มีอะไรใหม่ใน Trek Madone 9 SLR 2019?

สัปดาห์นี้เราได้เห็นจักรยานแข่งขันรุ่นท็อปเปิดตัวกันมากมายโดยเฉพาะเสือหมอบสไตล์แอโรไดนามิก ทางค่าย Trek จากสหรัฐอเมริกาก็ไม่น้อยหน้าครับ เปิดตัว Trek Madone 9 ที่ปรับปรุงใหม่หลายจุด รวมเอาเทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์ของ Trek เข้าไว้ด้วยกันในแพคเกจเดียว ไม่ว่าจะเป็นระบบ ISOSpeed ซับแรงสะเทือนที่ตอนนี้ปรับระดับได้, ระบบดิสก์เบรก, ค็อกพิทที่ปรับระยะได้ และฟิตใหม่ที่น่าจะถูกใจหลายๆ คน

ลองมาดูกันว่ามีอะไรใหม่ใน Trek Madone 9 2019 ครับ

Trek-MadoneSLR9Disc_19_24247_A_Alt3

ในรุ่นสูงสุด Trek Madone 9 SLR จะใช้คาร์บอนรุ่นสูงสุดของ Trek OCLV700 ขึ้นรูปเป็นท่อทรงแอโรไดนามิกแบบ Kamn Tail Virtual Foil ท่อทรงแอโรในบริเวณท่อนั่ง ท่อล่าง ตะเกียบ เชนสเตย์และซีทสเตย์เพื่อให้อากาศไหลผ่านโดยสร้างแรงฉุดน้อยที่สุด ตัวถังยังคงดีไซน์เดิมจาก Trek Madone 9 รุ่นก่อน แต่มีการปรับปรุงภายในหลายส่วน

2019-trek-madone-disc-aero-road-race-bike-tech-details-4

น้ำหนัก

สำหรับ Madone 2019, Trek มีโจทย์ว่าถึงจะมีฟีเจอร์ใหม่เข้ามาแต่น้ำหนักต้องเท่ากับหรือเบากว่ารุ่นก่อนที่เปิดตัวในปี 2014 น้ำหนัก completed bike ที่มากับกรุ๊ปเซ็ต Shimano Dura-Ace Di2 , ล้อ Bontrager XXX ขอบสูงและดิสก์เบรกไฮดรอลิคอยู่ที่ 7.5 กิโลกรัมในไซส์ 56cm และ 7.1 กิโลกรัมสำหรับเวอร์ชันริมเบรก

2019-trek-madone-disc-aero-road-race-bike-tech-details-11

Trek Madone 2019 น้ำหนักเพิ่มจากเดิมเล็กน้อย เวอร์ชันเก่าเฟรมไซส์ 56 หนัก 1,035 กรัม ในขณะที่เวอร์ชันใหม่รุ่นริมเบรกเฟรมจะหนัก 1,112 กรัม และเวอร์ชันดิสก์เบรก 1,131 กรัม แต่ Trek เคลมว่าพอประกอบออกมาเป็นรถ completed bike ด้วยอะไหล่ชุดใหม่ล่าสุดแล้วจะได้น้ำหนักเท่ากับรุ่นก่อน

Trek-MadoneSLR9Disc_19_24247_A_Alt5

New IsoSpeed

ระบบ IsoSpeed ใหม่ปรับจากที่เก็บไว้ในท่อนั่งมาเป็นระบบแบบปรับระยะได้ติดตั้งไว้ในท่อนอน โดยจุดหมุนจะอยู่ตรงซีทแมส (หลักอาน) พอดี แกน IsoSpeed แยกตัวจากท่อนอนทำใหเคลื่อนไหวได้อิสระ เมื่อมีแรงกระทำจากด้านบน (เช่นเวลาปั่นบนทางสะเทือน) จุดหมุนยางอีลาสโตเมอร์จะดันแกน IsoSpeed ไปในแนวราบของท่อนอน ซึ่งผู้ใช้สามารถปรับระยะการให้ตัวได้ตามต้องการ

