเตจครั้งในแรกใน Tour de France ของเดเกนโคลบ์ด้วย
4. พอร์ทออกจากการแข่งขัน
จะบอกว่าพอร์ทเป็นนักปั่นที่อับโชคที่สุดในตูร์ก็เป็นได้ เขาล้มกระดูกไหปลาร้าหัก ซึ่งปีที่แล้วเขาก็ล้มเจ็บระหว่างลงเขา Mon du Chat จนต้องออกจากการแข่งขันเช่นกัน ทีม BMC วางแผนให้พอร์ทลงแข่ง Vuelta ต่อหลังจากพักฟื้นตัวสมบูรณ์แล้ว
5. สีหน้าของอีฟ แลมพาร์
Quickstep เป็นทีมที่หลายคนคาดว่าจะชนะสเตจเมื่อวานนี้ ฟิลลิป จิลแบร์ออกโจมตีกลุ่มหลายครั้ง แต่ตัวเต็งคนสำคัญอย่างนิกี้ เทิร์ปสตร้าโชคไม่ดี ล้มหลุดกลุ่ม แลมแพร์เป็นนักปั่นที่อันดับดีที่สุดของทีม เขาเบรคอเวย์ไปกับเดเกนโคลบ์และแวนเอเวอร์มาร์ท แต่สปรินต์แซงทั้งคู่ไม่ได้และคว้าอันดับสาม ปัจจุบันเขาเป็นแชมป์จักรยานถนนเบลเยียม และอายุเพียง 28 ปีเท่านั้น
6. อเลฮานโดร
อเลฮานโดร วาวเวอเด้พิสูจน์ความเป็นนักปั่นที่รอบด้านที่สุดในเปโลตองอีกครั้ง นอกจากจะปั่นโดยไม่มีปัญหาใดๆ เลยในสเตจเมื่อวานนี้ ตอนท้ายเขายังลองเสี่ยงโจมตีกลุ่มผู้นำอีกด้วย ถึงจะไม่สำเร็จแต่ Movistar ก็รอดสเตจถนนหินโดยไม่มีปัญหาใดๆ
เพราะถึงมิเคล แลนด้าจะพลาดล้ม แต่ทีมก็ส่งเพื่อนร่วมทีมลงไปช่วยสองคน และไล่กลับเกือบทันกลุ่มหน้า เสียเวลาไปแค่ 7 วินาทีให้คู่แข่งเท่านั้น
7. โรมัน บาเดต์
ภาพนี้สะท้อนการแข่งขันของโรมัน บาเดต์ เอซจาก AG2R ได้ดีที่สุด เขาเป็นตัวเต็งที่เจอปัญหาเยอะที่สุด ยางรั่วถึงสามครั้ง เกียร์พัง และต้องเปลี่ยนรถอีกหลายครั้ง ทำให้เวลาการแข่งขันส่วนใหญ่เป็นการไล่ตามกลุ่มหน้าเพื่อไม่ให้เสียเวลา หลายครั้งเขาต้องไล่เข้ากลุ่มคนเดียว
แต่เจ้าตัวก็ยังฟอร์มดีเหลือเชื่อ มีบางจังหวะที่กลับเข้ากลุ่มทันแล้วยังพยายามโจมตีกลุ่มต่อด้วย น่าดูว่าบาเดต์จะเหลือแรงไว้เล่นวันอื่นมากน้อยแค่ไหน
8. คาเวนดิช
สเตจเมื่อคืนนี้ความสนใจพุ่งไปที่กลุ่มตัวเต็ง GC และนักปั่นสายคลาสสิคเกือบทั้งหมด แต่จริงๆ แล้วสปรินเตอร์หลายๆ คนก็ทำอันดับได้ไม่เลว เฟอร์นันโด กาวิเรียเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 13, อังเดร ไกรเปิลได้ที่ 8 ส่วนมาร์ค คาเวนดิชในภาพได้อันดับ 52
รูปร่างของสปรินเตอร์ที่อวบใหญ่ช่วยให้พวกเขาปั่นบนเส้นทางถนนหินได้ดีกว่านักไต่เขาตัวเพรียวบางหลายๆ คน
9. ข้างทาง
https://www.instagram.com/p/BlP8C25gPuP/
ในสเตจถนนหินหรือในสนามคลาสสิค นักปั่นหลายๆ คนเลือก “เสี่ยง” ปั่นตรงขอบถนนที่เรียบกว่า แต่ก็เต็มไปด้วยเศษฝุ่นผง ลิ่ม ซากไม้ที่อาจจะทำให้ยางรั่วได้ง่ายๆ จากปกติที่เวลาฝนตกแล้วน้ำจะพัดเศษต่างๆ ลงข้างทาง
10. ทางวิบากที่ความเร็ว 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
สเตจ 9 เมื่อคืนแข่งกันที่ความเร็วเฉลี่ย 44-45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิดีโอจากกล้อง GoPro ที่ติดบนจักรยานของนักแข่งข้างล่างนี้สะท้อนว่าการแข่งบนถนนหินที่ความเร็วสูงบนทางแคบๆ นั้นยากขนาดไหนครับ
คือ…พยายามจะกดปุ่ม Play ในรูปคริสฟรูมหลายรอบมากเลยครับ