เกิดอะไรขึ้นในสเตจ 11
หลังจากที่ติดอันโพเดียมมาถึงสี่ครั้ง ในทีสุด คาเล็บ ยวน (Lotto-Soudal) ก็คว้าชัยชนะได้สำเร็จเป็นครั้งแรกใน Tour de France ปีนี้ สปรินต์เอาชนะดีแลน โกรนเวเก็น (Jumbo-Visma) ไปด้วยระยะแค่ไม่ถึงหนึ่งนิ้ว ทั้งคู่แซงเอเลีย วิวิอานี (Deceuninck-Quickstep) ที่ได้อันดับสาม และปีเตอร์ ซากาน (Bora-Hansgrohe) ถึงจะไม่ชนะสเตจแต่ก็ยังไล่เก็บคะแนนอย่างต่อเนื่อง ได้อันดับสี่
ชัยชนะของเขาทำให้ยวนเป็นนักปั่นชาวเอเชียตะวันออกคนแรกที่ได้แชมป์สเตจใน Tour de France ลูกครึ่งเกาหลี-ออสเตรเลียวัย 24 ปีให้สัมภาษณ์หลังแข่ง:
“ชนะกันด้วยระยะแค่นี้มันยากจะเชื่อครับ ทุกครั้งที่ผมสปรินต์ในปีนี้ผมเฉียดชัยชนะมาตลอด แต่ทีมผมก็ยังเชื่อมั่นว่าผมจะทำสำเร็จมาตลอด ผมรู้ว่าถ้าทุกอย่างมันลงตัว ผมก็น่าจะสปรินต์ได้เร็วไม่แพ้ใครในรายการนี้ แล้วผลงานวันนี้มันก็แสดงให้เห็น”
ถึงจะเทิร์นโปรมาหลายปีแล้ว แต่คาเล็บ ยวนเพิ่งได้ลงแข่ง Tour de France เป็นครั้งแรก ปีที่แล้วทีม Mitchelton-Scott ไม่เลือกเขาลงแข่งตูร์เพราะอยากทุ่มพลังของทีมให้กับอดัม เยทส์ในการชิงแชมป์รายการ มากกว่าแบ่งผู้ช่วยมานำขบวนให้ยวนในสเตจทางราบ และเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เขาออกจากทีม Mitchelton-Scott มาอยู่กับ Lotto-Soudal แทน
ปีนี้เขาลงแข่ง Giro d’Italia และคว้าชัยชนะไปสองสเตจ แต่ความคาดหวังของทีม Lotto-Soudal อยู่ที่ผลงานใน Tour de France เสมอ เพราะที่ผ่านมา เอซสปรินเตอร์หลักของทีม อังเดร ไกรเปิล (ซึ่งย้ายไปอยู่ Arkea-Samsic) มีผลงานชัยชนะใน Tour de France ให้ทีมทุกปีที่เขาลงแข่ง รวมแล้วเก็บแชมป์สเตจในตูร์ให้ทีมได้ถึง 11 สเตจ ซึ่งยวนต้องขึ้นมารับหน้าที่นี้ต่อ
สำหรับเสื้อเหลืองผู้นำเวลารวมก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลง จูเลียน อลาฟิลลิปยังคงนำรายการ เกอเรนท์ โทมัส และอีแกน เบอร์นาลรั้งอันดับสองและสาม ก่อนนักปั่นจะเจอสเตจภูเขาสูงชันเป็นครั้งแรกในสเตจ 12 วันนี้
วิดีโอไฮไลท์
ผลการแข่งขัน
DT Race Note
1.) ชัยชนะที่รอนานกว่า 7 ปี
ว่ากันตามตรงแล้ว ชื่อคาเล็บ ยวนเป็นสปรินเตอร์ที่เราได้ยินมานานมากแล้ว แต่ด้วยหลายๆ ปัจจัย เขาไม่ค่อยมีโอกาสที่จะได้ทำผลงานใหญ่ๆ สักที แต่อีกมุมหนึ่งก็อาจจะเพราะยวนเป็นนักปั่นที่ขึ้นมาสู่ระดับโลกตั้งแต่อายุยังน้อย เขาทำผลงานใหญ่ครั้งแรกตั้งแต่ปี 2012 ที่ได้เหรียญเงินในสนามชิงแชมป์โลกเสือหมอบระดับเยาวชน แล้วก็เทิร์นโปรจริงๆ ในปี 2014
