รีวิวใน 20 รูป: Axman Hemera A7

Axman Hemera A7 เป็นจักรยานเสือหมอบของ Axman คันที่สามที่ Ducking Tiger ได้รีวิวครับ ก่อนหน้านี้เราทดสอบไปแล้วสองคัน Axman Typhoon S5 รถแอโร และ Axman Aiolos SL3 หมอบไต่เขาน้ำหนักเบาสายแข่งขันพันธ์แท้ ครั้งนี้กลับมาทดสอบเฟรมอลูมิเนียมรุ่นท็อปของแบรนด์ กับคอมพลีทไบค์ที่ราคาสามหมื่นต้นๆ เท่านั้น

ว่ากันตรงๆ เซกเมนท์จักรยานเสือหมอบในราคาสองหมื่นปลายถึงสามหมื่นต้นนั้นเปลี่ยนไปมากทีเดียวในช่วงสองปีที่ผ่านมาครับ กับการเข้ามาของจักรยานคาร์บอนราคาไม่แรง ซึ่งตอนนี้ก็มีหลายยี่ห้อที่แข่งขันกันทำตลาดสูงมาก ไม่ว่าจะเป็น Java, Tropix, Twitter, และ Sava หน้าใหม่ในวงการที่เปิดตัวปีนี้ มากับเงื่อนไขราคาที่น่ากลัวมาก เพราะแบรนด์เหล่านี้ให้จักรยานวัสดุคาร์บอนและอะไหล่ + ชุดขับเคลื่อนแบบไม่กั๊ก เป็น Shimano 105 หรือ SRAM Force 22 แบบเต็มชุด

พลวัตรนี้มันทำให้แบรนด์จักรยานที่มาก่อนต้องหนาวกันเลยทีเดียว เพราะนักปั่นหลายคนก็สนใจที่จะเลือกเฟรมคาร์บอนมากกว่า ในระดับราคาเดียวกันaxman-hamera-a7-review-1

Axman Hemera A7

สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่านรีวิว Axman ของ Ducking Tiger อาจจะไม่รู้จักแบรนด์นี้เท่าไร แต่จริงๆ Axman เป็นแบรนด์จักรยานที่มีชื่อเสียงพอตัวในไต้หวันครับ กับกำลังการผลิตที่เป็นน้องๆ แค่ Giant และ Merida เท่านั้น นอกจากจะผลิตจักรยานของตัวเองแล้วยังมีทีมวิจัยและพัฒนาออกแบบจักรยานให้แบรนด์ดังอีกหลายรายด้วย ตอนนี้ Axman เป็นสปอนเซอร์จักรยานให้กับทีมชาติหญิงไต้หวันและทีมอาชีพในระดับ continental ด้วย

Axman เพิ่งจะมาทำตลาดในไทยได้ราวๆ สองปี แต่ยังไม่เน้นการตลาดมากนัก จากที่คุยกับผู้นำเข้า ก็จะเน้นให้คนได้ลองปั่นแล้วแนะนำกันแบบปากต่อปากมากกว่า จากการทดสอบของ DT ที่ผ่านมาสองคันก็ต้องบอกว่าเป็นรถที่น่าพอใจและประสิทธิภาพไม่ได้ด้อยไปกว่าแบรนด์ยุโรปครับ

ในไลน์อัปของ Axman, Hemera A7 เป็นรุ่นสูงสุดในประเภทเสือหมอบอลูมิเนียม รุ่นรองลงมาและราคาถูกกว่าจะเป็น Hemera A5 และ A3 ซึ่งใช้ชุดขับรองลงมาเป็น Tiagra หรือ Sora ครับ ส่วน A7 ที่เราได้ทดสอบนั้นเป็นชุดขับ Shimano 105 11 Speed แบบฟูลเซ็ต ยกเว้นโซ่ที่ให้ของ KMC 11 Speed มา ค็อกพิทและหลักอานเป็นของ FSA รุ่น Gossamer อลูมิเนียม และผ้าพันแฮนด์ Stages ครับ

