หลายครั้งที่เราชมการสปรินต์หน้าเส้นชัยของนักปั่นอาชีพ
ชนะกันแค่ขอบล้อ แค่เสี้ยวมิลลิเมตรเท่านั้น
มิลลิเมตรเดียวที่แบ่งแยกความเป็นผู้ชนะและผู้แพ้อันดับหนึ่ง
สองปีที่ทีผ่านมามีสปรินเตอร์คนนึงที่มีท่าสปรินต์พิลึกกว่าใครๆ ก้มต่ำจนคางเกยแฮนด์ ลำตัวโยกมาหน้ารถเป็นระนาบเดียวกับจักรยาน จนเราคิดว่าล้อหลังมันจะยกมั้ย แล้วจะคว่ำหรือเปล่า! ต่างกับพาวเวอร์สปรินเตอร์ร่างยักษ์เช่น มาร์เซล คิทเทล และอังเดร ไกรเปิลที่ใช้พละกำลังนำแอโรไดนามิก
บ้างก็ว่าเป็นท่าที่มิโดสึจิจากมังงะโอตาคุปั่นสะท้านโลกได้เป็นแรงบันดาลใจ มันคือท่าสปรินต์ของ คาเล็บ ยวน สปรินเตอร์จากทีม Mitchelton-Scott วัย 23 ปี
แต่ไม่ใช่ท่าที่ทำเล่นๆ เพราะมันทำให้เขาชนะได้จริง กว่า 30 ชัยชนะในเวลาแค่ 3 ปีรวมถึงแชมป์สเตจใน Tour de France และ Vuelta คาเล็บ ยวนให้สัมภาษณ์กับ Ride Magazine จากออสเตรเลีย ว่า:
“มันเริ่มจากตอนที่ผมไปทดสอบท่าปั่นในอุโมงค์ลมของมหาวิทยาลัย Monash กับทีมเมื่อสามปีก่อน ผมรู้ว่าท่านี้ทำให้สปรินต์ได้ความเร็วสูงสุด แต่ผมก็ไม่เคยเอาไปฝึกเลย จนประมาณปี 2015 ที่ผมเริ่มเกาะล้อคู่แข่งไม่ได้ หรือบางทีเปิดสปรินต์แล้วแรงตกก่อนถึงเส้นชัย”
“ผมไม่อยากแพ้ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้ยืนระยะได้ถึงหน้าเส้น เพราะความจริงคือผมเร็วกว่าคู่แข่งหลายๆ คน ก็เลยลองเอาท่าที่เคยทำในอุโมงค์ลมมาใช้ แล้วมีสนามนึงที่ผมเปิดสปรินต์ตีคู่กับแพททริค เบวาน พอผมก้มต่ำลง เขาขึ้นมาแซงผมไม่ได้เหมือนแต่ก่อนแล้ว ผมยืนระยะได้”
“จากนั้นแหละผมเลยรู้ว่า แอโรไดนามิกมันมีผลกับการสปรินต์ขนาดไหน ผมเลยเริ่มฝึกสปรินต์ท่านั้นตลอดแล้วลองเอาไปใช้แข่งครับ คือเอาจริงๆ ทุกคนก็รู้แหละว่าถ้าคุณสปรินต์ในท่าที่แอโรแบบนี้ มันเร็วกว่ายืนโยกสปรินต์แบบที่สปรินเตอร์ส่วนใหญ่ทำกัน แต่เราไม่รู้ว่ามันได้เปรียบขนาดไหนจนเราไปทดลองในอุโมงค์ลม”
“แต่มันก็มีข้อเสีย เป็นท่าที่อันตรายครับ หน้าคุณอยู่ใกล้ล้อหน้ามาก ยากที่จะบาลานซ์ตัวเอง แล้วเวลาคุณเลื่อนตัวไปหน้ารถแบบนั้นมันยากที่จะออกแรงกดบันได เวลาแข่งจริงผมรู้สึกตลอดว่าต้องยืนขึ้นโยกเพื่อให้ได้วัตต์เยอะๆ แต่ก็รู้ว่ามันจะทำให้เสียความลู่ลม ต้องชั่งใจตลอดว่าจะยืนโยกให้ได้วัตต์หรือก้มลงให้เร็วขึ้น”
“บางทีคนเห็นท่าสปรินต์ผมแล้วกลัวว่าจะพาคนอื่นคว่ำ แต่จริงๆ มันรู้สึกมั่นคงและปลอดภัยกว่าที่เห็นในวิดีโอนะ”
ถ้าว่ากันตามจริงยวนก็ไม่ใช่คนแรกที่สปรินต์ด้วยท่านี้ มาร์ค คาเวนดิช (Dimension Data) เป็นสปรินเตอร์ที่สปรินต์ด้วยท่าก้มต่ำมานานแล้ว เพียงแค่ไม่ต่ำเท่ายวน คาเวนดิชเคยให้สัมภาษณ์ว่า ด้วยที่เขาตัวเล็กและน้ำหนักน้อยกว่าสปรินเตอร์คนอื่น มันยากที่จะสู้กันด้วยวัตต์ต่อวัตต์ โดยเฉพาะถ้าต้องขย่มรถวัดแรงกันแบบ 1:1 แต่เขาอาศัยอัตราเร่งที่สูงกว่า บวกกับท่าสปรินต์ที่ลู่ลมกว่าชิงความได้เปรียบจนกลายเป็นท่าไม้ตายที่ใช้เก็บแชมป์มาร่วมร้อยสนาม
แล้วเมื่อถามว่าใครๆ ก็เกิดมาเป็นสปรินเตอร์ได้หรือเปล่า เขาตอบ
“กรรมพันธ์ุมีผลมากนะ ต้องมีทั้งทักษะที่ดีและมีกล้ามเนื้อกลุ่ม fast twitch เยอะ คือคุณคงไม่มีทางเห็นไนโร คินทานาสปรินต์ชนะสักสนามอะ ไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหนก็ตาม อีกครึ่งคือการฝึกซ้อมครับ ไม่มีใครกระโดดขึ้นจักรยานแล้วสปรินต์เป็นหรอก หลายคนเข้าใจว่าแรงเยอะก็สปรินต์ได้แล้ว แต่ไม่ใช่นะ มันต้องฝึกเทคนิคกันหลายปี ให้ชินกับท่าปั่นของตัวเอง จังหวะการออกแรง จนกว่าจะใช้แข่งได้ชนะ”
ถอดความจากบทสัมภาษณ์:
