ถึงสัปดาห์แรกใน Giro d’Italia ปีนี้จะไม่ได้มีภูเขาสูงชัน แต่ก็ใช่ว่าผู้ท้าชิงแชมป์รายการจะไม่มีความท้าทาย ทอม ดูโมลาน (Sunweb) แชมป์เก่าปี 2017 เป็นตัวเต็งที่อาจจะต้องเสียโอกาสชิงแชมป์รายการเป็นคนแรกเมื่อเขาล้มเจ็บจนเข้าเส้นชัยช้ากว่าคู่แข่งร่วม 4 นาทีเต็ม
ริชาร์ด คาราพาซ (Movistar) ที่รอดจากการล้มช่วง 7 กิโลเมตรสุดท้ายที่บล็อกขวางทางตัวเต็งสเตจและ GC หลายคน ชิงสปรินต์หนีกลุ่มเบรกอเวย์ที่มาด้วยกันเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก รอดพ้นจากการไล่ตามของคาเล็บ ยวน (Lotto-Soudal) และดิเอโก้ อูลิซซี่ (UAE Team Emirates)
วิดีโอไฮไลท์
ด้วยที่เส้นทางเป็นทางขึ้นๆ ลงๆ เนินชันติดต่อกันในช่วง 10 กิโลเมตรสุดท้าย บวกกับถนนที่แคบกว่าสเตจก่อนๆ ทำให้ซัลวาทอร์ พุคชิโอ (Ineos) เสียหลักล้อไปเกี่ยวกับจักรยานคู่แข่ง จนทำให้กลุ่มเปโลตองขาดตอน พ้นจากจุดล้มไปไม่ถึงกิโลเมตร กลุ่มขาดอีกครั้งที่วงเวียน ทำให้ไซมอน เยทส์ (Mitchelton-Scott) และดูโมลานบาดเจ็บหนัก
ผลคือเหลือกลุ่มนักปั่นที่อยู่หน้าสุดของขบวนที่หลุดรอดไปท้าชิงแชมป์สเตจได้แค่ 15 คน และในกลุ่มมีตัวเต็ง GC แค่สองคน เป็นพริมอซ โรจ์ลิค (Jumbo-Visma) ผู้นำเวลารวม และริชาร์ด คาราพาซ (Movistar) ถึงเนินสุดท้ายที่ยาว 2.2 กิโลเมตรไปจนถึงเส้นชัย คาราพาซเร่งหนีคู่แข่งที่ 400 เมตรสุดท้าย และทิ้งห่างกลุ่มจนเข้าเส้นชัยได้เป็นคนแรก
คาเล็บ ยวนพยายามเร่งตาม แต่แรงตกก่อนที่จะจับทัน ดิเอโก้ อูลิซซี่ (UAE) อดีตแชมป์สเตจตามเข้ามาเป็นอันดับสาม
อันดับ GC เปลี่ยนแปลง
โรจ์ลิคเข้าเส้นชัยเป็นอันดับหก เสียเวลาให้คาราพาซ 2 วินาที (และ time bonus อีก 10 วินาที) แต่ยังรักษาเสื้อผู้นำเวลารวม
การที่กลุ่มขาดทำให้โรจ์ลิคเข้าเส้นชัยก่อนตัวเต็ง GC คนอื่นๆ ในตารางเวลารวมถึง 16 วินาที กลุ่มที่ตามเข้ามาทีหลัง มีไซมอน เยทส์ (Mitchelton-Scott), ราฟาล ไมย์ก้า (Bora-Hansgrohe), มิกูเอล โลเปซ (Astana), วินเชนโซ นิบาลี (Bahrain-Merida), อิลเนอร์ ซาคาริน (Katusha-Alpecin), เทโอ โกเกน ฮาร์ท (Ineos) และบอเก้ โมเล็มมา (Trek-Segafredo)
RAI's zoom of the crash, Puccio checks back just as a wave makes Hamilton drift left. Lopez on left behind, Nibali behind to the right, manage to avoid falling pic.twitter.com/4MVJ7kISUw
— the Inner Ring (@inrng) May 14, 2019
พาเวล ซิวาคอฟ (Ineos) เข้าช้ากว่ากลุ่มข้างต้น +7 วินาที ในขณะที่เพื่อนร่วมทีมแชมป์สเตจ มิเคล แลนด้า เสียไปถึง 36 วินาที
แน่นอนว่าคนที่เสียเวลาเยอะที่สุดคือทอม ดูโมลาน ที่เข้าเส้นชัยหลังผู้ชนะ +4:04 นาที ทำให้อันดับเวลารวมเขาตกไปอยู่ที่ 56 ที่ +4:30 นาที จากที่ต้นขาดูโมลานล้มไปโดนใบจานจนเป็นแผลบาดลึก เจ้าตัวบอกว่าไม่มีแรงจะกดบันได ทำให้ปั่นตามคู่แข่งไม่ได้ และมีอาการช้ำบวม
อันดับเวลารวมใหม่ของตัวเต็งรายการ:
พริมอซ โรจ์ลิค
ไซมอน เยทส์ 0:35
วินเชนโซ นิบาลี 0:39
มิกูเอล โลเปซ 0:44
ราฟาล ไมย์ก้า 0:49
บอเก้ โมเล็มม่า 0:55
บ็อบ ยุงเกลส์ 1:02
ริชาร์ด คาราพาซ 1:21
พาเวล ซิวาคอฟ 1:24
อิลเนอร์ ซาคาริน 1:36
มิเคล แลนด้า 1:49
เทโอ โกเกน ฮาร์ท 2:19
ทอม ดูโมลาน 4:30
ผลการแข่งขัน
พรีวิวสเตจ 5
หลังจากที่นักปั่นต้องเจอสเตจยาวเกิน 200 กิโลเมตรมาสองวันติดๆ กัน ก็กลับมาเจอสเตจที่สั้นและง่ายขึ้นเล็กน้อย ในสเตจ 5 ที่ยาวแค่ 140 กิโลเมตรและช่วงสุดท้ายเป็นทางตรงราบยาว ไม่น่าจะมีปัญหาดราม่าเหมือนสเตจ 4 เมื่อคืนนี้
เช่นนั้นแล้วเกมคงจบที่การสปรินต์กลุ่มอย่างไม่ต้องสงสัย
จากที่เราดูฟอร์มสปรินเตอร์กันมาทั้งในสเตจ 2,3 และ 4 ก็พอจะเห็นว่าใครฟอร์มดีครับ ตอนนี้คนที่ฟอร์มแรงสุดเป็น ปาสคาล แอคเคอร์แมน (Bora-Hansgrohe) และเอเลีย วิวิอานี (Quickstep) ตามมาติดๆ คือเฟอร์นันโด กาวิเรีย (UAE) และคาเล็บ ยวน (Lotto-Soudal)
แต่ดูแล้วจากทางเข้าเส้นชัยที่ค่อนข้างกว้างและตรงยาวแบบนี้น่าจะเหมาะกับพาวเวอร์สปรินเตอร์อย่างแอคเคอร์แมน ความไม่ซับซ้อนช่วง 5 กิโลเมตรสุดท้ายน่าจะช่วยให้ขบวนลีดเอาท์ทีมต่างๆ ทำงานกันได้เต็มที่กว่าสเตจก่อนๆ ด้วย
ถ่ายทอดสดเริ่ม 18:00-22:30 ที่ duckingtiger.com/live