“You put your life into something and make sacrifices for days like this” — Andrew Talansky
เมื่อสเตจสุดท้ายในรายการไครทีเรียม ดู ดอฟิเนไม่ใช่นัดล้างตาระหว่างคริส ฟรูมและอัลเบอร์โต คอนทาดอร์อย่างที่เราคิดไว้! การแข่งขันเมื่อคืนนี้เรียกได้ว่าแทบเป็นไปไม่ได้ในเกมจักรยานถนนสมัยนี้ที่เบรคอเวย์ถูกล่ามโซ่ โดนรวบจับตามเวลาที่ผู้จัดการทีมคำนวนไว้อย่างแม่นยำ เกิดอะไรขึ้นในสเตจนี้?
ถ้าดูเผินๆ จากโปรไฟล์เส้นทางและเวลาของตัวเต็งแล้วก็ไม่น่าจะเป็นการแข่งที่ซับซ้อนอะไร ทีม Tinkoff มีหน้าที่ไล่จับเบรคอเวย์และป้องกันไม่ให้ฟรูมเก็บ Time Bonus 10 วินาทีที่เส้นชัย เขาลูกสุดท้ายไม่ชันพอจะทำให้คู่แข่งทิ้งห่างกันได้มาก แต่! ความโกลาหลเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงแรกของการแข่งขันเมื่อเบรคอเวย์กว่า 23 คนซึ่งดันมีนักปั่นที่อันดับเวลาดีมากบนตาราง GC ระดับท๊อป 10 อย่างวิลโค เคลเดอร์แมน (Belkin), แอนดรูว์ ทาลานสกี (Garmin), ไรเดอร์ เฮซเชดาล (Garmin), เยอร์เกน แวนเดนโบรก (Lotto) ริทชีย์ พอร์ท (Sky) และโรมัน บาร์เด (AG2R) ซึ่งทำเวลาห่างกลุ่ม peloton ได้ร่วม 2-3 นาที ทีม Tinkoff ปล่อยให้เกิดสถานการณ์อย่างนี้ได้อย่างไรคงไม่มีใครทราบแน่ชัด
ผ่านไปครึ่งสเตจ Tinkoff พยายามส่งคนมาไล่จับกลุ่มหนี แต่ Sky ที่เห็นโอกาส ดันขุนพลขึ้นมาช่วยลากฟรูมหนีกลุ่ม peloton ออกไปอีกมีเพียงแค่เคลเดอร์แมนและนิบาลิที่ตามมาได้
ตัดไปที่กลุ่มเบรคข้างหน้า เฮชเชดาลถวายชีวิตช่วยลากทาลานสกีให้รอดกลุ่ม peloton เช่นเดียวกับแวนเดนโบรกที่ทำทุกวิถีทางช่วยคู่หูการ์มินเพราะเวลาเฉียดขึ้นอันดับโพเดียม
แต่คอนทาดอร์ยังไม่ถอดใจ ถึงจะโดนคริส ฟรูมพยายามใช้แรงเฮือกสุดท้ายฉีกหนีแต่อาการบาดเจ็บจากวันก่อนก็เล่นงานเขาจนหมดท่า คอนทาดอร์ตอกตะปูปิดฝาโลงกระชากห่างคริส ฟรูมจนตามหลังกลุ่มผู้นำร่วมห้านาที คอนทาดอร์พยายามไล่จับทุกคนที่อยู่ข้างหน้าไม่ว่าจะเป็นเคลเดอร์แมน นิบาลิ ทาลานสกี และแวนเดนโบรก และช่วงแรกดูเหมือนจะพอป้องกันแชมป์รายการได้ แต่เมื่อแวนเดนโบรก เยทส์ ทาลานสกีและบาร์เด ช่วยงานกันผลัดทำเวลาราวกับเป็นทีมเดียวกัน ความพยายามของคอนทาดอร์ก็ไม่เป็นผลหมดแรงไปในที่สุด
ระหว่างความโกลาหลทั้งหมดทั้งปวง Sky รู้ดีว่าหัวหน้าทีมหมดสภาพแล้วเลยส่งไม้ตายสุดท้ายคือมิเคล เนียเว ซูปเปอร์โดเมสติกนักไต่เขาหนีออกไปและคว้าแชมป์สเตจได้ในที่สุด
กลุ่มทาลานสกีตามเข้ามานำหน้าคอนทาดอร์อยู่ +1.15 นาที ทำให้เขาได้แชมป์รายการไปแบบเหนือความคาดหมาย แวนเดนโบรกไต่ขึ้นมาเป็นอันดับ 3 และคอนทาดอร์รับอันดับสอง คริส ฟรูมที่ตามเข้ามาเกือบห้านาทีให้หลังหลุดอันดับท๊อป 10 ไปในที่สุด
ผลการแข่ง
วิดีโอไฮไลท์
DT Comment