เขาถูกทาบทามโดยทีม Mitchelton-Scott ที่เป็นทีมจากออสเตรเลีย ด้วยความที่เขาเองก็เป็นคนออสเตรเลียทำให้การตัดสินใจเข้าทีมไม่ใช่เรื่องยาก ทว่า เป้าหมายของทีม MTS จากเดิมที่เป็นทีมของสปรินเตอร์และนักปั่นคลาสสิค เริ่มเปลี่ยนไปเป็นทีมที่อยากจะได้แชมป์รายการแกรนด์ทัวร์ เลือกไปโฟกัสที่พี่้น้องเยทส์ และนักไต่เขาตัวจี๊ดอย่างเอสเตบาน ชาเวซ ทำให้ยวนไม่มีที่ยืนในทีม และทีมก็ไม่เลือกเขาลง Tour de France เลยสักครั้งเดียว แม้แต่ใน Giro d’Italia และ Vuelta a Espana ยวนเองก็ไม่ค่อยได้มีโอกาสลง
ระหว่างที่อยู่กับทีม MTS 5 ปี เขาได้แข่งแกรนด์ทัวร์ แค่ 3 ครั้ง (จากทั้งหมดที่ลงได้ 15 ครั้ง!!) เขาชนะสเตจใน Giro 3 ครั้งและใน Vuelta 1 ครั้ง
เมื่อมีของแต่ไม่มีที่ปล่อย และเมื่อทีม MTS เริ่มหาโดเมสติกเป็นนักไต่เขามากกว่าสปรินต์ลีดเอาท์ ความขัดแย้งก็มาถึงจุดสูงสุดเมื่อปีที่แล้ว ก็นำไปสู่การเจรจาย้ายทีมกับ Lotto-Soudal ที่ทางฝั่งทีมเบลเยียมเองก็หาทางปลดระวางอังเดร ไกรเปิลอยู่ด้วยพอดี
“ก่อนที่ Lotto-Soudal จะจ้างผม ทีมเชื่อมั่นว่าผมจะสามารถสปรินต์ชนะในระดับสูงสุดได้ ซึ่งผลงานวันนี้ก็คือระดับสูงสุดที่สปรินเตอร์จะทำได้ครับ ต้องยอมรับว่าก่อนหน้านี้มันก็มีแรงกดดันไม่น้อย โดยเฉพาะปีนี้ที่จะเป็น Tour de France ครั้งแรกในชีวิตผม และจะต้องนำทีมด้วย ผมรู้สึกขอบคุณทีมมากที่เชื่อมั่นในตัวผมตลอดการแข่งขัน ถึงสเตจแรกๆ ที่เราเฉียดชัยชนะไปหลายครั้ง”
“Tour de France เป็นรายการเดียวในชีวิตที่ผมฝันว่าจะต้องชนะให้ได้ตั้งแต่เด็ก มันยากที่จะเชื่อครับ ฝรั่งเศสมันอยู่ห่างไกลจากออสเตรเลีย บ้านเกิดของผม มันเป็นอะไรที่ผมเห็นได้แค่ในโทรทัศน์ ผมยังไม่เชื่อด้วยซ้ำว่าผมจะได้มาลงแข่งแบบนี้ ชนะอย่างนี้ ได้ยืนอยู่บนโพเดียม มันยิ่งกว่าฝันที่เป็นจริง”
2.) แมธธิวส์ประกาศไม่ท้าชิงเสื้อเขียวแล้ว
เมื่อวาน DT เพิ่งเขียนเรื่องปีเตอร์ ซากานกับความพยายามในการคว้าแชมป์คะแนรวมตลอด 6 ปีที่ผ่านมาของเขา ถ้าปีนี้ซากานชนะ เขาจะเป็นนักปั่นคนแรกในโลกที่ชนะเสื้อ Point Classification 7 สมัย ทำลายสถิติของสปรินเตอร์ เยอรมันเอริค ซาเบล ที่ทำไว้ได้ 6 สมัยเท่ากับซากานตอนนี้
แต่ดูเหมือนงานของซากานจะง่ายขึ้นแล้ว เพราะคู่แข่งคนสำคัญที่สุด ไมเคิล แมธธิวส์ และทีม Sunweb ประกาศว่าจะไม่ชิงเสื้อเขียวแล้ว เพราะในสเตจทางราบสนิททีมจะให้แมธธิวส์เป็นคนช่วยลีดเอาท์ให้เซส โบล สปรินเตอร์ดาวรุ่งชาวดัทช์วัย 23 ปีของทีมแทน (แมธธิวส์ถนัดสปรินต์ขึ้นเนินมากกว่าทางราบ และเซส โบลเร็วกว่าแมธธิวส์ในสเตจทางราบสนิท”
ก่อนเริ่มสเตจ 11 แมธธิวส์มีคะแนนตามซากาน 62 คะแนน และเขาเคยชนะเสื้อเขียวในปี 2017 ที่ซากานโดนปรับฟาวล์ออกจากการแข่งขันไป
“ทีมเสนอไอเดียนี้ในวันพักนี่แหละครับ แล้วผมก็ชอบนะ มันช่วยลดความเครียดให้ผมด้วยระหว่างแข่ง ได้ลองอะไรใหม่ๆ ได้ช่วยให้รุ่นน้องมีโอกาสชนะ แล้วถ้าอันดับคะแนนผมมันห่างจากซากานเยอะมากๆ ผมเองก็มีโอกาสเข้าเบรกอเวย์ด้วย เพราะทีมซากานก็จะไม่ไล่ผมแล้ว”
