Campagnolo อาจจะไม่ได้ขึ้นชื่อเรื่องเทคโนโลยีแอโรไดนามิกในล้อคาร์บอนไฟเบอร์ในแบบที่แบรนด์ดังจาก อเมริกาอย่าง Zipp หรือ Enve หรือ HED แต่กระนั้นก็ยังเป็นล้อที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก
ตั้งแต่เปิดตัวมาในปี 1993 Bora คือล้อเสือหมอบขอบสูงคู่แรกของโลกที่อยู่มาถึง 25 ปีแล้ว ไว้ใจได้ทั้งเรื่องความทนทาน ความลื่นไหล ล้อในตระกูล Bora ก็ได้รับการพัฒนาต่อเนื่องมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นขอบเบรคแบบใหม่, ทำล้อทรงขอบอ้วน รองรับดิสก์เบรคเป็นต้น แต่สิ่งหนึ่งที่ Bora ไม่เคยเคลมก็คือผลการทดสอบในอุโมงค์ลม..จนถึงวันนี้
วันเดียวกับที่ Campagnolo เปิดตัวชุดขับ 12 Speed ค่ายอิตาเลียนเปิดตัวล้อคาร์บอนรุ่นใหม่ด้วยในชื่อ Bora WTO (Wind Tunnel Optimized) ได้รับการปรับจูนในอุโมงค์ลม ซึ่งทาง Campy เคลมว่าเป็นล้อที่เร็วที่สุดในระดับความสูงนี้ (60 และ 77mm)
โปรดักต์ใหม่ที่ออกมาเป็นล้อ Bora WTO 60 และ 77mm พร้อมรูปทรงขอบล้อ ดุม และซี่ล้อ ที่เปลี่ยนจาก Bora One/ Bora Ultra รายละเอียดเป็นยังไงบ้างลองมาดูกัน
ถึงจะเป็นรูปทรงขอบล้อใหม่ แต่ล้อ Bora WTO ก็ใช้เทคโนโลยีหลายๆ อย่างที่มีใน Bora One/ Ultra ไม่ว่าจะเป็นการบาลานซ์น้ำหนักล้อให้เท่ากันทั้งวง, ขอบเบรค AC3, ลูกปืนเซรามิก CULT และ USB, ขอบล้อที่ไม่ผ่านการเจาะรูเพื่อร้อยซี่ที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรง และการขึ้นซี่ล้อแบบ G3
ในด้านรูปทรงนั้น Campagnolo ใช้ทรง NACA แต่ปรับให้ขอบบนและล่างให้กว้างขึ้นเพื่อรองรับยางหน้ากว้างตามสมัยนิยม ต่างกับล้อ Bora ONE/ Ultra ที่เป็นทรง V-Shape
นอกจากนี้ยังเป็นล้อคาร์บอนของ Campagnolo รุ่นแรกที่รองรับยางทิวบ์เลสอย่างเป็นทางการด้วย
ที่น่าสนใจคือ Campagnolo Bora WTO จะไม่มีรุ่นที่ใช้ยาง Tubular ให้เลือก Campy กล่าวว่า ยาง Tubular นั้นช้าที่สุด มีค่าสัมประสิทธิ์ความเสียดทาน (Rolling resistance) แย่กว่ายางงัด (Clincher) และยางทิวบ์เลสอย่างเห็นได้ชัด
จากผลการทดลองของ Campagnolo ที่ทดจำลองการปั่นที่ความเร็ว 40kph โดยนักปั่น+จักรยานหนัก 87kg พบว่ายางทิวบ์เลสใช้แรง 25 วัตต์ ในขณะที่ยางงัดใช้ 28 วัตต์ และยาง tubular ใช้แรง 30 วัตต์
Aero Testing
โจทย์ของ Campagnolo สำหรับล้อ WTO คือล้อขอบสูงที่เน้นทำความเร็วทางราบโดยเฉพาะ โดยจะยังคงล้อ ในไลน์ Bora One/ Ultra ไว้ ไม่ได้อัปเดตให้ใช้รูปทรงเดียวกันกับ WTO
ครั้งนี้ Campagnolo นำล้อไปทดสอบในอุโมงค์ลม Politecnico ในกรุงมิลาน ซึ่งเขาอ้างว่าล้อ Bora WTO 60 และ WTO 77 เร็วที่สุดเมื่อเทียบกับคู่แข่งในระดับความสูงขอบล้อเดียวกัน
ภาพข้างบนแสดงการไหลของลมผ่านล้อ Bora WTO โดยมองจากมุมบน (cross section) ที่องศาลมปะทะ 0, 10 และ 20 องศา
ส่วนกราฟข้างล่างนี้โชว์แรงที่ใช้ (วัตต์) ในการปั่นที่ความเร็ว 45 kph ในมุมลมปะทะจาก -20 ถึง 20 องศา (เส้นที่อยู่ต่ำกว่าหมายความว่าใช้แรงน้อยกว่า)
เส้นสีดำ = Bora 77 WTO, เส้นสีแดง = Zipp 808 NSW และเส้นสีเขียวคือล้อสามก้าน HED H3 Plus
กราฟโชว์ว่าล้อ Bora 77 WTO กินแรงน้อยกว่า Zipp 808 NSW ที่ทุกองศาลมปะทะ เร็วกว่า HED H3 เวลาเจอลมข้าง แต่ช้ากว่าที่มุมปะทะแคบๆ ตั้งแต่ -10 ถึง 10 องศา
รองรับยางกว้าง 25-28mm
อะไรช่วยให้ล้อ Bora WTO เร็วขึ้น? รูปทรงขอบล้อใหม่กว้างและออกแบบให้รองรับยางหน้ากว้าง 25mm หรือ 28mm เป็นมาตรฐาน ซึ่งทรงขอบล้อและยางแนบสัมผัสจนได้หน้าตัดที่สมูทกว่าใน Bora One/ Ultra ขอบล้อด้านในกว้างถึง 19mm และด้านนอกกว้างสุด 26.5mm ที่ขอบเบรค
ดุมและซี่ล้อแอโร
นอกจากจะออกแบบขอบล้อให้ลู่ลมขึ้นแล้ว Campagnolo ยังปรับดุมและซี่ลวดใหม่ด้วย ดุมใหม่เป็นทรงนาฬิกาทราย วัสดุเป็นอลูมิเนียม ขึ้นซี่แบบ straight pull ดุมนี้ใช้ได้กับทั้ง 11/12 speed
ส่วนซี่ล้อก็ปรับรูปทรงใหม่เช่นกัน เป็นทรงเพชรซึ่ง Campy อ้างว่าสู้ลมได้ดีกว่าในหลายๆ องศา ไม่ใช่แค่ซี่ล้อทรงแหลมเหมือนแต่ก่อน ซี่ทำจากสเตนเลส
มีรุ่นไหนบ้าง?
BORA 60 WTO Tubeless
BORA 60 WTO ขอบสูง 60mm ความสูงเท่ากันทั้งด้านหน้าและหลัง ดุมมากับลูกปืน USB เซรามิก ล้อหน้าหนัก 670 กรัม ล้อหลัง 880 กรัม รวมคู่ละ 1,550 กรัม ซึ่งถือว่าเบาใช้ได้กับล้อความสูงระดับนี้
BORA 77 WTO Tubeless
Bora 77 WTO ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อขายเป็นคู่เหมือน Bora 60 WTO แต่ตั้งใจให้ใช้เป็นล้อหน้าในเซ็ตอัปรถ Time Trial นั่นหมายความว่ามีแต่ล้อหน้าให้ซื้อเท่านั้น มาแทนที่ล้อ Bora Ultra 80สิ่งที่ต่างจาก Bora 60 WTO คือดุมล้อ Bora 77 มากับลูกปืนเซรามิก CULT ซึ่งเกรดสูงกว่า USB น้ำหนักรวม 745 กรัม และ Campagnolo แพลนว่าในอนาคตจะมีเวอร์ชันที่ใช้ดุมคาร์บอนที่เบากว่านี้ด้วย
วางจำหน่ายเมื่อไร?
วางตลาดช่วงฤดูร้อนปี 2018 แต่เข้าไทยเมื่อไรนั้นคงต้องติดต่อตัวแทนจำหน่ายครับ ราคายังไม่ระบุ