คงไม่มีคำไหนบรรยายสเตจนี้ดีไปกว่า “เหนือความคาดหมาย” ชัยชนะครั้งนี้ถือเป็นผลงานยอดเยี่ยมของทาลานสกี ซึ่งที่ผ่านมาก็ทำได้ดีแต่ยังไปไม่ถึงยอดสักทีครับ ปีนี้เขาได้ที่สองทั้ง Tour de Romandie และ Paris-Nice เป็นบทพิสูจน์อีกครั้งว่าทีม Garmin นั้นสามารถเอาชนะคู่แข่งระดับ Sky และ Tinkoff ได้ด้วยกลยุทธ์การแข่งแบบม้ามืดและความมุ่งมั่นที่จะคว้าทุกโอกาสที่มีถึงจะมีนักปั่นฝีเท้าดีน้อยกว่าและทุนน้อยกว่าพอสมควร ทาลานสกีตอนนี้ขึ้นมายืนในฐานะความหวังใหม่ของนักปั่นชาวอเมริกันไม่แพ้ทีเจย์ แวนการ์เดนเรนจาก BMC ลองจับตามองผลงานของทีม Garmin ในตูร์ปีนี้ให้ดีครับ
ส่วนคอนทาดอร์นั้นรับศึกหนักทุกด้านและขาดโดเมสติคอยช่วยเหลือในช่วงสุดท้าย ในขณะที่คริส ฟรูมบาดเจ็บเกินจะแก้มือ ทั้งสองทีมใจเย็นเกินไปที่ปล่อยให้เบรคกลุ่มใหญ่หนีไปได้ตั้งแต่เริ่มการแข่งขัน ทางโอเล็ก ทิงคอฟเจ้าของทีมก็ออกมาบอกว่าในตูร์คอนทาดอร์จะมีทีมที่แกร่งกว่านี้เพื่อรับมือสถานการณ์แบบนี้แน่นอน ทั้งโรมัน ครอยเซิเกอร์, ไมเคิล โรเจอร์ส, และนิโคลาส โรช – คอนทาดอร์อาจจะแพ้ศึกแต่ไม่ได้แพ้สงครามและอันดับสองรายการนั้นคอนเฟิร์มว่าเขาพร้อมลงตูร์ยิ่งกว่าปีที่แล้ว
VIP อีกหลายๆ คนที่น่าชื่นชมไม่แพ้กันคืออดัม เยทส์ นีโอโปรจาก GreenEdge ที่โชว์ผลงานต่อเนื่องหลายสนามจนขึ้นมาคว้าอันดับ 6 Overall ได้สำเร็จ และน่าจะเป็นเอซ GC ของทีมในสนามสเตจเรซในอนาคต แน่นอน
วิลโค เคลเดอร์แมนจาก Belkin เองก็ไม่ธรรมดา พึ่งจะลงแข่งจิโรมาหยกๆ ไม่ทันได้พัก แต่ฟอร์มของเขานั้นแทบไม่แพ้ตัวเต็ง 5 ดาวคนอื่นๆ เลย ดูจากที่พีคต่อเนื่องมาหลายเดือนเดาว่าคนนี้คงไม่ได้ลงตูร์ครับ เพราะหน้าที่ GC คงตกเป็นของ บอค โมเลมมา และลอเรน เทน แดมส์ แต่น่าจะฟื้นตัวมาทันลงวูเอลต้า
สรุป
โดยรวมแล้ว DT ยกให้รายการนี้เป็นสเตจเรซที่สนุกที่สุดในฤดูกาลนี้เลยก็ว่าได้ (ไม่นับแกรนด์ทัวร์) พลิกล๊อกกันได้จนถึงวันสุดท้าย ต้องยกความดีความชอบให้ผู้จัดแข่งที่กล้าปรับเปลี่ยนไม่ยึดแพทเทิร์นเส้นทางแบบเดิมๆ ครับ ที่แน่ๆ ศึกระหว่าง Sky, Tinkoff และนักฉวยโอกาสจากทีมอื่นๆ ในตูร์ปีนี้คงสนุกแน่นอน ถ้าว่ากันตรงๆ แล้วผมคิดว่าฟรูมยังเหนือกว่าคอนทาดอร์อยู่ตรงที่ได้เปรียบเรื่อง Time Trial และสเตจรองสุดท้ายของตูร์ปีนี้นั้นก็เป็น Time Trial ที่ยาวกว่า 40 กิโลเมตร และเป็นทางราบสนิทเกือบทั้งหมด ถ้าสังเกตดูทั้งฟรูมและวิกกินส์ที่คว้าแชมป์ตูร์ทั้งคู่นั้นทำเวลาห่างคู่แข่งจากทั้งเสตจภูเขาและสเตจ TT คู่แข่งที่ขึ้นเขาได้ดีอย่างเดียวอย่างคินทานาและโรดริเกซนั้นถึงจะพอทำห่างได้บ้างในทางขึ้นเขา แต่โดยรวมแล้วยังถือว่ามีอาวุธไม่ครบ คอนทาดอร์เองไม่ใช่นักปั่น TT ระดับเดียวกับฟรูมและวิกกินส์ อย่างไรก็ดีเขาเป็นนักกลยุทธ์ที่เก่งไม่แพ้ใครและเชื่อได้ว่าต้องหาแผนสารพัดอย่างมางัดกับทีม Sky ได้อย่างสูสี
อย่างไรก็ดี ถ้าการบาดเจ็บของฟรูมแสดงให้เห็นถึงจุดอ่อนของเขา สเตจถนนหินในตูร์ปีนี้อาจจะเป็นปัญหา และถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นเหมือนการแข่งครั้งนี้ การป้องกันแชมป์ตูร์อาจจะไม่ง่ายอย่างที่คิด
