6 บทเรียนของมือสมัครเล่นกับการแข่งทัวร์

การแข่งขันจักรยานทั้งหลายนั้นถ้าจะยกสนามที่มีคนติดตามดูมากที่สุดในโลก ก็ไม่พ้น Tour de France ซึ่งคือการแข่งแบบทัวร์หรือสเตจเรซ แข่งกันหลายๆ วันร่วมเดือน ซึ่งผมมองว่าแฟนๆ มิตรปั่นทั้งหลายที่ติดตามเชียร์ทีมในดวงใจ นักปั่นที่เป็นไอดอล น่าจะมีความอยากลองได้สัมผัสการแข่งขันในรูปแบบทัวร์ดูสักครั้งในชีวิต

การได้แข่งติดกันหลายวัน ปั่นจากอีกที่หนึ่งไปสู่ที่หนึ่ง ได้ลองใช้ชีวิตคล้ายคลึงนักปั่นอาชีพ ยิ่งถ้าคุณเป็นคนที่ลงแข่งบ่อยๆ ในแบบ one day race (วันเดียวจบ) อยู่แล้ว การแข่งทัวร์เป็นสนามที่ที่คุณน่าจะลองหอบหิ้วตัวเองไปรวมอยู่ในกลุ่มเปโลตองสักครั้งในชีวิต

 

เมืองไทยก็มีแข่งทัวร์สำหรับเหล่ามือสมัครเล่น

ที่จริงรูปแบบการแข่งทัวร์สำหรับมือสมัครเล่นในประเทศเรามีมานานอยู่สักระยะหนึ่ง คุณน่าจะเคยได้ยินชื่อ Master Tour of Chiangmai , Tour of Chiangrai , Tour de Khong , Tour of Lanna , Tour de Phuket บางรายการก็ปั่นข้ามจังหวัดไปเรื่อยๆ บางรายการก็วนเวียนอยู่ในจังหวัดเดียว แต่มีเส้นทางหลากหลายให้ได้ใช้แข่ง

ดูแล้วก็ถือว่าค่อนข้างจะเยอะทีเดียว และมีตลอดทั้งปี แถมมีแนวโน้มว่าจะมากขึ้นในอนาคต มือสมัครเล่นอย่างเราก็น่าจะวางแผนลองลงสนามทัวร์กันสักครั้ง ถ้าคุณไม่รู้จะเริ่มยังไง ผมขออนุญาตเสนอข้อแนะนำครับ

1. เลือกทัวร์ที่ชอบ ในเวลาที่ใช่

การเลือกสักหนึ่งรายการทัวร์หรือจะหลายรายการ สำคัญที่สุดก็คือเรื่องเวลาของคุณนั่นแหละครับ โดยปกติแล้วในบ้านเราแข่งทัวร์แบบนี้มักจะใช้เวลาจะอยู่ที่ประมาณ 3-7 วันขึ้นอยู่กับแต่ละรายการ

รายการแบบนี้มักจะไปคาบเกี่ยวกับช่วงวันหยุดเทศกาลที่หยุดหลายวัน หรือในช่วงปลายปีซึ่งจะเป็นฤดูท่องเที่ยว ค่อนข้างจะพอเหมาะพอดีกับที่คุณจะสามารถลางานไปสมัครแข่งได้ ศึกษารายละเอียดของแต่ละรายการให้ดี เลือกที่คุณต้องการและทำเรื่องขอลาที่ทำงานไว้แต่เนิ่นๆ ส่วนทางบ้านนั้นถ้าจะพาครอบครัวไปด้วยเหมือนได้ไปเที่ยวก็ไม่เสียหาย

 

2. จัดสัมภาระที่จำเป็นสำหรับการแข่งจักรยาน

การจัดกระเป๋าเดินทางโดยทั่วไปแล้วก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็น แต่ถ้าจะเน้นเพื่อการไปแข่งจักรยานหลายวันก็อาจมีรายละเอียดต้องใส่ใจเพิ่มขึ้น

