เป็นเรื่องดราม่ากันพอสมควรเมื่อคืนนี้ในการแข่งขันชิงแชมป์โลกเสือหมอบชายในรุ่น U23 ที่ยอร์คเชียร์ในสหราชอาณาจักร เมื่อซามูเอล แบททิสเตล่าจากอิตาลี ถูกประกาศให้ได้ขึ้นเป็นแชมป์โลก ถึงแม้ว่าเขาจะสปรินต์เข้าเส้นชัยเป็นอันดับสอง เพราะแชมป์ที่หน้าเส้นชัย นิลส์ อีคฮอฟจากทีมชาติเนเธอร์แลนด์ถูกปรับแพ้ฟาวล์ หลังเข้าเส้นชัยไปร่วมหนึ่งชั่วโมงเต็ม
อันดับแรกลองดูวิดีโอจังหวะสปรินต์กันก่อน
อีคฮอฟ สปรินต์เอาชนะกลุ่มเบรกอเวย์ 7 คนที่หลุดมาด้วยกัน แซงหน้าแบททิสเตล่า (อิตาลี) และสเตฟาน บิเซเกอร์ (สวิสเซอร์แลนด์) แต่ภายหลังการแข่งขันคณะกรรมการ UCI แจ้งว่าแบททิสเตล่าทำผิดกฏการแข่งขัน ตามดราฟต์รถทีมหลังจากหลุดกลุ่มไปจนกลับมาเข้ากลุ่มทัน
แบททิสเตล่า ให้สัมภาษณ์หลังแข่ง “ผมอาจจะไม่มีรูปที่กำลังชูมือแสดงชัยชนะ ผมเสียใจแทนอีคฮอฟ ผมพอใจกับอันดับสองนะ แต่ตอนนี้ที่ได้เป็นแชมป์โลก…มันยากจะเชื่อครับ”
ผลการตัดสิทธิ์อีคฮอฟ ทำให้นักปั่นชาวอังกฤษ ทอม พิ๊ดค็อก ตัวเต็งรายการที่คว้าอันดับสี่ ได้เลื่อนขึ้นมาคว้าเหรียญทองแดงเป็นอันดับสามแทน
ก่อนที่จะมาถึงจังหวะสปรินต์หน้าเส้นชัย เกม U23 ชาย ก็เป็นอีกวันที่การแข่งขันยากและท้าทายผู้เข้าแข่งขัน เพราะมีฝนตกหนักตลอดการแข่งขันและกระแสลมแรงจนกลุ่มแตกออกจากกันหลายครั้ง เกมเริ่มหนักที่ 50 กิโลเมตรสุดท้ายเมื่อนักปั่นจากเยอรมนีและนอร์เวย์โจมตีกลุ่มบนเนินสำคัญจนกลุ่มเปโลตองขาด กลุ่มหน้าเหลือแค่ 25 คน ที่มีตัวเต็งอย่างพิ๊ดค็อก และแชมป์ Time Trial U23 มิคเคล เบริ์ก จากเดนมาร์ก
จุดคัดตัวครั้งที่สองคือที่ 16 กิโลเมตรสุดท้าย ที่อิดาร์ แอนเดอร์เซ็นและโทบิอัส ฟอสส์ (นอร์เวย์) กระชากกลุ่ม ดึงเอาพิ๊ดค๊อก (สหราชอาณาจักร), บิเซเกอร์ (สวิส), ซาจ์โนก (โปแลนด์) และแบททิสเตล่า (อิตาลี) ไปด้วย สุดท้ายกลุ่มนี้ยางรั่วไปหนึ่งคน เหลือตัวเต็งห้าคน ซึ่งดูจะยิงขาดเปโลตองไปถึงเส้นชัย
แต่ด้านหลัง เซอร์จิโอ้ ฮิกิต้าจากโคลอมเบีย แชมป์สเตจ Vuelta ปีนี้ไม่ยอมดแพ้ง่ายๆ เขาเบรกอเวย์ออกจากเปโลตองมากับ อีคฮอฟ (เนเธอร์แลนด์) และแอนเดรียส์ ครอน (เดนมาร์ก) มากันสามคน จนไปไล่ทันกลุ่มหน้าในช่วงกิโลเมตรสุดท้ายพอดี จนได้ท้าชิงสปรินต์กันที่หน้าเส้นชัน
ฮิกิต้าเปิดสปรินต์เป็นคนแรก แต่อีคฮอฟจังหวะดีที่สุด เข้าเส้นชัยเป็นคนแรก แบททิสเตล่าได้ที่สอง และบิเซเกอร์อันดับสาม
ผลการแข่งขัน
อีคฮอฟจะยื่นประท้วงผลการแข่งขัน
อีคฮอฟที่ถูกกรรมการปรับแพ้เป็นเด็กในสังกัดทีม Sunweb และบริษัท SEG ที่เป็นเอเจนซี่นักกีฬารายใหญ่ของโลก ทาง SEG กล่าวว่า “เราจะร่วมมือกับทีม Sunweb ตรวจสอบผลการตัดสินและพิจารณาช่องทางทางกกฏมายเพื่อรักษาสิทธิของนิลส์ อีคฮอฟ แชมป์โลก U23”
อย่างไรก็ดี การประท้วงผลการตัดสินของกรรมการก็ไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างที่เราได้เห็นในกรณีที่ปีเตอร์ ซากาน (Bora-Hansgrohe) ประท้วงผลตัดสินของ UCI ที่ไล่เขาออกจากการแข่งขัน Tour de France ในปี 2017 แต่ก็ไม่สำเร็จ เช่นเดียวกับที่โทนี มาร์ติน (Jumbo-Visma) และลุค โรว์ (Ineos) ก็โดนไล่ออกจากการแข่งขันในตูร์ปีนี้เพราะปั่นอันตรายในลักษณะที่จะทำให้นักปั่นคนอื่นบาดเจ็บไปด้วย
สำหรับเคสของอีคฮอฟ คำตัดสินของ UCI มาจากภาพวิดีโอ (ที่ UCI ไม่ส่งต่อให้สื่อดู) ที่เห็นอีคฮอฟเกาะรถทีมนานเกิน 30 วินาที จากที่อีคฮอฟล้มในช่วงต้นการแข่งขัน บาดเจ็บไหล่หลุด จักรยานพัง จนหลุดกลุ่ม
Full video of the #eekhoffgate episode
UCI had a 124 kilometers to take action.@nilseekhoff is the 🌈🥇U23 World Champion to me pic.twitter.com/NihEw5cqm4— Alex Rasmussen (@alexfalkeman) September 27, 2019
อีคฮอฟกล่าวว่า “ตอนที่ผมล้ม ยังเหลือระยะทางอีกกว่า 125 กิโลเมตร การแข่งขันยังเหลืออีกเยอะมาก ในความเห็นของผม ผมลงแรงสู้เพื่อชัยชนะครั้งนี้ ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติที่สามารถตามรถเซอร์วิสหลังล้มเพื่อกลับเข้ากลุ่มได้ ผมไม่คิดว่ามันจะทำให้ผมถูกปรับแพ้เลย”
มีหลายคนไม่เห็นด้วยกับการตัดสินของ UCI เพราะเป็นคำตัดสินที่เกิดขึ้นหลังจากแข่งจบไปหนึ่งชั่วโมงเต็ม แต่ UCI แก้ต่างว่าเพราะหลังแข่งทันทีนั้นทีมกรรมการยังไม่ได้เห็นภาพวิดีโอที่นักแข่งเกาะรถ
วิดีโอย้อนหลัง (เต็มการแข่งขัน)