จากนักไต่เขาดาวรุ่งที่มีแววจะขึ้นมาเป็นกัปตันทีมคนใหม่ในสนามแกรนด์ทัวร์ให้ทีม Mitchelton-Scott แต่ด้วยอาการเจ็บป่วยติดต่อกันหลายเดือนก็ทำให้เขาเงียบหายไปจากวงการ แต่ในที่สุดเอสเตบาน ชาเวซ นักปั่นชาวโคลอมเบียวัย 29 ปีก็กลับมาโชว์ฟอร์มแกร่งได้อีกครั้ง ด้วยการคว้าแชมป์สเตจ 19 ใน Giro d’Italia เมื่อคืนนี้ ด้วยการโจมตีกลุ่มเบรกอเวย์บนทางขึ้นเขาชันที่ 3 กิโลเมตรสุดท้าย หลุดเดี่ยวเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก
ชัยชนะครั้งสุดท้ายของชาเวซเป็นแชมป์สเตจ 6 ใน Giro d’Italia ปีทีแล้ว แต่ไม่นานหลังจากนั้นทีมของชาเวซก็ตรวจพบว่าเขาติดเชื้อไวรัสเอปสไตน์บาร์ หรือโมโนนิวคลิโอสิส ที่ทำให้นักกีฬาไม่มเรี่ยวแรงในการแข่งและซ้อม
“มันเหลือเชื่อจริงๆ ครับ ผมไม่รู้จะอธิบายยังไง เราเตรียมตัวซ้อมกันหนักมาก ทุกคนที่อยู่รอบข้างผม ทั้งครอบครัว เพื่อน เพื่อนร่วมทีม ไม่มีใครถอดใจ และไว้ใจผมมาตลอดช่วงเวลาที่ผมป่วย มันคือการไม่ยอมแพ้เหมือนที่ผมแข่งวันนี้ ผมโจมตีหลายครั้ง จนคู่แข่งทุกคนหลุดออกไป เราต้องโจมตีจนกว่าอุปสรรคมันจะพ้นเราไปทั้งหมด ไม่หยุดจนกว่าจะถึงเส้นชัย ผมไม่รู้จะพูดอะไรจริงๆ มันเป็นชัยชนะที่งดงาม”
สเตจ 18 เมื่อคืนนี้ถึงเส้นทางจะเป็นภูเขาสูงชัน แต่ก็เป็นกลุ่มเบรกอเวย์ 11 คนที่ทิ้งระยะห่างจากเปโลตองได้อีกครั้ง เมื่อชัดเจนว่าทีม Movistar ที่ถือเสื้อผู้นำเวลารวมยอมปล่อยให้กลุ่มหนีเข้าเส้นชัยได้ก่อน ถึงตีนเขาสุดท้ายชาเวซเล่นเกมรุกหนัก โจมีตัดแรงกลุ่มหลายครั้ง จนถึง 2.7 กิโลเมตรสุดท้ายที่เขาทิ้ง ฟรังซัวส์ บิดาค์ (AG2R) และปีเตอร์ เซอร์รีย์ (Quickstep) ได้ขาด และหลุดยาวจนถึงเส้นชัยคนเดียว
ชาเวซให้สัมภาษณ์ต่อ: “สองสามปีที่ผ่านมานี้มีหลายช่วงในชีวิตที่มันยากสำหรับผมจริงๆ แต่ชัยชนะวันนี้มันเหมือนผมได้ปลดทิ้งทุกอย่างที่แบกไว้ ผมอยากขอบคุณทุกคนที่เชื่อใจผม ว่าผมจะกลับมาได้อีกครั้ง ขอบคุณจริงๆ”
“มันเป็นการพิสูจน์ว่าผมสามารถแข่งในระดับสูงสุดได้อีกครั้ง และผมก็น่าจะรักษาฟอร์มระดับนี้ไปได้อีกหลายฤดูกาล
นอกจากเกมในฝั่งเบรกอเวย์แล้ว ทางฝั่งตัวเต็งแชมป์รายการเราก็ได้เห็นการโจมตีครั้งแรกของพริมอซ โรจ์ลิค (Jumbo-Visma) ที่กิโลเมตรสุดท้าย แต่ก็ถูกวินเชนโซ นิบาลี (Bahrain-Merida) ขึ้นไล่ปิดทันที โรจ์ลิคให้สัมภาษณ์:
“ผมทิ้งห่างใครไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ได้เช็คฟอร์มว่าใครตามไหวบ้างล่ะนะ ก็ไม่เป็นไร สเตจพรุ่งนี้สำคัญกว่า คงเล่นกันหนักกว่านี้ และหลายคนคงทำเวลาทิ้งห่างได้เยอะ”
ส่วนนิบาลีที่ยังมีเวลาตามริชาร์ด คาราพาซ ผู้นำเวลารวมเกือบสองนาทีเต็ม และยังต้องระวังมิเคล แลนด้าที่หวังจะขึ้นมาปัดเขาตกโพเดียมบอกกับสื่อว่า:
“สเตจวันนี้ไม่ได้มีภูเขาที่ยาวมากๆ อย่างทางขึ้นเส้นชัยก็ไม่ใช่ที่ๆ เราจะทิ้งห่างกันได้เยอะ ผมเห็นแลนด้าปั่นดีมากนะ ถ้าพรุ่งนี้เขาโจมตีผมคงต้องออกตาม ผมว่าเขาต้องยิงแน่ๆ แหละ เขายังมีโอกาสลุ้นโพเดียม”
สุดท้ายกลุ่มตัวเต็งรายการก็เข้าเส้นชัยพร้อมกันทั้งหมดและอันดับเวลารวมยังเวลาเท่าเดิม
พรีวิวสเตจ 20: สเตจภูเขาสุดท้ายของการแข่งขัน Giro ปีนี้และอาจจะเป็นสเตจที่ยากที่สุด ด้วยทางขึ้นเขาชัน 5 ลูก พร้อมเส้นชัยบนยอดเขาและระยะไต่เขารวม 5,600 เมตร กับระยะทาง 194 กิโลเมตร เขาลูกแรกเริ่มที่กิโลเมตร 8.5 ก็น่าจะได้เห็นตัวเต็งหลายคนโจมตีระยะไกล ไม่รอจนถึงหน้าเส้นชัยแน่นอน แต่จะเป็นใครที่กล้าหนี ก็ต้องติดตามกันครับ วันนี้ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
ถ่ายทอดสดเริ่ม 18:00-22:30 เช็คลิงก์ถ่ายทอดสดที่ duckingtiger.com/live
ผลการแข่งขัน
วิดีโอไฮไลท์
