แกรนด์ทัวร์สุดท้ายของปี Vuelta a Esapana หรือ Tour of Spain จะเริ่มวันเสาร์นี้แล้ว ถึงจะไม่ใช่รายการที่ดังเท่า Tour de France แต่ก็เป็นสนามที่สนุกเร้าใจทุกๆ ปี ไม่แพ้ทั้ง Tour และ Giro d’Italia สำหรับ Vuelta ปีนี้เราก็มีผู้เข้าแข่งขันที่น่าสนใจหลายคน โพสต์นี้เราจะมาเช็คฟอร์มตัวเต็งใน Vuelta ปีนี้ทั้งกลุ่มผู้ท้าชิงเวลารวมและสปรินเตอร์ครับ
กำหหนดการ: 24 สิงหาคม ถึง 15 กันยายน 2019
ถ่ายทอดสด: ทุกวัน 19:30-23:00 ยกเว้นสเตจ 1 เริ่ม 23:15-02:00|
ลิงก์ถ่ายทอดสด: Duckingtiger.com/live
1+2. พริมอซ โรจ์ลิค + สตีเฟน เคราซ์เวก (Jumbo-Visma)
ถึงจะยังไม่เคยได้แชมป์แกรนด์ทัวร์ แต่พริมอซ โรจ์ลิคก็เป็นนักปั่นที่มีผลงานในแกรนด์ทัวร์โดดเด่นอย่างต่อเนื่อง อันดับ 4 ใน Tour de France 2018 และอันดับ 3 ใน Giro 2019 ใน Giro เมื่ิอต้นปีนี้เขาได้ครองเสื้อผู้นำอยู่ร่วมสัปดาห์เต็มๆ แต่ไปพลาดท่าในช่วงท้ายของการแข่งขันที่ล้มบาดเจ็บช่วงสัปดาห์ที่สองจนเสียเกมให้คู่แข่งอย่างทีม Movistar ไป
ไม่ใช่แค่ผลงานในแกรนด์ทัวร์เท่านั้น ปีนี้โรจ์ลิคยังเป็นนักปั่นที่ชนะสเตจเรซรายการใหญ่เยอะ ทั้ง UAE Tour, Tirreno-Adriatico และ Tour de Romandie ด้วย
ที่น่าสนใจคือทีม Jumbo-Visma ของโรจ์ลิคส่งทีมชุดใหญ่มาช่วยสนับสนุนเขายิ่งกว่าใน Giro d’Italia มีทั้งสตีเฟน เคราซ์เวก (อันดับ 3 ใน Tour de France ปีนี้), จอร์จ เบนเน็ต, เซป คุส และโรเบิร์ท เฮซิงค์ สามนักไต่เขาตัวท็อปของวงการตอนนี้ ยังไม่รวมโทนี มาร์ตินที่จะมาช่วยทำเวลาได้ดีมากๆ ในสเตจ Team Time Trial ด้วย รวมๆ แล้ว Jumbo-Visma น่าจะเป็นหนึ่งในทีมที่แข็งที่สุดใน Vuelta ปีนี้เลยทีเดียว
2. ไนโร คินทานา (Movistar)
Movistar ออกจะโชคร้ายสักหน่อยที่จริงๆ แล้วแชมป์ Giro ปีนี้ ริชาร์ด คาราพาซมาลงแข่งไม่ได้ เพราะดันล้มบาดเจ็บระหว่างซ้อม ต้องถอนตัวจากรายชื่อผู้เข้าแข่งขันอย่างน่าเสียดาย คนที่จะมารับไม้ต่อแทนก็คงไม่พ้น ไนโร คินทานา ที่ฟอร์มก็ยังขึ้นๆ ลงๆ ได้แชมป์สเตจใน Tour แต่จบแค่อันดับ 8 overall ในขณะที่ ทีมประกาศว่าแชมป์โลก อเลฮานโดร วาวเวอเด้ จะลงแข่งเอาแชมป์สเตจโดยไม่สนใจอันดับ GC