ชุดจักรยาน

ถ้าคุณมีชุดพอกับจำนวนวันที่คุณจะแข่ง เตรียมไปพอดีก็ไม่เสียหาย แต่คุณอาจมีทั้งเสื้อซับใน เสื้อกันลม ทั้งแบบแขนกุดแขนยาว การจะเอาไปทั้งหมดนั้นเกินความจำเป็นเพราะที่สุดแล้วคุณจะใส่ชุดปั่นแข่งแค่ชุดเดียวอยู่ดีตอนที่แข่ง

เสื้อกันลมหรือกันหนาวสวยๆ จะได้ใส่แค่ก่อนสตาร์ทไม่นาน และต้องแน่ใจด้วยว่าคุณจะถอดฝากไว้กับใครได้บ้าง เพราะบางคนก็ไม่สามารถปั่นไปถอดเสื้อไปแล้วม้วนเก็บเข้ากระเป๋าหลังได้แบบสบายๆ ตอนแข่ง หรือถ้านำชุดไปน้อยเพราะไม่อยากแบกน้ำหนักเยอะ ก็ต้องคอยดูว่าคุณจะหาที่ซักที่ตากชุดของคุณยังไงด้วย

 

อาหารการกิน

ในที่นี้คืออาหารที่จะกินตอนเช้า เพราะมื้อเช้านั้นคือพลังงานจำเป็นสำหรับการแข่งจักรยาน และของที่จะพกไปกินในระหว่างแข่งจำพวกเจลหรือบาร์ต่างๆ

ในแง่มื้อเช้าแล้ว ที่พักโรงแรมของคุณอาจมีอาหารเช้าไว้บริการ แต่ก็ไม่แน่เสมอไปว่าจะมีบริการ การนำอาหารจำพวก มูสลี่ ข้าวโอ๊ต กราโนล่า ไปด้วยเผื่อไว้ในกรณีจำเป็นต้องหากินเองและเร่งรีบ

ควรจะหาซื้อนมหรือโยเกิร์ตไว้เผื่อด้วยแล้วในคืนก่อนหน้า สำหรับของพกไว้กินระหว่างแข่งนั้น ถ้าจะเป็นบาร์หรือเจลให้พลังงานต่างๆ ควรซื้อไว้ล่วงหน้าก่อนไปแข่งแต่เนิ่นๆ คำนวณให้พอดีหรือเผื่อมากขึ้นเล็กน้อยสำหรับจำนวนวันที่จะต้องใช้แข่ง อาหารทั้งสองแบบนี้อย่าหวังพึ่งน้ำบ่อหน้าเป็นดี อะไรไม่มีรีบเตรียมไว้ก่อน

 

อุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ

การไปแข่งรูปแบบใดก็ตามจงพึงระลึกเสมอว่าเราไม่ได้มีทีมเซอร์วิสหรือช่างประจำทีมเหมือนระดับมืออาชีพ

เอาล่ะคุณอาจจะสังกัดอยู่ใน club team ชื่อดังทีมงานพร้อม แต่ที่สุดแล้วระดับสมัครเล่นก็คือสมัครเล่น อุปกรณ์ขั้นพื้นฐานใดๆ สำหรับจักรยานควรเตรียมไป ฝึกตั้งเกียร์เบื้องต้นไว้บ้าง ใครที่ยังถอดเปลี่ยนเฟืองเองไม่เป็นก็ควรฝึกทำให้ได้ เพราะหน้างานคุณอาจจำเป็นต้องเปลี่ยนเฟืองให้อัตราทดเบาขึ้นในบางสเตจนั่นเอง ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อย่าลืมนำจักรยานคู่ใจไปทำการตรวจเช็คต่างๆ ให้เรียบร้อยล่วงหน้ากับร้านประจำมาก่อนลงสนามด้วย

 