ชั่งน้ำหนักออกมาแล้วทั้งคัน (ไม่รวมบันได Speedplay) อยู่ที่ 9.32 กิโลกรัม

สำหรับรีวิวนี้เราจะเปลี่ยนรูปแบบจากรีวิวเก่าที่เราเคยทำมาเล็กน้อย จะลงรายละเอียดบรรยายตัวรถและประสิทธิภาพในแคปชันใต้รูปสไตล์ Photo Essay ครับ ทดสอบประมาณหนึ่งสัปดาห์ครับ

axman-hamera-a7-review-7
1. จุดเด่นของ Hemera A7 คือการให้ชุดขับ Shimano 105 Full set จานหน้าที่ให้มาเป็นจานคอมแพค 50-34
axman-hamera-a7-review-6
2. ตีนผี Shimano 105 แต่มากับขาจานแบบขายว (long cage) พร้อมเฟืองหลัง 11-32t เป็นเซ็ตอัปมาตรฐานของรถเริ่มต้นเลยก็ว่าได้ครับที่ให้จานคอมแพคและเฟือง 32 ก็เป็นการให้สเป็คที่เข้ากับกลุ่มตลาด เพราะคนที่ซื้อรถในราคาระดับนี้มักจะเป็นมือใหม่ ให้เฟืองที่ทดได้เยอะๆ ก็ช่วยให้ปั่นได้ทุกสภาพเส้นทาง จานคอมแพค เฟือง 32 นี่ขึ้นได้ทุกดอยในประเทศไทย ไม่ต้องเปลี่ยนเลย แต่ถ้าเน้นขี่ทางราบ ระยะเฟืองจะกระโดดสักหน่อยครับ
axman-hamera-a7-review-11
3. มือเกียร์ Shimano 105 11 Speed ที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี ผิดกับ Ultegra หรือ Dura-Ace, ชิมาโนเลือกที่จะไม่ลงลวดลายบริเวณมือเบรค (อลูมิเนียม) แต่มาเป็นสีรมดำ และมีโลโก้ 105 แค่ตรงยอดชิฟเตอร์เท่านั้น เรื่องการใช้งานนั้นก็หายห่วง ถ้าจูนดีๆ ฟีลลิ่งของชุดขับ 105 11 Speed นั้นนุ่มนวล แม่นยำเป็นน้องๆ Ultegra 6800 แค่นิดเดียว (นิดเดียวจริงๆ) เท่านั้น อาจจะขาดเรื่องความสมูทลื่นไหล ต่อเนื่องบ้าง เพราะไม่ได้ใช้แบริ่งคุณภาพดีและจำนวนมากเท่าในมือเกียร์ Ultegra ครับ แต่เทียบประสิทธิภาพต่อราคาแล้ว นี่คือชุดเกียร์ที่คุ้มค่าที่สุดในตลาดอย่างไม่ต้องสงสัย
axman-hamera-a7-review-9
4. ค็อกพิท FSA อลูมิเนียม: เป็นเซ็ตอัปมาตรฐานของเสือหมอบเริ่มต้น แฮนด์คอมแพค รูปทรงกะทัดรัดเหมาะกับมือใหม่ ดรอปไม่ลึก แต่แน่นอนว่าน้ำหนักก็มากพอตัว แต่อย่างน้อยก็ได้ความทนทานครับ สเต็มเป็นของ FSA วัสดุอลูมิเนียมเช่นกัน
axman-hamera-a7-review-15
5. หลักอาน FSA Goassamer เยื้องหลังและเบาะ San Marco Era รางอลูมิเนียม เบาะรูปทรงกลางๆ ที่นั่งไม่ได้เจ็บหรือสบายจนเกินไป แต่เรื่องเบาะนี่ตูดใครตูดมันครับ ถ้าโชคดีใช้ของติดรถได้ก็อาจจะไม่ต้องเปลี่ยน ทรงที่ให้มานี้ใกล้เคียงเบาะ Specialized Romin Evo ที่ DT ใช้ส่วนตัวนิดหน่อย ก็เลยปั่นได้ไม่มีปัญหาอะไร
