ในบรรดาผู้ผลิตจักรยานแข่งขันรายใหญ่ Canyon อาจจะเป็นแบรนด์เดียวที่ “ไม่รีบ” ออกรถใหม่ ปกติแบรนด์อื่นที่เปิดตัวรถใหม่ 3 ปีครั้ง Canyon เป็นแบรนด์เดียวในตลาดตอนนี้ที่ใช้ cycle 5-6 ปีถึงจะอัปเดตทีนึง
Canyon Aeroad เป็นหนึ่งในเสือหมอบแอโรที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก (รวมถึงในไทยด้วย) ด้วยราคาที่ถูกกว่าคู่แข่งพอสมควรจากการเป็นบริษัทที่ใช้โมเดลการขายตรงถึงมือลูกค้าไม่ต้องผ่านตัวแทนนำเข้าและร้านดีลเลอร์ นอกจากนี้จักรยานแข่งของ Canyon ยังได้ผลรีวิวในขั้นดีเยี่ยม Canyon Aeroad เจอเนอเรชันที่ 2 (2014-2020) จึงอยู่ในตลาดมานานถึงหกปี จนล่าสุดเดือนตุลาคม 2020 นี้ที่ในที่สุดแบรนด์ก็เปิดตัว Aeroad เจเนอเรชันที่สาม ซึ่งมากับนวัตกรรมใหม่ๆ มากมายทีเดียว
แต่อาจจะไม่ใช่นวัตกรรมแบบที่คุณนึกถึงมาก่อน มาลองดูกันว่ามีอะไรเด่นๆ บ้างก่อนจะลงรายละเอียดกันครับ
Canyon Aeroad 3rd generation (2021)
- มีให้เลือก 3 ระดับราคา / เกรดคาร์บอน เรียงจาก Aeroad CFR > SLX > SL
- Aeroad CFR รุ่นท็อป น้ำหนักเบาสุด เฟรมหนัก 915g ตะเกียบ 425g
- Completed bike Aeroad CFR Di2 รุ่นท็อปหนัก 7.26kg (ไม่รวมบันได)
- แฮนด์แอโรแบบชิ้นเดียวที่ปรับความกว้างได้
- การติดตั้งคอแฮนด์ที่ปรับความสูงได้โดยไม่ต้องตัดซาง (เหมือนคอจุ่ม!!)
- เร็วกว่าเดิม 7.4 วัตต์
- น้ำหนักเบากว่าเดิม 170 กรัม
- เฟรมสติฟฟ์ขึ้น 14%
- มีเฟรมให้เลือกถึง 8 ไซซ์ เล็กลงไปถึง 3XS (ใช้กับล้อ 650b)
Tech details
สำหรับโจทย์การออกแบบ Aeroad เจเนอเรชันที่ 3, Canyon ต้องการปรับปรุง Aeroad รุ่นก่อนในทุกด้าน ทั้งในเรื่องแอโรไดนามิก ความสติฟฟ์ และการลดน้ำหนักทั้งคันให้ได้ใกล้เคียงน้ำหนักขั้นต่ำสำหรับจักรยานแข่งขันที่ 6.8 กิโลกรัมให้ได้มากที่สุด
ในด้านแอโรไดนามิก Canyon ทำงานร่วมกับ Swissside แบรนด์ล้อคาร์บอนขอบสูงจากสวิสเซอร์แลนด์ที่เชี่ยวชาญด้านอากาศพลศาสตร์เป็นพิเศษ ผลลัพธ์ออกมาเป็นรูปทรงเฟรม Aeroad แบบใหม่ที่น้ำหนักเบากว่าเจอเนอเรชันก่อนเล็กน้อย แต่ลู่ลมกว่าเดิม 7.4 วัตต์โดยเฉลี่ย
ด้านน้ำหนัก Canyon ใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์แบบเดียวกับที่ใช้ในเฟรม Canyon Ultimate CFR ทำให้ได้เฟรมที่เบาลงกว่าเจอเนอเรชันก่อน 168g โดยเฉลี่ย แต่บริเวณกะโหลกสติฟฟ์ขึ้น 14%
อีกส่วนที่ลดน้ำหนักได้คือบริเวณหลักอาน ที่ถึงแม้จะดูเป็นหลักอานแอโรแบบท่อลึก แต่จริงๆ แล้วส่วนที่เป็นโครงสร้างแข็งแรง (และใช้ยึดกับเฟรม) ลึกแค่ครึ่งเดียวในขณะที่ครึ่งหลังของหลักอานขึ้นรูปเป็นแฟริง (แต่ดูเป็นชิ้นเดียวกับตัวหลักอาน) รวมกับวิธียึดหลักอานแบบใหม่ก็ทำให้ลดน้ำหนักในส่วนนี้ไปได้ 16 กรัม
ชุดแฮนด์ CP18 Aerocockpit ดีไซน์ใหม่ลดน้ำหนักจากชุดแฮนด์รุ่นก่อน H36 ไปได้อีก 37 กรัม
ชุดแฮนด์ CP18 มีความพิเศษกว่าแฮนด์แอโรของค่ายอื่นๆ ตรงที่สามารถปรับความกว้างของแฮนด์ได้ +/- 20mm ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องเปลี่ยนแฮนด์ใหม่หากแฮนด์ที่ติดรถมาขนาดไม่พอดี
ลักษณะการยึดแฮนด์และคอแฮนด์เข้ากับเฟรมก็ไม่เหมือนรถค่ายอื่นๆ สำหรับ Aeroad CFR / CF SLX รุ่นใหม่นี้มากับดีไซน์แบบคอจุ่ม ผู้ใช้ไม่ต้องวัดความสูงแฮนด์ที่ต้องการแล้วตัดซางให้พอดีเหมือนรถปกติ แต่สามารถปรับความสูงแฮนด์ที่ต้องการได้ โดยจะมีระยะรองแหวนให้เลือกใช้ 15mm ลองดูวิดีโอประกอบแล้วจะเห็นภาพชัดครับ
ตรงนี้ถือว่าฉลาดมากทีเดียวเพราะปัญหาของผู้ใช้ Canyon ที่เจอกันบ่อยๆ ก็คือเวลาซื้อเฟรมเซ็ตหรือคอมพลีทไบค์มาแล้วต้องคอยเปลี่ยนแฮนด์ จากที่ระยะความกว้างและความยาวสเต็มไม่ค่อยจะพอดี
อย่างไรก็ดีระยะสเต็มนั้นเปลี่ยนเลื่อนไม่ได้ แต่ตอนสั่งซื้อผ่านหน้าเว็บ Canyon สามารถรถบุไซซ์ที่ต้องการได้
ระบบคอแฮนด์แบบจุ่มนี้จะมาเฉพาะกับเฟรม Aeroad CFR / CF SLX เท่านั้น ส่วน Aeroad CF SL ยังใช้แฮนด์แบบปกติ ปรับความสูงและความกว้างแฮนด์ไม่ได้
เฟรม Aeroad CFR / CF SLX ไม่รองรับเกียร์สาย ใช้ได้แต่เกียร์ไฟฟ้า แต่ CF SL ใช้กับเกียร์สายได้
Geometry สำหรับทุกคน
หนึ่งในปัญหาที่คนปั่น Aeroad เจอเนอเรชันก่อนบ่นกันมากคือองศาของเฟรมที่ racy มากๆ ก้มต่ำ และยืด จนถ้าไม่แข็งแรงร่างกายยืดหยุ่นเหมือนนักกีฬาก็ปั่นได้ลำบากพอสมควร ทำให้ Canyon ปรับองศาใหม่ให้ขี่สบายมากขึ้น เพิ่มระยะ stack สูงขึ้น 10mm
Canyon ปรับ chainstay ให้สั้นลง 5mm ซึ่งน่าจะช่วยให้รถปั่นได้ฟีลคล่องแคล่วมากขึ้นด้วย แต่ก็ยังรองรับยางหน้ากว้างสุด 30mm
สำหรับคนที่ตัวเล็ก Canyon ทำไซซ์พิเศษ 3XS ซึ่งจะมีเฉพาะในรุ่น Canyon Aeroad CF SL โดยที่ไซซ์ 3XS และ 2XS นั้นออกแบบมาให้ใช้กับล้อขนาด 650b
ราคา / รุ่น
Canyon Aeroad เจอเนอเรชันใหม่มีให้เลือกทั้งหมด 8 รุ่น จาก 3 ระดับเกรดคาร์บอน (CFR, CF SLX, CF SL) และมีแบบเฟรมเซ็ตให้เลือกสำหรับคนที่ไม่ต้องการรถคอมพลีทไบค์ ราคาเริ่มต้นที่ 3,300 ยูโร (ประมาณ 120,000 บาท ไม่รวมภาษีและค่าส่ง) ไปจนถึงรุ่นท็อปสุด ที่ประมาณ 330,000 บาท ซึ่งเมื่อดูจากสเป็คแล้วก็ยังคงความคุ้มค่าถูกกว่าแบรนด์คู่แข่งที่สเป็คใกล้เคียงกันครับ
รุ่นถูกสุด Canyon Aeroad CF SL เริ่มที่ 3,300 ยูโร มากับชุดขับแบบเกียร์สาย และไม่ซ่อนสายทั้งคันเหมือนใน CFR และ CF SLX + ใช้แฮนด์แบบปกติที่ปรับความสูงคอและความกว้างแฮนด์ไม่ได้ แต่มีไซซ์ให้เลือกมากกว่า
กระโดดขึ้นมาอีกระดับเป็น Canyon Aeroad CF SLX ที่ซ่อนสายทั้งคันและมากับแฮนด์แบบปรับระยะต่างๆ ได้ รองรับเฉพาะเกียร์ไฟฟ้า และราคาเริ่มต้นที่ 5,000 ยูโร หรือประมาณ 183,000 บาท
ท้ายสุดเป็น Canyon Aeroad CFR เฟรมรุ่นท็อปสุด น้ำหนักเบาที่สุดในไลน์อัป กับราคาเริ่มต้นที่ 7,500 ยูโร ประมาณ 275,000 บาท
เฟรมเซ็ต Aeroad CFR ซึ่งมากับชุดดิสก์เบรกและมือเกียร์ SRAM Red AXS ราคาประมาณ 135,000 บาท
ราคาทั้งหมดเป็นราคาจากหน้าเว็บ ซึ่งการนำเข้ามาในไทยก็คงต้องบวกภาษีและค่าส่งหรือค่าดำเนินการอีกที โดยปกติแล้ว ค่าภาษี completed bike อยู่ที่ 30% + Vat 7% และเฟรมเซ็ตที่ 10% + Vat 7%
สรุป
โดยรวม Aeroad เจเนอเรชันใหม่นี้ก็ถือเป็นเสือหมอบแอโรที่ครบเครื่องทีเดียว และน่าจะสะดวกกับแฟนๆ Canyon ที่ไม่ต้องปวดหัวกับการคอยหาแฮนด์แอโรให้ถูกขนาด จากที่มันปรับความกว้างแฮนด์ได้ ซึ่งสะดวกต่อการขนย้ายเดินทางมากๆ ด้วย
จุดที่น่ากังวลเล็กน้อยคือระยะแหวนรองคอที่ปรับได้แค่ 15mm เท่านั้น ซึ่งจริงๆ แล้วถือว่าน้อยมากครับ
น้ำหนักโดยรวมเบาลง แต่ก็ยังไม่เบาที่สุดเมื่อเทียบกับเสือหมอบแอโรจากค่ายอื่นๆ ในตอนนี้ เดาว่าคงเป็นเฟรมที่ดีมากๆ ตัวนึงเพราะปกติแล้ว Aeroad เจอเนอเรชันก่อนก็ได้รับผลการทดสอบที่ดีมากๆ จากทุกค่ายอยู่แล้ว ทั้งเรื่องความแอโรที่ยังอยู่หัวแถวของวงการ เรื่องน้ำหนักที่ไม่ได้แย่มาก และเป็นเฟรมแอโรที่ไม่สะท้านสะเทือนนัก ที่สำคัญคือเรื่องความคุ้มค่าที่ Canyon ทำราคาต่ำกว่าคู่แข่งอยู่พอสมควรครับ
เช็ครายละเอียดและสเป็ครุ่นต่างๆ ได้ที่ www.canyon.com