3. สำรวจที่พัก ที่กิน ร้านรวงต่างๆ

จะเป็นโรงแรม บ้านพักรีสอร์ต หรืออะไรก็ตามที่เราจะพักอาศัยอยู่ในระหว่างแข่ง การสำรวจในที่พักของเราเองและบริเวณรอบๆเป็นเรื่องที่ควรทำครับ จากประสบการณ์ส่วนตัวของผมจะสำรวจมีดังต่อไปนี้

1) ในที่เราพักมีระเบียงหรือไม่

เพื่อจะใช้ตากชุดปั่นหรือเสื้อผ้าที่เราจำเป็นต้องซัก ถ้าไม่มีระเบียง นอกหน้าต่างพอจะแขวนเพื่อตากได้หรือเปล่า เป็นที่รู้กันว่าชุดปั่นไม่ควรซักด้วยเครื่องซักผ้า ถ้าคุณใช้บริการซักรีดของที่พักก็ไม่พ้นโดนเครื่องซักผ้าแน่นอน ชุดปั่นของท่านซักเองด้วยมือ และหาที่ตากมันเองครับ

2) ผมชอบหาดูก๊อกน้ำที่มีสายยางต่อไว้เพื่อรดต้นไม้

อาจจะแถวที่จอดรถหรือส่วนด้านข้างหรือด้านหลัง เพื่อไว้ขออนุญาตใช้สายยางฉีดน้ำล้างจักรยาน เพราะบางสเตจจักรยานเราอาจเลอะเทอะกลับมา ขอที่พักล้างข้างนอกดีกว่าเอาไปล้างข้างในห้องพัก

3.) ออกสำรวจร้านรวงต่างๆในบริเวณที่พัก

ไม่ว่าจะเป็นร้านสะดวกซื้อ ร้านยา ร้านอาหารใดๆ ถ้าอยู่ในละแวกใกล้เคียงกันก็สะดวกต่อการซื้อของใช้ที่จำเป็นหรือเพื่อการกินอาหาร ในกรณีนี้ ถ้าพักอยู่ที่เดิมได้จนจบทัวร์ก็ง่ายขึ้น แต่ถ้าต้องย้ายที่ไปเรื่อยๆ ก็ต้องสละเวลาออกสำรวจสักหน่อย (แต่เสิร์ชหาใน Google Maps ล่วงหน้าไว้ก่อนสะดวกอยู่แล้วครับ)

แต่จุดนี้ก็อย่าลืมว่ามักจะมีนักปั่นท่านอื่นๆ อยู่ในที่พักเดียวกับคุณหรือละแวกใกล้เคียงอยู่แล้วด้วย ร้านใดๆ ใกล้เคียงอาจจะวุ่นวายพอควรในบางเวลาเพราะทุกคนไปที่เดียวกันหมด หาเผื่อไว้ไกลออกไปบ้างก็ไม่เสียหาย

4.) ร้านจักรยานในจังหวัดนั้นๆ

คุณอาจหาได้ใน Google Maps เช่นกัน และถ้ามีเวลาสามารถไปได้ก็ควรไปแวะดูสักหน่อย ดูว่าร้านขายอะไรและอะไรบ้าง เป็นตัวแทนของยี่ห้ออะไรที่คุณใช้บ้างไหม เผื่อในกรณีจักรยานของคุณชำรุดเสียหาย ซ่อมเองไม่ได้ก็ต้องหวังพึ่งร้านจักรยานที่คุณค้นหาเจอนี่แหละ

 

