ในกรุ๊ปไลน์ DT เราจะมีประโยคที่เล่นกันบ่อยๆ ว่า
วันนี้ “วาวเวอเด้ชนะอีกแล้ว”
ชนะบนทางราบ ชนะบนเขา ชนะบนทางโรลลิง ชนะสเตจเรซ ชนะ one day race ชนะสปรินเตอร์ ชนะนักไต่เขาที่อายุน้อยกว่าสิบปี จะสปรินต์ก็ได้ จะหนีคนเดียวก็ได้ ต้องถามว่ามีสนามไหนที่แกลงแข่งแล้วไม่มีสิทธิชนะมากกว่า
เมื่อคืนครับ อีเมล์เด้งขึ้นมาแจ้งเตือนจาก Movistar
“Alejandro Valverde wins GP Miguel Indurain”
เดี๋ยวนะ วันก่อนเฮียบอกว่าจะไม่ลง Tour of Flanders แต่หนีไปลง One Day Race ในสเปนแทน แล้วก็ชนะ!
ผมลองไปเปิดเช็คสถิติดู ปีนี้วาวเวอเด้เก็บชัยชนะไปทั้งหมด 9 รายการ นั่นคือเป็นคนที่ชนะเยอะที่สุดในซีซันนี้ เยอะกว่าสปรินเตอร์ทุกคน คือตั้งแต่ที่ล้มขาหักใน Tour de France ปีที่แล้ว พอเริ่มลงแข่งสนามแรกหลังหายเจ็บแล้วก็ชนะเลย
จากผลงาน 9 ชัยชนะ เป็นแชมป์สเตจเรซ 3 รายการ (ลงแข่งทั้งหมดแค่ 3 รายการ แล้วก็ชนะทุกรายการที่ลงแข่ง)
ชนะสเตจเรซ 1 รายการ ส่วนชัยชนะที่เหลือเป็นแชมป์สเตจในสเตจเรซอีกที อันดับในสนามคลาสสิคปีนี้ – ที่ 4 Strade Bianche, ที่ 11 Dwars Door Vlaanderen
อีกหนึ่งเดือน วาวเวอเด้จะมีอายุ 38 ปี เป็นกัปตันทีมที่อายุมากที่สุดในเปโลตองที่ยังชนะได้เหมือนอายุไม่มีความหมายเท่าไร
เกิดในเมือง Las Lubrereas แคว้นเมอร์เซีย วาวเวอเด้เติบโตมาจากครอบครัวนักปั่น พ่อของเขาเคยเป็นนักปั่นสมัครเล่น และซื้อจักรยานให้ลูกชายได้ลองขี่ตั้งแต่หกขวบ ในสนามแรกที่เขาลงแข่งสมัยเป็นเด็กเขาได้อันดับสอง แต่สนามที่สองหนึ่งสัปดาห์ต่อมาเขาได้แชมป์ ข่าวลือในเมอร์เซียเล่าขานกันไว้ว่า ระหว่างที่วาวเวอเด้อายุ 11-13 ปี เขาชนะการแข่งจักรยานกว่า 50 รายการ จนได้ชื่อเล่นใหม่ว่า “El Imbatido” (The Unbeaten)
วาวเวอเด้แข่งเป็นเมืออาชีพมาได้ 17 ปีแล้ว อะไรคือความลับที่ทำให้เขายังเป็นนักแข่งที่ยังดูเอนจอยการแข่งขันได้ยาวนานขนาดนี้?
ฮาเวีย มิงกูเอซ โค้ชของวาวเวอเด้เคยให้สัมภาษณ์ว่า “วาวเวอเด้คือนักแข่งจักรยานที่ยอดเยี่ยมที่สุดในสเปน ความลับที่ทำให้เขายังเก่งและยังชนะมาได้จนถึงทุกวันนี้คือ เขาสนุกกับการปั่น เขาไม่ได้กังวลเรื่องจะล้ม จะเจ็บ หรือใครจะคิดยังไงกับเขา จักรยานเป็นเหมือนของเล่นสำหรับเขา”
มิเคล ซาบาลา หัวหน้าโค้ชอีกของ Movistarก็พูดเหมือนกัน “ความสำเร็จของเขามาจากทัศนคติ ไม่ใช่แค่เพราะเขาทุ่มสุดตัวกับทุกการแข่ง แค่นั้นใครก็ทำได้ เขาเป็นไม่กี่คนที่ผมรู้จักที่รักการปั่นจริงๆ”
แล้วถามว่าตัวเขาเอง approach การซ้อมยังไง เขาบอกว่า “หลายคนจริงจังกับการฝึกซ้อมมาก ผมจะตรงข้ามกัน ผมซ้อมวันละ 3-4 ชั่วโมงเสมอ แต่มันไม่ได้หนัก ไม่ได้ยากเท่าไร ถ้าผมอยากทรมาน ผมไปทำงั้นในสนามแข่งดีกว่า”
เขายังเป็นนักปั่น “ยุคเก่า” เป็นไม่กี่คนที่ยังฝึกซ้อมด้วยความรู้สึกมากกว่าตัวเลข แต่ก็ใช่ว่าจะทำให้ความสามารถตก “ผมเคยติดพาวเวอร์มิเตอร์ไว้บนจักรยานแข่งนะ แต่พอผมเห็นตัวเลขแล้วรู้ว่าเลขนี้มันคือลิมิตของผมแล้ว ผมโจมตีไม่ได้ไม่งั้นมันจะเกินแรง แต่จริงๆ แล้วผมทำได้ ผมเลยพลาดโอกาสทำผลงานหลายๆ ครั้งเพราะเชื่อตัวเลขมากกว่าฟังร่างกาย ผมชอบใช้ความรู้สึกตอนแข่งมากกว่า ผมหวังว่ากีฬานี้จะไม่ถูกคุมด้วยตัวเลข”
โค้ชซาบาล่าขยายความ: ถึงวาวเวอเด้จะไม่ใช้พาวเวอร์มิเตอร์ตอนแข่ง แต่ก็เป็นหนึ่งในนักปั่นที่วินัยดีที่สุดที่โค้ชเคยเจอ เขาให้ความสำคัญกับการพัก (recovery) มากกว่าคนอื่นๆ ทำให้เขาร่างกายสดพร้อมซ้อมหรือแข่งหนักๆ ตลอด เขาดูแลร่างกายตัวเองดีประหนึ่งเป็นของมีค่าที่จะไม่ให้แตกหักหรือชำรุด เพราะเขารู้ว่ามันคือมูลค่าของเขา”
จริงว่าวาวเวอเด้อาจจะไม่เคยได้แชมป์ Tour de France – รางวัลที่นักปั่นทุกคนใฝ่ฝัน แต่ก็เคยได้แชมป์ Vuelta a Espana หนึ่งครั้ง พร้อมติดโพเดี้ยมแกรนด์ทัวร์ ทุกรายการ
วาวเวอเด้เป็นนักปั่นไม่กี่คนในเปโลตองที่ไม่เคยย้ายทีมเลย ตั้งแต่ปี 2005 ที่เขาเทิร์นโปร เขาอยู่กับทีม Movistar มาตลอด (ปี 2005-2010 ทีมใช้ชื่อว่า Caisse d’Epargne) จริงว่าการย้ายทีมนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับการย้ายงานเพื่อหาค่าตัวหรือเงินเดือนที่สูงกว่า แต่วาวเวอเด้บอกไว้ว่า
“การย้ายทีมเพื่อเพิ่มค่าตัว หรือไปดังในต่างประเทศไม่เคยอยู่ในหัวผมเลย ทีนี่ ที่ Movistar คือที่ๆ ผมสบายใจที่สุด และมันเป็นที่ๆ ทำให้ผมแสดงความสามารถได้ 100% ผมไม่เห็นความจำเป็นที่จะย้ายทีม”
จริงว่าวาวเวอเด้เคยพัวพันกับคดีโด้ประหว่างปี 2009-2010 และโดนสั่งพักแข่งไปสองปีเต็ม แต่เบื้องหลังความสำเร็จในการเป็นนักปั่นอาชีพของเขา หลังโดนแบน อาจจะพบได้ในประโยคสั้นๆ นี้ครับ
“ระหว่างสองปีที่ผมโดนแบน ไม่เคยมีวันไหนที่ผมหยุดซ้อม ผมซ้อมเหมือนผมยังแข่งอยู่ แล้วผมมั่นใจว่า ต่อให้ผมเลิกแข่งแล้วผมก็จะยังซ้อมทุกวันเหมือนเดิม”
“ผมไม่เคยรู้เลยว่าผมชนะมาทั้งหมดกี่รายการ ผมยังไม่รู้ว่าความสามารถของผมจะพาผมไปได้อีกขนาดไหน ผมไม่ได้อยากทำสถิติอะไร ผมไม่เคยเสียใจที่ไม่ได้แชมป์ Tour de France หรือสนามชิงแชมป์โลก รางวัลไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ผมแข่ง ความสนุกจากการได้ชนะมากกว่าคือสิ่งที่ทำให้ผมยังแข่งอยู่”
* * *
ผลงาน
One Day Race
National Road Race Championships (2008, 2015)
National Time Trial Championships (2014)
Liège–Bastogne–Liège (2006, 2008, 2015, 2017)
La Flèche Wallonne (2006, 2014, 2015, 2016, 2017)
Clásica de San Sebastián (2008, 2014)
Paris–Camembert (2008)
Roma Maxima (2014)
Vuelta a Murcia (2004, 2007, 2008, 2014, 2017)
GP Miguel Indurain (2014)
Stage Race
Critérium du Dauphiné (2008, 2009)
Volta a Catalunya (2009, 2017, 2018)
Tour of the Basque Country (2017)
Abu Dhabi Tour (2018)
Vuelta a Andalucía (2012, 2013, 2014, 2016, 2017)
Vuelta a Burgos (2004, 2009)
Vuelta a Castilla y León (2016)
Volta a la Comunitat Valenciana (2004, 2007, 2018)
Giro d’Italia
1 แชมป์สเตจ (2016)
อันดับ 3 (2016)
Tour de France
4 แชมป์สเตจ (2005, 2008, 2012)
อันดับ 3 (2015)
ติด Top 10 6 ครั้ง
Vuelta a España
11 แชมป์สเตจ
แชมป์รายการ (2009)
อันดับโพเดี้ยม 6 ครั้ง
ผู้ชนะประเภทคะแนนรวม (2012, 2013, 2015)
ผู้ชนะประเภท Combined Classification (2003, 2009, 2012)