axman-hamera-a7-review-13
6. ล้อ Axman R30 เอาจริงๆ แล้วไม่ได้มีความพิเศษอะไร เป็นล้อโรงงานติดรถมา DT ไม่ได้มีเวลาแกะดูกลไกข้างใน สเป็คผุ้ผลิตก็บอกว่าใช้ลูกปืน catridge bearing ตอนทดสอบต้องบอกว่าล้อนี้หนักมากครับ น้ำหนักโลปลาย ยังไม่รวมยางในและยางนอกซึ่งเป็น Continetal Ultra Sport หน้ากว้าง 25mm ตามเทรนด์สมัยใหม่ที่หันมาใช้ยางหน้ากว้างกันหมดแล้ว ก็ช่วยเรื่องความสบาย การเข้าโค้งและซับแรงสะเทือนได้ดีทีเดียว ในบรรดายางเริ่มต้น Ultrasport นี่ไว้ใจได้ในฐานะยางซ้อม ทนทานและหนึบดีครับ
axman-hamera-a7-review-12
7. ปีกดุมล้อค่อนข้างสูง (ดี) แต่แกนดุมเล็กไปหน่อย ลองเค้นระเบิดพลัง 800 วัตต์ จับบิดโยกเต็มที่ก็เห็นล้อออกอาการให้ตัวได้เล็กน้อย ถือว่าใช้ซ้อมหรือขับขี่ทั่วไปได้แต่ไม่ใช่จุดเด่นของรถคันนี้
axman-hamera-a7-review-14
8. Geometry: รุ่นที่เราทดสอบขนาด 48cm กับผู้ทดสอบส่วนสูง 165cm และอินซีม 76cm เทียบได้กับไซส์ XS ของแบรนด์อื่นๆ โดยประมาณ เฟรม Hemera A7 มีให้เลือก 4 ไซส์คือ 45, 48, 51 และ 54cm เช็ค Geometry ได้จากลิงก์นี้ พูดถึง Geometry แล้ว คันนี้ก็ทำออกมากลางๆ ไปทางรถแข่งครับ stack/ reach นั้นดุเอาเรื่อง ไซส์ 48cm อยู่ที่ 1.375 ยังไงก็ขี่สบายกว่า Typhoon และ Aiolos แต่ก็ยังเป็นรถที่มีกลิ่นอายความเป็นรถแข่ง ซึ่งตรงนี้ก็สะท้อนมาในประสิทธิภาพของเฟรมด้วย เชนสเตย์ค่อนข้างสั้น ทำให้ได้รถที่ขยับเข้าโค้งได้คล่องแคล่วดีทีเดียว
axman-hamera-a7-review-10
9. ผ้าพันแฮนด์ของ XTRM หนึบดีและทน ไม่นิ่มเท่าไร
axman-hamera-a7-review-18
10. Hemera A7 เป็นเฟรมอลูซ่อนสายทั้งสายเบรคและเกียร์ครับ จุดร้อยสายก็ลงรายละเอียดได้ดีทีเดียว ซ่อนสายช่วงหน้ารถบริเวณท่อล่าง (Down tube) ทางด้านซ้ายและขวาของส่วนบนของท่อ
axman-hamera-a7-review-17
11. กระโหลกไม่ได้ใหญ่โตอวบอัดเหมือนเฟรมคาร์บอน แต่เรื่องการส่งถ่ายแรงนั้นทำได้ดีมากครับ เฟรมอลูมิเนียมเริ่มต้นที่ผมชอบมากๆ Specialized Allez E5 ที่รู้สึกว่าพุ่งและสติฟมากในเกรดราคาประมาณ สอง-สามหมื่น Hemera A7 นี่บอกได้เลยว่าไม่แพ้ในเรื่องความพุ่ง ถ้าใครปั่นรถคาร์บอนดีๆ มาก่อนแน่นอนว่าจะเห็นจังหวะ “หน่วง” ในช่วงกดกระทืบ (ตีนต้น) แต่หลังจากนั้นรถก็ตอบสนองแรงได้ดีในทุกสโตรกของการปั่นนะ ไมพุ่งจู๊ดๆ เหมือนคาร์บอน แต่ก็ไม่ขี้เหร่เหมือนเฟรมอลูสมัยก่อนครับ ถ้าจะติดก็อยู่ที่น้ำหนักตัวรถนี่แหละที่ปาไปเก้าโลต้น ถ้าจับมาลดน้ำหนัก เปลี่ยนล้อเปลี่ยนอะไหล่นิดหน่อยก็น่าจะได้เฟรมอลูคุณภาพสูงพร้อมออกรอบกับเพื่อนทีเดียว
axman-hamera-a7-review-16
12. ดูใต้กระโหลกกันอีกมุม
axman-hamera-a7-review-2
13. มาดูส่วนหน้ารถกันบ้าง ตะเกียบที่ให้มาเป็นฟูลคาร์บอนครับ ซับแรงสะเทือนได้ดีตามประสาตะเกียบคาร์บอน ช่วงสายด้านหน้ามี barrel adjuster มาให้เพื่อความสะดวกในการปรับจูน จับเคเบิ้ลไทมามัดร้อยสายเกียร์/เบรคเข้าด้วยกันสักหน่อยก็น่าเรียบร้อยขึ้นครับ
axman-hamera-a7-review-5
14. สีสันไม่มีอะไรมาก ออกมาเรียบๆ เป็นเทา ดำ น้ำตาล ขาวตัดแซมกัน ออกมาลงตัวดีครับ
axman-hamera-a7-review-8
15. ชุดเบรค Shimano 105 5800 ให้แรงเบรคที่ดีระดับหนึ่ง น้ำหนักตัวมากสักหน่อย การเลียเบรคยังไม่ดีเท่ารุ่นพี่อย่าง Ultegra และ Dura-Ace ถ้าใครคิดจะลดน้ำหนัก เบรคน่าจะเป็นตัวแรกๆ ที่น่าเปลี่ยนครับ
axman-hamera-a7-review-3
16. Keep calm and ride on ลายกราฟฟิคบริเวณท่อนอนด้านบน ปี ’16-17 Axman ทำสโลแกนติดท่อ top tube ของจักรยานเกือบทุกรุ่น คำพูดก็จะต่างกันไปครับ
axman-hamera-a7-review-20
17. จุดเด่นที่สุดของ Hemera A7 น่าจะอยู่ตรงนี้หละครับ กับเรื่องการลบรอยเชื่อม ซึ่งทำออกมาได้เนี้ยบน่าชื่นชม ถ้าไม่นับตรงกระโหลกแล้วจุดเชื่อมอื่นๆ นั้นเรียบเนียนดูดีครับ และงานสีก็ดีมาก คันนี้เป็นสี gloss ดูมีราคาทีเดียว
axman-hamera-a7-review-21
18. บริเวณท่อคอแทบไม่เห็นรอยเชื่อม อ้อได้ท่อคอแบบ tapered ด้วยนะ
axman-hamera-a7-review-22
19. งานสีเชนสเตย์หลัง สวยดูดีครับ เชนสเตย์ไม่อวบไปไม่บางไป และไม่ยาวมากนัก แอบมีความซิ่งอยู่ในตัว handling คันนี้จะคมๆ ไวๆ สักหน่อยเพราะฐานล้อไม่ยาวมากครับ
20. ดูมุมข้างกัน
20. ดูมุมข้างกัน