4. แรงของท่านมีจำกัด ใช้อย่างประหยัดมีแบบแผน

ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่เพิ่งเริ่มออกทัวร์ หรือมือเก๋าที่มีลุ้นเวลารวม ทุกคนก็ต้องบริหารแรงให้ดีด้วยกันทั้งนั้นครับ จริงอยู่ที่ว่าการแข่งระดับนี้เราอาจเห็นระดับมืออาชีพมาร่วมด้วยบ้าง เขาอาจจะชนะได้สบายในทุกสเตจ แต่เราต้องมองตัวเองด้วยความเป็นจริง เป้าหมายในการทัวร์ครั้งแรกคือการอยู่รอดปลอดภัยปั่นให้จบในทุกสเตจก่อน หรือถ้าคุณแข่งแบบวันเดียวจบมาบ่อยแล้ว อาจลองวางแผนหาสักสเตจหนึ่งที่เข้าทางคุณพยายามดูเพื่อลุ้นโพเดียมสักหน่อย หรือถ้ามากันเป็นทีม ก็อาจวางแผนเพื่อช่วยใครสักคนในทีมที่มีลุ้นอันดับเวลารวมได้ ทำหน้าที่ของคุณให้เต็มที่ แต่ต้องเฉลี่ยแรงของคุณเพื่อวันต่อๆ ไปด้วย

 

5. ทำตัวแบบมืออาชีพ ไม่เที่ยวเล่นพร่ำเพรื่อ

ปกติแล้วการได้ไปแข่งขันตามที่ต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกไปจังหวัดอื่นๆ คนก็มักจะถือโอกาสให้เป็นการเที่ยวไปในตัว

ยิ่งถ้าจังหวัดนั้นๆ มีแหล่งท่องเที่ยวมากมายให้ได้ไปเยือน ก็อยากจะหาเวลาไปเยี่ยมชมสักหน่อย แต่อย่าลืมว่าในการแข่งทัวร์นั้นก็คือการแข่งมากกว่า 1 วัน ที่คุณไม่ควรจะทิ้งตัวหลังแข่งเสร็จทันทีเหมือนว่ามันจบแล้ว การพยายามไปเที่ยวตามที่ต่างๆ หลังแข่งเสร็จในวันนั้นอาจเป็นการผ่อนคลายที่ดี แต่ควรดูร่างกายตัวเองด้วยว่าควรได้รับการพักผ่อนแบบไหน สถานที่ที่คุณอยากไปอาจจะอยู่ห่างจากที่พักมากทำให้เดินทางไม่สะดวก หรือจะอยากปั่นเล่นๆ ตระเวนกินกาแฟก็ควรจะเลือกร้านที่ใกล้เคียงไม่ต้องปั่นไกลจนเกินพักฟื้น และดูด้วยว่าอากาศมันดีพอจะปั่นเพลินๆ มั้ย

ที่ควรระวังก็คืออาหารการกิน จังหวัดต่างๆ ก็มีของกินขึ้นชื่อ และหลายชนิดมักจะเป็นอาหารรสจัด จะเสี่ยงไหมถ้าคุณจะตระเวนชิมอาหารประจำถิ่นนั้นๆ ให้ครบถ้วน เชื่อผมอย่างหนึ่งว่าการแข่งติดกันหลายวัน ร่างกายของคุณที่ล้าสะสมอาจจะอยู่ในภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ เจออะไรผิดแปลกสักหน่อยอาจทำให้ไปกร่อยอยู่ในโรงพยาบาลแทน ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็เหมือนกับคุณยึดวิถีแบบมืออาชีพนั่นแหละครับ พึงสำนึกไว้ว่าเรามาแข่งจักรยาน ยังไม่ใช่เวลามาเที่ยว ดูแลรักษาตัวให้อยู่แข่งจนครบตามจำนวนวันไว้ดีกว่า

 

6. มีทัศนคติที่ดีในการแข่งขัน รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย

ไม่ว่าคุณจะขี่จักรยานอยู่ในระดับไหนก็ตาม การประพฤติตนให้ถูกต้องและมีทัศนคติที่ดีถือเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก มารยาทขั้นพื้นฐานที่มนุษย์เราควรพึงปฏิบัติก็อย่าละเลย มือไม้อ่อนเคารพผู้ที่อาวุโสกว่า

ในเกมส์การแข่งขันคุณควรแสดงออกในความมีน้ำใจนักกีฬา เช่น การช่วยผลัดวนในการขึ้นลาก ถ้าหมกตามจี้จนเรี่ยวแรงเริ่มกลับมาแล้วก็ควรช่วยขึ้นไปผลัดนำบ้างก็ดี หรือถ้าได้อยู่กับหัวลากสุดแกร่งไม่ยอมลง จบแล้วก็ควรเข้าไปขอบคุณเขาบ้างถือเป็นกำลังใจ

เวลาอยู่ในกลุ่มให้สัญญาณในการออกซ้ายหรือขวาสักหน่อย เปล่งเสียงขอบคุณหรือขอโทษให้ชัดเจนเข้าไว้ แข่งแบบสเตจเรซเราไม่ได้คู่แข่งแค่วันเดียวจบ ยังมีวันอื่นๆ ที่ต้องปั่นด้วยกัน เชื่อเถอะว่าถ้าคุณมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมชัดเจน เรื่องของคุณจะฟุ้งไปทั่วเปโลตองแน่นอน

ล่าสุดที่ผมแข่งทัวร์ มีวันที่ได้พบเจอเรื่องน่าประทับใจจากนักกีฬาที่เก่งมาก นั่นคือคุณคอนสแตนติน ฟาสต์ เราร่วมทีมเดียวกันแต่ลงคนละรุ่น ในสเตจที่เป็นทางไกลทุกรุ่นจะปล่อยรวมกัน ในสเตจหนึ่งทีฟาสต์ครองเสื้อผู้นำเวลารวม ผมได้พยายามขึ้นไปช่วยเขาลากกลุ่ม ซึ่งก็ช่วยได้ไม่มากเพราะเมื่อใกล้ช่วงจะขึ้นเขาผมก็จำเป็นต้องถอยตัวลงไปปั่นตามเพซของตัวเอง เพราะไม่มีทางตามกลุ่มที่ลุ้นอันดับเวลาทันแน่นอน จบสเตจนั้น หลังจากผมเข้าเส้นชัยฟาสต์ที่เข้าเส้นชัยมาก่อนนานแล้ว เดินเข้ามาขอบคุณผมสำหรับการช่วยเหลือในตอนนั้น ซึ่งผมคิดว่านั่นเป็นการช่วยเหลือที่เล็กน้อยมาก และไม่ใช่การทำงานในช่วงสำคัญของหน้าที่ผู้ช่วยด้วยซ้ำ แต่เขาก็ยังเห็นถึงความสำคัญในความพยายามของเรา นี่คือทัศนคติที่ยอดเยี่ยมของนักกีฬาที่เก่งกาจ ดีทั้งในสนามและนอกสนาม เป็นตัวอย่างที่เราควรยึดถือครับ

 

สรุป

การได้ร่วมแข่งทัวร์สักรายการ เป็นประสบการณ์ดีที่ควรได้พบเจอสักครั้งถ้าคุณรักการปั่นจักรยานนะครับ อาจบอกไม่ได้ว่ามันจะช่วยการปั่นของคุณให้พัฒนาขึ้นรึเปล่า แต่อย่างน้อยมันเหมือนเป็นการฝึกฝนให้เราได้วางแผนกับอะไรสักอย่างในการดำเนินชีวิตได้เช่นกัน ถ้าอ่านบทความนี้จบแล้ว ก็เตรียมตัวเลือกหาทัวร์ที่เข้าทางคุณสักรายการ พาตัวเองไปใช้ชีวิตคล้ายมืออาชีพดูสักครั้ง หวังว่าข้อแนะนำของผมจะมีประโยชน์ในการนำไปใช้บ้างก็ดีครับ

* * *

By สุกฤษณ์ ศรีเปารยะ

นักดนตรีที่ลองเปลี่ยนมาใช้ชีวิตแบบนักกีฬา รักจักรยานและกีฬาจักรยาน ตอนนี้ใช้เรื่องจักรยานเป็นอาชีพและเล่นดนตรีเป็นงานอดิเรกแทน