หายใจไม่ทัน…น่าจะเป็นอาการที่บรรยายสนามแข่ง Tour of Flanders เมื่อวานนี้ได้ดีที่สุดครับ นานมากแล้วที่เราไม่ได้ชมการแข่งที่ทั้งเคี่ยวและข้นขนาดนี้ หนักแน่นเต็มไปด้วยการโจมตีและ counter-attack ทั้งจะสงครามจิตวิทยาระหว่างตัวเต็ง จบด้วยการสปรินต์ของผู้กล้าทั้ง 4 คน รวมเป็น Tour of Flanders ที่ดีที่สุดในรอบหลายปี

Fabian Cancellara คว้าแชมป์รายการได้เป็นสมัยที่ 3 ที่เขาชนะอาจจะไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจสำหรับแฟนๆ จักรยาน ทุกคนรู้ดีว่า Cancellara แกร่งกว่าใคร แต่ “วิธี” ที่เขาได้มาซึ่งชัยชนะเชื่อว่าไม่ใช่อะไรที่เราจะได้เห็นกันบ่อยๆ สองครั้งก่อนที่เขาคว้าแชมป์รายการนี้ Fabian หนีเดี่ยวทิ้งห่างคู่ต่อสู้แบบขาดลอย แต่ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ท่าไม้ตายลุยเดี่ยวแบบไม่มีใครตามได้กลับเริ่มไม่ได้ผล คู่แข่งเริ่มแกร่งขึ้น เริ่มตามทันและกลับมาเฉือน Fabian ได้ถึงหน้าเส้นชัยหลายต่อหลายครั้งไม่ว่าจะเป็นที่ Milan-Sanremo, Flanders ปี 2011 และ Roubaix ปีเดียวกัน เขารู้ดีว่าตัวเองมีกำลังเหลือเฟือแต่การต้องเอาชนะเพียวสปรินเตอร์จริงๆ ในช่วง 100 เมตรสุดท้ายไม่ใช่เรื่องง่าย เรามาดูกันว่าเกิดอะไรขึ้นใน Flanders ปีนี้และ Fabian คว้าแชมป์รายการจากคู่แข่งฟอร์มดีที่อายุน้อยกว่าร่วม 10 ปีได้อย่างไร

ยกที่ 1: Van Avermaet โจมตีบนไทเอนเบิร์ก

ที่ 37 กิโลเมตรสุดท้าย Greg Van Avermaet (BMC) ออกหนีกลุ่มตัวเต็งบนเนินไทเอนเบิร์กไล่จับ breakaway ข้างหน้าที่ประกอบไปด้วยนักปั่นจาก Sky, Trek, OPQSและ Giant ทันทีที่จับได้ Van Avermaet หนีต่อทันทีแต่ก็โดน Stijn Vandenbergh ไล่ประกบ ทั้งสองออกหนีจนกลายเป็นเบรคอเวย์ที่รอดไปได้จนเกือบถึงเส้นชัย ปัญหาคือ Vandenbergh ไม่ยอมช่วยผลัดขึ้นนำ เพราะเขารู้ว่า Van Avermaet สปรินต์ได้ดีกว่า ถ้าขึ้นช่วยก็อาจจะเสียท่าให้ที่หน้าเส้น GVA ก็รู้ว่า Vandenbegh คิดอะไร ไม่มีเหตุผลที่ต้องร้องขอความช่วยเหลือ

ยกที่ 2: OPQS เดินเกมพลาด

ข้างหลัง GVA และ Vandenbergh คือกลุ่ม peloton ที่ตัวเต็งอยู่กันครบ OPQS มีนักปั่นถึง 5 คน Boonen, Terpstra, Stybar ตัวเต็งของทีมและผู้ช่วยอีกสอง การที่ Vandenbergh อยู่ในกลุ่มหนีหมายความว่าทีมไม่ต้องไล่จับ บังคับให้ Cancellara และ Sagan ต้องออกทำงานโดยปริยาย แต่แผนนี้ได้ผลจริงหรือ?

เมื่อ OPQS ไม่ช่วยไล่จับและตัวเต็งคนอื่นเกี่ยงกัน กลุ่มหลังที่มี Luca Paolini และสปรินเตอร์ฝีเท้าดีอีกหลายคนก็ไล่จับกลุ่มตัวเต็งได้ทัน เมื่อกลุ่มใหญ่เข้าสู่ตีนเนิน Kwaremont ซึ่งอยู่ห่างเส้นชัยไปไม่ถึง 25 กิโลเมตร Cancellara อาศัยจุดที่ชันที่สุดระเบิดพลังทิ้งกลุ่มมีเพียงแค่ Sep Vanmarke จาก Belkin ที่พอจะตามมาได้ Trek รู้ว่าเนิน Kwaremont คือจุดออ่อนของ Sagan แต่ขณะเดียวกัน OPQS กับตัวเต็ง 3 คนก็ไม่สามารถไล่ตาม Cancellara ได้เช่นกัน

ขึ้นสู่เนิน Paterberg อุปสรรคสุดท้ายของวัน Van Avermaet สลัด Vandenbergh จนหลุด โชคยังเข้าข้างเพราะ Cancellara และ Vanmarke ไล่มาจนทัน พกเอา Vandenbergh เข้ากลุ่มไปด้วย ทั้ง 4 คนกลายเป็นเบรคอเวย์สุดท้ายของวันที่จะเข้าเส้นชัยก่อนคนอื่น ระยะทางเหลืออีก 10 กิโลเมตร OPQS หมดแรงจะไล่ตาม Alexander Kristoff แชมป์ San Remo พยายามหนีมาเกาะกลุ่มหน้าแต่ก็หมดแรงกลางทาง.

เกิดอะไรขึ้นที่หน้าเส้นชัย?

เส้นชัยห่างออกไปเพียง 1000 เมตร ตัวเต็งเหลือแค่ 4 คน เป็นเหมือนเกมโปกเกอร์ที่ใครยอมแบไต๋ก่อนก็พ่ายได้ทันที ทั้ง 4 เทสต์แรงกกันเป็นครั้งคราว แต่ต่างรู้ว่าไม่มีใครจะหนีใครได้หลุดแน่นอนถึง 500 เมตรหน้าเส้นชัย ต้องมีใครเริ่มทำอะไรสักอย่าง… Vandenbergh คนที่ช้าที่สุดในกลุ่มยอมเปิดเกมเป็นคนแรก แต่โดนมาร์กโดย GVA ทันที Vanmarke ไล่ปิดระยะลากเอา Cancellara มาด้วย เข้าสู่ 300 เมตรสุดท้ายทั้ง 4 ยังอยู่ด้วยกัน วันนี้ต้องจบด้วยการสปรินต์

Van Avermaet — สปรินต์ได้ดีที่สุดในกลุ่ม แต่หมดแรงจากการหนีมาร่วม 30 กิโลเมตร ตำแหน่งแย่เพราะอยู่หน้าสุดของกลุ่มใครจะแซงออกไปเขามองไม่เห็นแน่นอน

Sep Vanmarke — เร็ว แต่ไม่เท่า GVA อยู่ทางซ้ายของ GVA ตำแหน่งดี แต่…

Fabian Cancellara — อยู่หลังสุดและซ้ายสุด ด้านนอกสุด ตำแหน่งที่ดีที่สุดในการสปรินต์

Sijn Vandenbergh — หมดสิทธิด้วยประการทั้งปวงโดนปิดประกบติดบาริเออร์ขอบสนาม

ด้วยแรงช้างสารและความใจเย็นแบบหาตัวจับยาก Cancellara รอจนจังหวะสุดท้าย เดินเครื่องสปรินต์ ไม่มีใครตามทัน ครองแชมป์เป็นสมัยที่ 3

Van Avermaet สปรินต์ได้ดีกว่าคนอื่นเข้ามาเป็นที่ 2 ส่วน Sep Vanmarke ปิดท้ายโพเดียมเป็นอันดับ 3

อีกครั้งที่ BMC พลาด และ Sep Vanmarke ต้องเจอประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเหมือนใน Paris-Roubaix 2013 แชมป์รายการ Cacnellara แสดงความแกร่งทั้งทางกายภาพและจิตใจและความเด็ดเดี่ยวกล้าเดิมพันด้วยการสปรินต์ทั้งๆ ที่เขารู้ดีว่าผลลัพธ์อาจจะหมายถึงความพ่ายแพ้

ทิ้งท้าย

คงไม่เกินเลยถ้าเราจะเรียก Tour of Flanders ว่าเป็นสนามแข่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดในฤดูกาล เดิมพันและความกดดันของนักปั่นถ่ายทอดออกมาให้เราเห็นได้ในทุกกิโลเมตรของการแข่งขัน แทบไม่มีจุดไหนที่ไม่มีการโจมตีผลัดรุกรับ ไหนจะแทคติคการแข่งซับซ้อนหาชมได้ยากในรายการสเตจเรซ เป็นอีกครั้งที่ Sagan โดนเชือดสังหารบนเนิน Kwaremont เหมือนปีก่อนและ OPQS แพ้ภัยความแกร่งของทีมตัวเอง ไม่รวมตัวเต็งที่ล้มบาดเจ็บอย่าง Stijn Devolder (Trek), Jurgen Roelandts (Lotto) และ Johan Vansummeren (Garmin-Sharp)

ความไม่แน่นอนของการแข่งวันเดียวไม่เคยสะท้อนออกมาได้เด่นชัดเท่าใน Tour of Flanders ปีนี้ ว่ากันว่าถ้าใครอยากรู้ว่าการแข่งจักรยานของจริงเป็นยังไง อย่าเริ่มด้วย Tour de France แต่ให้เริ่มด้วยสนามแข่งวันเดียวอย่าง Tour of Flanders เป็นคำกล่าวที่ผมคิดว่าไม่เกินจริงเลย

10/10

[separator type=”thin”]

วิดีโอไฮไลท์ชั่วโมงสุดท้ายของการแข่ง

Top 10

1 Fabian Cancellara (Swi) Trek Factory Racing 6:15:18
2 Greg Van Avermaet (Bel) BMC Racing Team
3 Sep Vanmarcke (Bel) Belkin Pro Cycling Team
4 Stijn Vandenbergh (Bel) Omega Pharma – Quick-Step
5 Alexander Kristoff (Nor) Team Katusha @8 seconds
6 Niki Terpstra (Ned) Omega Pharma – Quick-Step @18s
7 Tom Boonen (Bel) Omega Pharma – Quick-Step @35s
8 Geraint Thomas (GBr) Team Sky @37s
9 Björn Leukemans (Bel) Wanty – Groupe Gobert @41s
10 Sebastian Langeveld (Ned) Garmin Sharp @43s