ถ้าไม่อยากให้มันให้ตัวได้เยอะก็สไลด์มาด้านหลัง ถ้าอยากให้ขยับได้มากก็เลื่อนไปด้านหน้า และยังปรับแต่งสไตล์การรีเบาด์

Trek-MadoneSLR9Disc_19_24247_A_Accessory1

ที่หลังหลักอานมีจุดปรับระยะความสูงและมีช่องให้ติดตั้งไฟท้ายของ Bontrager ตัวปรับระยะเบาะใช้น็อตตัวเดียว คลายน็อตแล้วผู้ใช้ก็สามารถเรื่อนรางเบาะได้อย่างง่ายๆ .

แอโรไดนามิก

ด้วยฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามา Trek พยายามปรับเฟรมให้ยังคงความลู่ลมเท่ากับหรือมากกว่าเดิม Trek กล่าวว่าได้ทดสอบเฟรมที่มุมลมกระทบระยะ (yaw) +/- 12.5 องศา ซึ่งเป็นมุมที่นักปั่นเจอมากที่สุดระหว่างปั่น ผลของการออกแบบเฟรมใหม่คือค่า drag ต่ำกว่าเดิม 14 กรัม ที่ความเร็วลม 48.28kph

Trek-MadoneSLR9Disc_19_24247_A_Alt1

ถึงจะมีเวอร์ชันดิสก์เบรกให้เลือก แต่ Trek ยังคงคอนเซปต์จักรยาน “ไร้สาย” ไว้ได้เหมือนเดิม ช่วงหน้ารถซ่อนสายเคเบิ้ลทุกอย่างทั้งเบรคและเกียร์ สายไฮดรอลิคซ่อนไว้ในซางตะเกียบ เดินร้อยลงมาในขาตะเกียบมาโผล่ใกล้ๆ ดุมล้อหน้า ส่วนแหวนรองคอเป็นแบบ split design ไม่ต้องขันถอดสเต็มแฮนด์ออกถ้าต้องการถอดแหวนรอง

Trek-MadoneSLR8_19_24122_A_Alt4

สิ่งที่เปลี่ยนอีกอย่างคือเบรกหน้าที่ย้ายจากตำแหน่งหน้ารถมาไว้หลังตะเกียบ และจะไม่มี flap ที่จะเปิดออกเวลาหันเลี้ยวรถแล้ว ส่วนเบรกหลังยังคงดีไซน์เดิม

 

H1.5 Fit

Trek-MadoneSLR9Disc_19_24247_A_Alt2

Madone 9 ใหม่ยกเลิกฟิต H2 เปลี่ยนมาเป็นฟิต H1.5 ซึ่งช่วยให้ Trek ออกแบบเฟรมได้ง่ายกว่าเดิมและไม่ต้องแยกโมลด์เป็นสองฟิต คอ H1.5 จะสูงกว่า H1 1.5cm และเตี้ยกว่า H2 1cm ถ้าอยากฟิตรถเหมือนโปรก้ใช้สเต็ม -12 องศา ซึ่งจะทำให้ได้ฟิตเหมือน H1 แต่ถ้าอยากปั่นสบายก็ใช้สเต็ม -7 องศาแทน

แฮนด์แอโรใหม่ปรับดีไซน์ให้โค้งมาข้างหลังเพื่อให้จับสบายมากขึ้น

Trek-MadoneSLR9Disc_19_24247_A_Accessory2

และถ้ายังกลัวว่าปรับระยะฟิตได้ไม่พอดี แฮนด์สเต็มใหม่ของ Trek มีจุดหมุนที่ทำให้คุณปรับองศาแฮนด์ได้ตามต้องการ (แต่ยังเป็น cockpit ชิ้นเดียว เวลาซื้อ ยังต้องเลือกระยะความกว้างแฮนด์และความยาวสเต็มอยู่)

Trek-MadoneSLR9Disc_19_24247_A_Alt7

เช็คขอมูลเพิ่มเติมได้ที่ Trekbikes.com

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *