ทีม Astana เปิดฉาก Vuelta a Espana ปีนี้ด้วยฟอร์มการแข่ง Team Time Trial แบบไร้ที่ติ คว้าแชมป์สเตจ 1 เคลียร์เส้นทาง 13.4 กิโลเมตรด้วยเวลาเพียง 14:51 นาที ด้วยความเร็วเฉลี่ย 54 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เก็บเสื้อผู้นำการแข่งขันให้กับมิกูเอล โลเปซกัปตันทีม ในขณะที่ทีมตัวเต็งเบอร์หนึ่ง Jumbo-Visma ล้มเจ็บครึ่งทีม พริมอซ โรจ์ลิค หัวหน้าทีมเสียเวลาให้คู่แข่งร่วม 50 วินาที
Decenunick-Quickstep ถึงจะไม่ได้มีตัวเต็งที่จะคว้าแชมป์รายการ แต่ก็ยังทำเวลาดีเสมอต้นเสมอปลาย คว้าอันดับสองของสเตจ ช้ากว่าทีม Astana แค่ 2 วินาทีเท่านั้น เสียเวลาให้ Astana เพราะมีรถเซอร์วิสทีม Jumbo-Visma จอดขวางอยู่ในสนาม จนทำให้ทีมเสียขบวนและจังหวะ นักปั่นหลุดขบวนไปสองคน
Sunweb คว้าอันดับสาม ช้ากว่า Astana เพียง 5 วินาที และช่วยให้วิลโค เคลเดอร์แมน กัปตันทีมได้เปรียบตัวเต็ง GC คนอื่นๆ อยู่พอสมควร
สำหรับทีม Jumbo-Visma ที่เป็นตัวเต็งยืนหนึ่งในสเตจ Team Time Trial ในทุกรายการของปีนี้ สเตจแรกจบไม่สวยเมื่อทีมล้มคว่ำที่โค้งหนึ่ง นักปั่นบาดเจ็บหลายคนรวมถึงพริมอซ โรจ์ลิค ตัวเต็งของทีมด้วย เสียเวลาให้กับโลเปซถึง 50 วินาที
ผลการแข่ง TTT วันนี้ดูจะต่างไปจากแกรนด์ทัวร์อื่นๆ ที่ทีมตัวเต็งอย่าง INEOS และ Mitchelton-Scott ก็ทำเวลาได้ไม่ดีสักเท่าไร Ineos จบสเตจด้วยอันดับ 11 เสียเวลาให้ Astana 11 วินาที ส่วน Mitchelton-Scott จบที่อันดับ 9 ที่ +18 วินาที Movistar คว้าอันดับ 7 ที่ +16 นาที
อีกหนึ่งทีมที่จบไม่สวยคือ UAE Team Emirates ของฟาบิโอ้ อารู ที่ลื่นล้มบนถนนที่มีน้ำขัง ทีมจบสเตจที่อันดับ 21 ช้ากว่าแชมป์สเตจ +1:07 นาที
สำหรับโลเปซ ชัยชนะครั้งนี้ทำให้เขาได้สวมเสื้อผู้นำในแกรนด์ทัวร์เป็นครั้งแรกในชีวิต เขาให้สัมภาษณ์:
“ผมดีใจกับผลงานวันนี้ครับ ในที่สุดก็ได้ครองเสื้อผู้นำสักที”
“ตอนนี้เรามีเวลานำอยู่นิดหน่อย แต่ก็อย่างที่คุณเห็นกับทีมอื่นๆ ในวันนี้คุณอาจจะล้มเสียเวลาตอนไหนก็ได้ โชคดีที่วันนี้ไม่ใช่เรา ความเสี่ยงบนถนนมันมีอยู่ตลอดเวลาครับ”
“ตอนนี้เรานำรายการอยู่ แต่ถ้าผมจะชนะก็ต้องถือเสื้อตัวนี้ไว้ให้ได้ในวันสุดท้าย ไม่ใช่วันแรก อะไรๆ ก็ยังเกิดขึ้นได้ครับ”
ผลการแข่งขัน