จุดอ่อนของทีมคือสเตจ Team Time Trial ที่ดูแล้วน่าจะเสียเวลาให้กับทีมอย่าง Ineos หรือ Jumbo-Visma แน่นอน
ในด้านผู้ช่วยทีม ต้องบอกว่ายังไม่ใช่ทีมที่แข็งเท่ากับใน Tour และ Giro แต่ยังมีเด็กปั้นดาวรุ่งอย่างมาร์ค โซแลร์มาลงช่วยอยู่ ซึ่งจริงๆ แล้วอาจจะทำผลงานได้ดีกว่าคินทานาก็เป็นได้
น่าสนใจว่าคินทานาจะแข่งยังไงเพราะนี่จะเป็นแกรนด์ทัวร์สุดท้ายที่เขาแข่งให้กับทีม Movistar จากที่ปีหน้าจะย้ายไปอยู่ Arkea-Samsic ถ้าเขาคว้าแชมป์ Vuelta ปีนี้ได้สำเร็จ ก็จะเป็นผลงานแชมป์แกรนด์ทัวร์ครั้งที่สามของคินทานา หลังจากที่ได้แชมป์ Giro 2014 และ Vuelta 2016
3. เอสเตบาน ชาเวซ (Mitchelton-Scott)
เคสของเอสเตบาน ชาเวซ นักไต่เขาโคลอมเบียตัวจี๊ดของ Mitchelton-Scott เป็นอะไรที่น่าเสียดายเพราะเขาป่วยยาวไปหนึ่งปีเต็มทำให้เสียโมเมนตั้มการทำผลงานในสนามแกรนด์ทัวร์ ใน Vuelta ปีนี้ทีมส่งเขามานำทีม โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบ่งตำแหน่งหัวหน้ากับพี่น้อง ไซมอน และอดัม เยทส์ และเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ชาเวซก็ดูจะเหมือนว่าฟอร์มการไต่เขาเริ่มกลับมาแล้ว ด้วยการคว้าแชมป์สเตจ 19 ใน Giro d’Italia บนยอดภูเขาสูงชัน
สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ พอจบ Giro แล้วทีมแทบไม่ส่งชาเวซลงแข่งรายนการไหนๆ เลยทำให้เราไม่มีอะไรเป็นตัวบอกวัดฟอร์มความสามารถของเขาในฤดูกาลนี้ ผลงานที่ดีที่สุดของเขายังเป็นปี 2016 ที่เขาได้อันดับสองใน Giro และอันดับสามใน Vuelta คือเรื่องความสามารถในการคว้าแชมป์สเตจก็คงไม่เกินศักยภาพเขาในตอนนี้เท่าไร แต่จะนำแกรนด์ทัวร์ตลอดสามสัปดาห์อันนี้ก็คงเดาได้ยากทีเดียว
4. มิกูเอล โลเปซ (Astana)
อีกหนึ่งนักไต่เขาโคลอมเบียที่ลงแข่งรายการนี้ (เยอะจริงๆ) โลเปซโชว์ฟอร์มไม่เลวใน Giro d’Italia ที่เขาได้อันดับ 7 แต่ชัดเจนว่ายังไม่ดีเท่าปีที่แล้วที่เขาได้อันดับ 3 ทั้งใน Giro และ Vuelta ปีนี้โลเปซก็ลงแข่งน้อยเช่นกัน ลงไปแค่ Tour of Pologne เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนและจบอันดับ 7 overall ผลงานทั้งปี เขาชนะมาสองรายการคือ Tour of Colombia และ Volta a Catalunya