“เราคิดว่าสเตจสั้นๆ ที่สปรินต์กันเร็วๆ แบบนี้น่าจะเหมาะกับโบลมากกว่า ผมเองก็อยากลองทำหน้าที่ลีดเอาท์ด้วยนะ มันช่วยสร้างกำลังใจให้ทีมด้วย เวลาที่หัวหน้าทีมเปลี่ยนบทไปเป็นผู้ช่วยแทน”
สเตจ 11 เมื่อวานนี้ แมธธิวส์เลือกไม่ท้าชิงสปรินต์ และลีดเอาท์ให้โบลแทน ถึงผลงานจะไม่ดีนัก แต่โบลก็คว้าอันดับแปดของสเตจ แมธธิวส์ตกไปอยู่อันดับสี่ในตารางคะแนนรวม ตามหลังซากาน 90 คะแนน
“คือคะแนนผมอยู่ใกล้ซากานเกินไปที่ทีมเขาจะปล่อยผมเข้ากลุ่มหนี เพราะงั้นถ้าเราจะเอาเสื้อเขียวเราต้องเลือกระหว่างเก็บแต้ม แต่เสียโอกาสคว้าแชมปฺ์สเตจ หรือจะเอาแชมป์สเตจจากการเบรกอเวย์ แล้วยอมทิ้งเสื้อเขียว, เราเลือกอย่างหลัง”
คู่แข่งที่คะแนนรวมใกล้เคียงซากานที่สุดตอนนี้คือ เอเลีย วิวิอานี อยู่อันดับสอง ตามหลังซากาน 73 คะแนน
3) พรีวิวสเตจ 12: ขึ้นเขาพีรานีสครั้งแรก
ถ่ายทอดสด 17:30-22:00
ชมถ่ายทอดสดได้ที่ duckingtiger.com/live
สเตจ 12 เป็นสเตจภูเขาสูงชันในเทือกเขาพีรานีสครั้งแรก นักปั่นจะต้องอยู่ในโซนนี้กันอีกหลายวัน แต่เมื่อสเตจ 13 พรุ่งนี้เป็นการแข่งไทม์ไทรอัล เกมที่อาจจะเกิดขึ้นคือกลุ่มตัวเต็งไม่พยายามโจมตีกัน ออมแรงไว้แข่งสเตจ TT เพราะเป็นจุดอ่อนของตัวเต็งหลายๆ คนมากกว่าในสเตจภูเขา และอาจจะเสียเวลาให้กันได้อีกเยอะ บวกกับเส้นทางวันนี้ที่ช่วงสุดท้ายเป็นทางลงเขายาวเกือบยี่สิบกิโลเมตร ก็จะทิ้งห่างกันยากพอสมควร ซึ่งดูแล้วอาจจะทำเป็นเกมเบรกอเวย์แทน
นั่นหมายความว่าเราน่าจะได้เห็นเบรกอเวย์กลุ่มใหญ่ที่มีนักปั่นเก่งๆ เยอะแต่อันดับเวลารวมไม่เป็นอันตรายต่อตัวเต็งรายการ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็จับตามองพวกตัวเบรกอเวย์ที่ฟอร์มดีๆ ในปีนี้อย่าง Lotto-Soudal ที่เคยส่งโทมัส เดอ เกนท์, ทิม เวลเลนส์ และทีช เบนูท
วินเชนโซ นิบาลี (Bahrain-Merida) ก็เป็นอีกคนที่น่าสนใจ และทางลงเขาแบบนี้เข้าทางเขาพอดี คำถามคือฝั่ง GC จะกล้าปล่อยนิบาลีมั้ย ถึงเจ้าตัวจะบอกว่าไม่ลุ้นแชมป์รายการแล้ว แต่อันดับเวลารวมเขาก็อยู่ที่ 16:40 นาทีตามหลังอลาฟิลลิป ยังไม่ได้หลุดไปเป็นชั่วโมง ถ้าเขาไม่ออก อาจจะได้เห็นเพื่อนร่วมทีม มาเทจ์ โมโฮริค
Astana เองมีตัวน่าเบรกหลายคน โอมาร์ ไฟร์เล และหลุยส์ ลีออน ซานเชซ เคยได้แชมป์สเตจในแกรนด์ทัวร์จากการเบรกอเวย์มาแล้วทั้งคู่
สำหรับจูเลียน อลาฟิลลิป วันนี้เขาไม่น่าจะเสียเสื้อเหลือง ถ้าเบรกอเวย์โดนจับตอนจบก่อนขึ้นเขาลูกสุดท้าย อลาฟิลลิปสามารถสปรินต์ชนะกลุ่ม GC คนอื่นๆ ได้ เก็บ time bonus เพิ่มอีกเล็กน้อยด้วย คำถามคือทีม Quickstep จะดึงให้กลุ่มหนีห่างกี่นาที
* * *