สเตจ 19 ที่น่าจะจบด้วยการสปรินต์กลับเกมพลิกเมื่อเรมิ คาวัญญ่า นักปั่นชาวฝรั่งเศสวัย 24 ปีจากทีม Deceninck-Quickstep ชิงหนีออกจากกลุ่มเบรกอเวย์ตั้งแต่ที่ 25 กิโลเมตรสุดท้าย จนหลุดรอดเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก
แซม เบนเน็ต (Bora-Hansgrohe) สปรินเตอร์ตัวเต็ง ทำได้เพียงอันดับสอง เข้าเส้นชัยเป็นคนแรกจากกลุ่มเปโลตองที่ตามคาวัญญ่าแค่ 5 วินาทีเท่านั้น ชเน็ค สตีบาร์และฟิลลิป จิลแบร์จากทีม Quickstep คว้าอันดับ 3 และ 4 ของสเตจ ในขณะที่อเลฮานโดร วาวเวอเด้ (Movistar) ชิงเข้าเส้นชัยอันดับห้า ก่อนกลุ่ม GC 3 วินาที
คาวัญญ่าเป็นหนึ่งในนักปั่นที่ออกกลุ่มเบรกอเวย์บ่อยที่สุดใน Vuelta ปีนี้ และเป็นสเตจ 19 นี่เองที่แผนเบรกอเวย์ของเขาสำเร็จ เป็นชัยชนะลำดับที่ 4 ของทีม Quickstep ในสนามนี้ และเป็นชัยชนะในแกรนด์ทัวร์ครั้งแรกของเขา
ถึงจะเป็นสเตจที่อันดับเวลารวมไม่เปลี่ยนแปลง แต่ก็ไม่พ้นมีเรื่องดราม่าเกิดขึ้น เริ่มจากที่ 65 กิโลเมตรสุดท้าย ที่กลุ่มเปโลตองล้มชุดใหญ่ รวมถึงผู้นำเวลารวม พริมอซ โรจ์ลิค (Jumbo-Visma) ด้วย แต่ทีม Movistar เร่งความเร็วหนีกลุ่มที่ล้ม ซึ่งผู้เข้าแข่งขันหลายๆ คนมองว่าเป็นการกระทำที่ไม่มีน้ำใจนักกีฬา ชิงเอาเปรียบคู่แข่งที่เจ็บอยู่
มิกูเอล โลเปซ ตัวเต็งจาก Astana ที่ล้มไปด้วย กล่าวว่า “ผมว่ามันแย่มากที่ทีม Movistar ทำแบบนั้น แล้วก็ทำเป็นใสซื่อ บอกว่าไม่รู้เรื่อง”
ผู้จัดการทีม Movistar โฆเซ หลุยส์ อริเอต้า ให้สัมภาษณ์กับทีวีว่า ทีมเขาไม่ได้จะเอาเปรียบ แต่จริงๆ แล้วตั้งใจจะโจมตีกลุ่มในช่วงนั้นอยู่แล้ว
“เรารู้ว่าจุดนั้นมันเหมาะจะเดินเกมอยู่แล้ว แล้วจริงๆ ก่อนหน้านี้ วาวเวอเด้ก็เคยล้มในตูร์ ซึ่งทีมอื่นก็ชิงหนีเราเอาเปรียบเราในสถานการณ์นี้เหมือนกัน (อริเอต้ากล่าวถึง Tour de France 2012 และ 2014 ที่วาวเวอเด้ล้ม/ยางรั่วและ Sky, Jumbo กระชากหนีกลุ่มที่ล้ม) … เราแพลนการโจมตีไว้ประมาณช่วงนี้อยู่แล้ว ไม่มีอะไรมากกว่านั้น ทีมเราก็อยู่หน้ากลุ่มมาตั้งแต่ก่อนที่จะล้ม”
(ดูจากวิดีโอย้อนหลัง จริงๆ แล้วมันย้อนแย้งกับที่ ผจก ทีมให้สัมภาษณ์ เพราะทั้งวาววเอเด้และคินทานาก็ไม่ได้อยู่หน้ากลุ่มตอนที่ล้ม)
อุบัติเหตุเกิดจากที่มีคราบน้ำมันอยู่บนพื้นถนน ทำให้นักปั่นหลายๆ คนล้มเจ็บค่อนข้างหนัก โทนี มาร์ติน (Jumbo-Visma) ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่เจ็บหนักจนต้องถอนตัวจากการแข่งขัน
หลุยส์ ลีออน ซานเชซ (Astana) ให้สัมภาษณ์ว่า “หลายคนล้มเจ็บ แล้วเราก็กำลังรอรถพยาบาลอยู่ แต่ก็มีทีมที่คิดจะเร่งความเร็วหนีคนอื่น”
Movistar เร่งนำกลุ่มไปได้ประมาณ 15 กิโลเมตร วาวเวอเด้ก็เรียกให้กลุ่มผ่อนความเร็วลง เพราะทางคณะกรรมการ UCI บอกกับนักแข่งว่าจะช่วยเอารถยนต์ดราฟกลุ่มไล่กลับมาให้ทัน
อริเอต้า กล่าวว่าเขาไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของ UCI “ถ้าการแข่งขันมันจะเป็นแบบนี้ก็ เอาที่สบายใจละกัน ผมไม่เห็นด้วย ผมบอกให้นักปั่นหยุดตามที่เขาต้องการ แต่ตอนที่เราโดนกระทำแบบนี้บ้าง UCI ไม่เห็นจะมาช่วยทีมเรา”
อย่างไรก็ดี กลุ่ม GC เข้าเส้นชัยพร้อมกัน ยกเว้นวาวเวอเด้ที่ชิงสปรินต์แซงกลุ่มเข้าได้ก่อน 3 วินาที แต่ยังรั้งอันดับสอง พริมอซ โรจ์ลิคยังคงนำรายการ
ผลการแข่งขัน