ถึงฟอร์มกัปตันทีมจะไม่ชัวร์นัก แต่ที่ชัวร์มากๆ คือทีม Astana เป็นอีกทีมที่แกร่งมากใน Vuelta ปีนี้แน่นอน ส่งโดเมสติกระดับท็อปมาหนุนโลเปซเต็มที่ ทั้งยาค็อบ ฟูลก์แซง ที่ปั่นดีมากๆ ใน Tour de France ปีนี้, มีพี่น้องอิซาร์เกอเรที่เก่งสเตจเขาและเกมเบรกอเวย์ มีหลุยส์ ลีออน ซานเชซ all rounder รอบด้านที่ช่วยได้ทุกเกม และดาริโอ คาทาลโด นักไต่เขาอดีตผู้ช่วยขาแรงที่เคยสังกัดทีม Sky มาก่อน
5. ริกโอเบอร์โต้ อูราน (EF Education First)
อีกหนึ่งนักปั่นชาวโคลอมเบีย แต่จะต่างจากคนอื่นๆ ในลิสต์นี้สักหน่อยเพราะอูรานเป็น “รุ่นพี่” ที่อายุเยอะกว่าทั้งชาเวซ คินทานา และโลเปซ (ปีนี้เขาอายุ 32) ปีนี้อูรานดวงไม่ค่อยดี เพราะล้มเจ็บไหปลาร้าหักก่อนลง Tour de France ทำให้ขาดซ้อมและทำได้เพียงอันดับ 7 ใน Tour เท่านั้น
ผลงานที่ดีที่สุดใน Vuelta ของอูรานคือที่ 7 (2018) เราไม่แน่ใจกับฟอร์มของอูรานเท่าไร แต่ทีม EF น่าจะเป็นทีมม้ามืดที่น่าสนใจที่สุดใน Vuelta เลยก็ว่าได้ เพราะผู้ช่วยหลายคนนั้นเป็นดาวรุ่งที่มีแววจะล้มโต๊ะหัวหน้าทีมครับ
ทีมส่งทีเจย์ แวนการ์เดอเรน คนนี้เรารู้จักอยู่แล้ว มาเป็นผู้ช่วยมือหนึ่ง แต่ก็ยังมีเด็กใหม่อีกสองคนที่แววเริ่มเฉิดฉาย นั่นคือ เซอร์จิโอ ฮิกูอิต้า (22 ปี) และแดนเนียล มาร์ติเนซ (23 ปี) เป็นนักปั่นสไตล์เดียวกับอีแกน เบอร์นาลทั้งคู่ และมาร์ติเนซเองโชว์ฟอร์มการปั่นไทม์ไทรอัลได้ดีด้วย ปัจจุบันเขาเป็นแชมป์ TT โคลอมเบีย
เซอร์จิโอ้ ฮิกูอิต้า
นอกจากนี้ยังมี ฮิว คาธีย์ ถ้าใครจำได้เขาคือนักปั่นจากทีม EF ที่ปั่นไล่ตามวินเชนโซ นิบาลีใน Giro ปีนี้ ในแทบทุกสเตจเขา โดยรวมแล้วก็น่าจะเป็นทีมที่มีโอกาสทำผลงานสูงอีกทีม แต่คำถามก็อยู่ที่ว่าอูรานจะปิดงานได้ไหมนั่นล่ะครับ
6. ราฟาล ไมย์ก้า (Bora-Hansgrohe)
ถ้าสักสี่ปีก่อน เราคงนับไมย์ก้าเป็นหนึ่งในตัวเต็ง GC จากที่เขาเคยเป็นแชมป์เจ้าภูเขาใน Tour de France ถึงสองสมัย (2014, 2016) แต่หลังๆ มานี้ชักเริ่มจะแผ่วปลาย ไม่ค่อยมีผลงานในแกรนด์ทัวร์เท่าไร เรายังเห็นเขาบ้างเกาะกลุ่มตัวเต็งเกรด B แต่น้อยครั้งที่จะอยู่หน้าสุดของขบวน หรือกระชากทำเกมดุดันเหมือนคู่แข่งตัวเต็งคนอื่นๆ ปีนี้เขาได้ที่ 6 ใน Giro แต่ถ้าดูเฉพาะผลงานใน Vuelta ตำแหน่งที่ดีที่สุดที่เขาเคยทำได้คืออันดับ 3 ในปี 2015 ผลงานล่าสุดในปีนี้คืออันดับ 9 ใน Tour of Poland รวมๆ แล้วยังไม่น่าลุ้นเท่าไร