 

สรุป

ด้วยราคาค่าตัว 33,600 บาท ชัดเจนว่า Axman ไม่ได้วางโพสิชันตัวเองในตลาดเพื่อชนกับจักรยานคาร์บอนรุ่นเริ่มต้นของแบรนด์เอเชียครับ Axman มองตัวเองเป็นแบรนด์ระดับเดียวหรือใกล้เคียงกับ Giant / Merida ไม่ใช่แบรนด์ที่เน้นขายรถราคาถูก แต่เจ้าตัวบอกว่าเป็นรถประสิทธิภาพดีในราคาที่สมเหตุสมผล ซึ่งตรงนี้ก็เห็นได้ตั้งแต่การวางราคาของเฟรมอย่าง Aiolos ที่ระดับแตะแปดหมื่น เทียบเท่ารถแบรนด์ยุโรป (ประสิทธิภาพก็ไม่ได้ด้อยกว่า แต่ถามว่าคุณให้คุณค่าของแบรนด์แต่ละแบรนด์เท่าไร? ตรงนี้แต่ละคนคงมีคำตอบในใจไม่เหมือนกัน)

ตอนรีวิวคันนี้ต้องบอกตามตรงว่าผมก็ลำบากใจเหมือนกัน เพราะราคาระยะนี้ หลายคนต้องเอาไปชนกับรถคาร์บอนแบรนด์เอเชียแน่ๆ บางคนอาจจะคิดว่าไม่คุ้มแน่ๆ ได้แค่อลูมิเนียม น้ำหนักก็ไม่เบา ถึงจะได้อะไหล่ครบๆ ก็ตาม

อย่างไรก็ดี pricing ของ Axman Hemera A7 ยังถือว่าคุ้มกว่าแบรนด์ยุโรปและอเมริกันพอสมควร เทียบกับอะไหล่และสเป็คที่ได้ครับ

ถ้าไม่นับเรื่องราคา ว่ากันด้วยประสิทธิภาพล้วนๆ DT สรุปได้ว่า Hemera A7 เป็นเฟรมอลูมิเนียมประสิทธิภาพสูง มีคาแรคเตอร์การปั่นที่ออกไปในสไตล์รถแข่งมากกว่ารถขี่สบาย ด้วย geometry ที่ซิ่งใช้ได้ คล่องตัว เข้าโค้งคม อาจจะขาดซึ่งความสติฟ ความแน่น ความพุ่ง ของเฟรมคา์รบอนนระดับพรีเมียม แต่ถ้าเอามาชนกับเฟรมอลูตัวอื่นๆ ในตลาดระดับราคาเดียวกันแล้ว ไม่แพ้แน่นอนครับ อาจจะมีบางจุดที่ด้อยกว่าเฟรมอย่าง Cannondale CAAD12, Specialized S-Works Allez, หรือ BMC ALR01 แต่พวกนั้นก็ราคากระโดดไปเยอะเหมือนกัน

รูปร่างหน้าตา สีสันออกมาเรียบๆ คลาสสิค แต่งานสีดีละเอียดครับ

สิ่งที่ติอยู่ที่น้ำหนักตัวรถ แต่หลักๆ มันมาจากล้อที่หนักมาก ถ้ารถจะไม่พุ่งก็ติดตรงล้อนี่แหละ แล้วก็แบรนด์ Axman เองที่ยังดูกลางๆ ไม่ติดตลาดเท่าไร ถ้าคุณแคร์เรื่องภาพลักษณ์ด้วยก็ต้องพิจารณา แต่ถ้าดูกันที่ประสิทธิภาพล้วนๆ แล้วเป็นอีกคันที่น่าลองคร่อมก่อนตัดสินใจครับ

9/10

ขอบคุณ SPK Bike Shop สำหรับจักรยานทดสอบ

ตัวแทนจำหน่าย: บริษัท Savox Thailand
ราคา (completed bike): 33,600 บาท
Website: http://www.asiasportsgear.com/
Facebook: Axman Thailand

* * *

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *