วันนี้ผมได้อ่านบทความดีๆ จากช่างภาพ Iri Greko ประจำเอเจนซี่ Breakthrough Media ซึ่งเป็นเอเจนซี่ที่เก็บภาพสวยๆ ให้ Velonews และผู้จัดแข่ง Giro d’Italia อยู่ประจำครับ Iri เขียนบล๊อกเกี่ยวกับความลังเลในการเก็บภาพนักปั่นที่ประสบอุบัติเหตุ ซึ่งเธอถ่ายทอดเรื่องราวได้ดีมาก (และภาพประกอบก็สวยมาก) ใครที่เป็นช่างภาพน่าจะพอเข้าใจความรู้สึก
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นใน Tour de France เสตจ 18 ที่ Jack Bauer นักปั่นจากทีม Garmin-Sharp ประสบอุบัติเหตุ ล้มจนหน้าฟาดพื้น Iri มีเวลาแค่เสี้ยววินาทีเดียวที่จะกระโดดลงจากรถมอเตอร์ไซค์เพื่อไปเก็บภาพ แต่เธอก็ลังเลว่าควรจะเข้าไปใกล้ขนาดไหน และไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกยังไงดี ในมุมหนึ่งช่างภาพก็ต้องทำหน้าที่เก็บภาพสถานการณ์สำคัญ แต่อีกมุมหนึ่ง ความเป็นมนุษย์มันบอกว่า การเข้าไปเก็บภาพใกล้ๆ ผู้ประสบอุบัติเหตุ มันก็เหมือนกับแร้งที่รุมทึ้งเหยื่อโดยไม่มีความปรานี เมื่อถ่ายภาพเสร็จ Greko น้ำตาคลอเบ้าด้วยความตื้นตันและความขัดแย้งระหว่างหน้าที่ช่างภาพและความเป็นมนุษย์ ผมจะไม่แปลนะครับ อยากให้ไปอ่านกันเอง กินใจและน่าประทับใจมากๆ
As I make haste to grab the two most reasonable lenses I could use, the question I ask myself isshould I regret that single millisecond of hesitation… or should I honor it? An inquiry that clearly plagues me still….
I start taking photos before I know what’s happened, as I’m thinking what happened? how bad is it… is his leg broken… his jaw…will he be ok? These are jumbled thoughts, half-thoughts, that flutter in my periphery and try to make themselves invisible. They have little place here, in this moment, or rather purpose. I’m here to do my job, like everyone else.
Some of the other photographers move in much closer than I do, and without judgment, I think: ‘that’s so close, is it too close, should I get that close?’ What is the fine line between doing your job, documenting the moment, and… invasion? How can you know if you’ve violated an unspoken space around the rider and those helping him? Am I a vulture?
อ่านบล๊อกของ Iri ได้ใน My Mind’s Eye, จากเว็บ Breakthrough Media (photo courtesy of Breakthrough Media)
http://webboard.sanook.com/forum/?topic=3114043
ทุกอย่างมันเกิดขึ้นชั่ววินาทีครับ สัญชาติญาณของช่างภาพในตัวมันจะบอกเองว่าจะทำอย่างไร ช่วงที่ยังเรียนมหาลัยผมเป็นช่างภาพภาควิชาเห็นทุกอย่างผ่านเลนส์ คนทะเลาะกัน เป็นลม เจ็บป่วยระหว่างทำงาน โรงพยาบาล ความสำเร็จหรือเรื่องเศร้าต่าง ผมก็ยังคิดอยู่เลยว่าบางทีตัวเอง “ใจสุนัข” ไปหรือเปล่าที่ยืนดูยืนถ่ายเหตุการณ์เหล่านั้นก่อนแล้วค่อยเข้าไปจัดการหรืออะไรก็แล้วแต่ หรือช่วงเวลาที่คุณต้องทำตัวอย่างไรเพื่อไม่ให้ตัวเองเข้าไปพัวพันในสถานการณ์หรือทำให้สถานการณ์เปลี่ยน ผมยังจำช่วงเวลาที่ถ่าย มิลิทาลีซิมูเลชั่นหรือ มิลล์ซิมของคนเล่นบีบีกัน…ผมกำลังเดินในป่าแล้วเพื่อที่จะไปหากลุ่มกองกำลังอิสระมีทหารกลุ่มหนึ่งแอบตามผมมาซักระยะเพราะ “รู้” ว่าผมช่างภาพกำลังจะไปไหน หาใคร ทางไหน เมื่อถึงกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มที่ตามมาก็ยังตามมาอยู่ผมจึงแอบกระซิบผ่านๆ ให้รู้ตัวแบบเนียนๆ…ถ้าผมไม่ได้บอกไปว่ามีคนตามผมมาสถานการณ์จะเสียเปรียบเพราะผมหรือไม่? หรือไม่เสียเปรียบอะไรเลย? ทั้งหมวดจะละลายหรือเปล่า รูปเหมที่กองกำลังอิสระอุตส่าสร้างมาจะมาพังเพราะผมหรือไม่…สุดท้าย…คนที่ได้คือผมที่รอถ่ายภาพการปะทะกันด้วยกระสุนบีบีกันอย่างสบายใจเฉิบ….