แต่ก็เช่นเดียวกับ EF ทีม Bora ส่งนักปั่นดาวรุ่งมาช่วยไมย์ก้าพอสมควร มีเกรกอร์ มิวล์เบอร์เกอร์ (25 ปี), ฟีลิกซ์ โกรบ์ชาร์เนอร์ (25 ปี) และดาวิเด้ ฟอร์โมโล แชมป์เสือหมอบอิตาลีคนล่าสุด (26 ปี) ที่น่าจะช่วยเหลือไมย์ก้าได้ในสเตจภูเขา
7. ฟาบิโอ้ อารู (UAE Team Emirates)
อารูเป็นอีกคนที่ห่างหายจากวงการแกรนด์ทัวร์ไปนั่นนั่นก็เพราะเขาเข้ารับการผ่าตัดหลอดเลือดหัวใจ ทำให้ต้องหยุดแข่งและพักฟื้นไปนาน จนกลับมาลงแข่งอีกครั้งก็ Tour de France ปีนี้ที่เขาคว้าอันดับ 14 และดูฟอร์มใช้ได้ในสเตจภูเขาช่วงสัปดาห์สุดท้ายของการแข่งขัน ถ้าคาดหวังให้ได้แชมป์รายการเหมือนที่เขาเคยชนะในปี 2015 ก็คงไม่ง่ายเท่าไร
แต่ทีม UAE ก็มีนักปั่นที่น่าสนใจหลายคนที่อาจจะพอคว้าแชมป์สเตจได้เช่น วาเลริโอ คอนติ แชมป์สเตจและผู้ครองเสื้อชมพูหลายวันใน Giro ปีนี้, ทาเดจ์ โพกาคาร์ ดาวรุ่งวัย 20 ปีที่คว้าแชมป์ Tour of California ปีนี้
8. วิลโค เคลเดอร์แมน (Team Sunweb)
ทีม Sunweb ที่ไม่มีทอม ดูโมลานจะเป็นยังไง? เรารู้ว่าดูโมลานจะย้ายไปอยู่กับ Jumbo-Visma ในฤดูกาลหน้าเป็นที่แน่นอนแล้ว กัปตันทีมในแกรนด์ทัวร์ของทีม Sunweb ก็เหลือเพียงเคลเดอร์แมน ซึ่งจะมารับบทนำใน Vuelta ปีนี้ และเป็นโอกาสดีที่เขาจะโชว์ความสามารถให้ทีมมั่นใจ
แต่ปีนี้ไม่ใช่ปีที่ดีเท่าไรสำหรับเคลเดอร์แมน เขาล้มกระดูกไหปลาร้าหักและกระดูกสันหลังร้าวช่วงต้นปี ทำให้ไม่ได้ลงแข่ง Giro และแข่ง Tour de France ได้แค่ 16 สเตจก็ต้องถอนตัวเพราะเจ็บหลัง และหยุดแข่งตั้งแต่นั้นมา ถ้าทำผลงานปีนี้ได้เทียบเท่า Vuelta 2017 ที่เขาได้อันดับ 4 ก็ถือว่าดีเกินคาดแล้ว
9.+10. เวาท์ โพลส์ และเทโอ โกเฮแกน (INEOS)
ทีม INEOS เปลี่ยนแผนเล็กน้อยในแกรนด์ทัวร์รายการสุดท้ายปีนี้ เลือกส่งนักปั่นเบอร์รองและน้องใหม่แทนที่จะส่งตัวจบอย่างเอแกน เบอร์นาล หรือเกอเรนท์ โทมัส (ฟรูมยังพักฟื้นจากอุบัติเหตุอยู่) ซึ่งคนที่ได้รับโอกาสนำทีมนี้ก็คือเวาท์ โพลส์ นักไต่เขาตัวเทพชาวดัทช์ของทีมที่เป็นคู่หูคริส ฟรูมมาตลอด พร้อมกับเทโอ โกเฮแกน เด็กปั้นชาวอังกฤษของทีม ที่ปีนี้ก็ผลงานดีต่อเนื่อง ( ที่ 5 ใน Tour of the Alps และ Tour of Pologne)
โดยรวมแล้วศักยภาพทีมน่าจะไม่เท่า Jumbo-Visma และ Movistar แต่ก็เป็นทีมที่ประมาทไม่ได้เช่นกัน เรารู้ว่าโพลส์ไต่เขาดียิ่งกว่าตัวเต็งทีมอื่นๆ เสียอีกเวลาเขาฟอร์มดี แต่การรับหน้าที่หัวหน้าทีมนั้นก็เปลี่ยนจากรูปแบบการแข่งที่เขาถนัด (เป็นผู้ช่วย) น่าสนใจว่าเขาจะรับมือได้ดีขนาดไหน
สปรินเตอร์
นอกจากฝั่งตัวเต็งแชมป์รายการแล้ว สนามนี้ก็มีสปรินเตอร์มาลงแข่งบ้าง ไม่ใช่ตัวท็อปแบบใน Tour de France แต่ก็พอมีขาแรงที่คงทำให้การแข่งสเตจทางราบไม่น่าเบื่อจนเกินไปครับ
11 เฟอร์นันโด กาวิเรีย (UAE)
12 แซม เบนเน็ต (Bora-Hansgrohe)
13 เอ็ดวาลด์ บอสซัน ฮาเก็น (Dimension Data)
14 จอห์น เดเกนโคลบ์ (Trek-Segafredo)
15 ไฮนริช เฮาซ์เลอร์ (Dimension Data)
16 ฟาบิโอ จาค็อบเซน (Decenunick-Quickstep)
สปรินเตอร์ตัวท็อปคงหนีไม่พ้นกาวิเรียและเบนเน็ต โดยเฉพาะเบนเน็ตที่ปีนี้เป็นสปรินเตอร์ที่มียอดชัยชนะเยอะที่สุดในฤดูกาล (12 ครั้ง) รองลงมาน่าจะเป็นฟาบิโอ จาค็อบเซ็น (Quickstep) (อายุ 22 ปี) ที่ปีนี้ก็ชนะมากถึง 8 สนาม เยอะกว่าผลงานของกาวิเรียเสียอีก
เบรกอเวย์
เกมเบรกเวย์เป็นอะไรที่เราคาดเดาไม่ได้ว่าใครจะชนะ แต่ปีนี้ก็มีนักปั่นที่ไม่ใช่ climber หรือ sprinter เสียทีเดียว แต่มีโอกาสลุ้นหนีได้แชมป์สเตจหลายคนครับ จับตามอง:
17 โทมัส เดอ เกนท์ (Lotto-Soudal)
18 นิโคลาส โรช (Sunweb)
19 ฟิลลิป จิลแบร์ (Deceuninck-Quickstep)
20 อเลฮานโดร วาวเวอเด้ (Movistar)
21 ปิแอร์ ลาทัวร์ (AG2R)
22 หลุยส์ ลีออน ซานเชซ (Astana)
23 ดาวิเด้ ฟอร์โมโล (Bora-Hansgrohe)
24 ดีแลน ทูนส์ (Bahrain-Merida)
25 ชเน็ค สตีบาร์ (Decenunicnk-Quickstep)
26 มิเคล เนียเว (Mithcelton-Scott)
27 เบน คิง (Dimension Data)
28 จิอันลูคา แบมบริลลา (Trek-Segafredo)
และ 29 เฮซุส เฮอร์ราดา (Cofidis)
ส่วนเส้นทาง และสเตจที่น่าสนใจเราจะมาพรีวิวกันวันพรุ่งนี้ครับ