เมื่อวานนี้ Cannondale เปิดตัวเสือหมอบไฟฟ้าที่หน้าตาดูแล้วไม่ต่างจากเสือหมอบธรรมดาๆ เลย ในรุ่น Cannondale SuperSix EVO Neo โดยใช้ดีไซน์เดียวกับ Cannondale Super Six EVO ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อกลางปีทั้งหมด
เป็นเสือหมอบที่มีดีไซน์แอโรไดนามิก ซ่อนสายเบรกและเกียร์ทั้งคัน ในรุ่นท็อปมากับระบบไฮดรอลิกดิสก์เบรกและชุดขับเคลื่อน Shimano Dura-Ace Di2 9170 น้ำหนักทั้งคัน 11.3 กิโลกรัมในไซส์ L
SuperSix EVO NEO เป็นเสือหมอบไฟฟ้าคันแรกที่มากับชุดแฮนด์และสเต็มแบบ integrate ที่ซ่อนสายเบรกและเกียร์ ที่ช่วยเรื่องแอโรไดนามิก และเป็นดีไซน์แบบสองชิ้นนั่นคือแยกตัวสเต็มและแฮนด์ได้
Cannondale เคลมว่ารูปทรงท่อใหม่ใน SuperSix EVO ช่วยประหยัดแรงได้ 30% เมื่อเทียบกับจักรยานที่เป็นท่อทรงกลมธรรมดาๆ
Cannondale ซ่อนตัวแบตเตอรีไว้ในท่อล่าง
ส่วนระบบมอเตอร์อยู่ในดุมล้อหลัง เป็นแบบเดียวกับที่ใช้ในจักรยาน Colnago E64, Wilier Cento 10 Hybrid และ Orbea Gain ถ้าไม่นับดุมล้อหลังที่ใหญ่เป็นพิเศษแล้ว ดีไซน์อื่นๆ ก็เหมือนกับ SuperSix EVO ทั้งหมด
Cannondale กล่าวว่ารถบบมอเตอร์และแบตเตอรีทั้งหมดหนักเพียง 3.5 กิโลกรัม
ด้านบนของท่อนอนมีปุ่มควบคุมที่ใช้เปิด/ปิด การทำงานของมอเตอร์พร้อมไฟสถานะบอกระดับแบตเตอรีที่เหลืออยู่
ที่มอเตอร์ตรงดุมล้อ ติดตั้งสมาร์ทเซนเซอร์ที่ใช้บอกความเร็ว ระยะทางมาให้เลยโดยเป็นเซนเซอร์ที่ออกแบบโดย Garmin และใช้งานร่วมกับแอปของ Cannondale ผู้ใช้สามารถตั้งค่าต่างๆ เช่นให้แจ้งเตือนว่าถ้าปั่นครบกิโลเมตรเท่านี้แล้วก็ถึงเวลานำรถไปเซอร์วิส
แบตเตอรีส่งพลังได้ 250 วัตต์ หรือใช้งานได้ประมาณ 75 กิโลเมตร แต่ผู้ใช้สามารถซื้อแบตเตอรีเสริมที่ติดตั้งบริเวณขากระติกหลังได้ ช่วยเพิ่มแบตเตอรีให้ 208Wh (แบตเตอรีหลักให้พลังงาน 250Wh) แบตเตอรีสำรองนี้หนัก 1.64 kg
แน่นอนว่าความเร็วที่ใช้งานได้นั้นขึ้นอยู่กับกฏหมายของแต่ละพื้นที่ ในยุโรป จักรยานไฟฟ้าถูกจำกัดความเร็วที่ 25 kph ส่วนที่อเมริกาได้ 32 kph
อย่างไรก็ดีจักรยาน SuperSix EVO Neo มีให้เลือกแค่ 3 ไซส์ คือ S M L หรือประมาณไซส์ 51cm, 54cm และ 56cm ในขณะที่ SuperSix EVO ปกติมี 8 ไซส์จาก 44-62cm ส่วนด้าน geometry นั้นเหมือน SuperSix EVO ในไซส์ที่ใกล้เคียงกัน
รุ่นท็อป SuperSix EVO Neo 1 (ในรูป) ราคา 10,000 USD หรือประมาณ 300,000 บาท จัดว่าไม่เลวเมื่อเทียบกับเสือหมอบแอโรดิสก์เบรกตัวท็อปของหลายๆ ค่ายก็อยู่ที่ราคาประมาณนี้เช่นกัน สเป็คนี้มากับล้อคาร์บอน HollowGram 45mm และขาจาน HollowGram ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเบา
รุ่นรองลงมา Neo 2 มากับชุดขับ Shimano Ultegra และไม่ได้แฮนด์สเต็มแบบซ่อนสายทั้งหมด ล้อ FSA Team Clincher Disc น้ำหนัก 12.4kg ราคา 6,500 USD หรือประมาณ 196,000 บาท
รุ่นล่างสุด Neo 3 มากับชุดขับ Shimano 105 ใช้สเต็มและแฮนด์แบบปกติ ล้อ FSA Team Clincher Disc น้ำหนัก 12.4kg ราคา 4,500 USD หรือประมาณ 135,900 บาท
จักรยานไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นเสือภูเขาหรือเสือหมอบกำลังเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมอย่างมากในยุโรปและสหรัฐอเมริกาจากที่มันเปิดโอกาสให้คนที่ให้หลายๆ คนที่อาจจะปั่นจักรยานได้ลำบาก เช่นผู้พิการ หรือผู้สูงอายุ มีโอกาสได้ปั่นจักรยานได้สะดวกขึ้นหรือได้ระยะทางมากขึ้น เข้าถึงเส้นทางที่ไม่เคยทำได้มาก่อน แต่ในประเทศไทย Ducking Tiger เข้าใจว่าเรายังติดปัญหาเรื่องกฏหมายนำเข้าจักรยานไฟฟ้า ทำให้ยังไม่มีพื้นที่ให้สินค้าประเภทนี้ในตลาด และราคาจักรยานไฟฟ้าส่วนใหญ่ก็สูงมากทีเดียว
