หลังจากที่ UCI ยุติการสืบสวนกรณีที่แชมป์ Vuelta a Espana 2017 คริสโตเฟอร์ ฟรูม (Team Sky) ถูกตรวจพบยาขยายหลอดลม Salbutamol เกินเกณฑ์ที่อนุญาตให้ใช้อย่างกะทันหัน แฟนจักรยานทั่วโลกต่างก็สงสัยว่าเขาใช้เหตุผลอะไรในการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ เพราะนักปั่นหลายๆ คนที่มีเคสเหมือนฟรูมในอดีตต้องรับโทษเสียเป็นส่วนใหญ่
เมื่อวานนี้ ฟรูมให้สัมภาษณ์ นสพ. The Times ซึ่งเขาได้อธิบายเหตุผลที่เขาใช้ในการแก้ต่างอย่างคร่าวๆ
“ในคดีนี้มีการกล่าวหาหลายอย่างครับ สำหรับนักกีฬามันไม่มีอะไรจะแย่กว่านี้อีกแล้ว มันเป็นฝันร้ายของนักกีฬาที่ไม่เคยโด้ป เป็นความท้าทายที่สุดที่ผมเคยเจอในชีวิต”
“กระบวนการมันยาวนานมาก ผมไม่คิดว่ามันจะจบสัปดาห์นี้ด้วยซ้ำ ผมออกไปซ้อมกับเวาท์ โพลส์ (เพื่อนร่วมทีม) ก่อนเดินทางไป Tour de France แล้วโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เมสเสจก็เข้ามาเต็มไปหมด ที่บอกว่าคดีผมยุติแล้ว”
The Times กล่าวว่าทีมกฏหมายของฟรูมแก้ต่างด้วยการพิสูจน์ความเป็นไปได้ที่คนธรรมดาที่ใช้ยาขยายหลอดลมจะถูกตรวจพบ Salbultamol เกินเกณฑ์ที่กฏการโด้ปของ WADA อนุญาต
ทีมนักวิทยาศาสตร์ของ Sky ได้ตรวจปริมาณ Salbultamol จากตัวอย่างปัสสาวะของฟรูมตลอดการแข่งขัน Vuelta เพื่อสร้างโมเดลเชิงสถิติ ว่าเป็นไปได้สูงที่บางครั้งฟรูมอาจจะมี Salbultamol ในปัสสาวะเกินเกณฑ์ ถึงแม้จะใช้ในปริมาณที่กฎกำหนดก็ตาม
จากนั้นทีมส่งผลการศึกษานี้ไปให้ทาง UCI และ WADA เพื่อทดลองด้วยตัวเอง จนทีมพบว่า โอกาสที่ผลปัสสาวะของฟรูมจะขึ้นเป็น Adverse Analytical Finding นั้น “สูงจนน่าตกใจ”
นอกจากนี้หลักฐานแก้ต่างของฟรูมยังมีผลการศึกษาจากทีมนักวิทยาศาสตร์ที่เป็นคนกำหนดเกณฑ์ Salbultamol ที่อนุญาต และระดับที่จะทำให้เกิดผลว่าใช้เกินเกณฑ์สำหรับนักกีฬา ส่งให้องค์กรต่อต้านการโด้ป (WADA)
“WADA ควรจะยอมรับความบกพร่องนี้ตั้งนานแล้ว”
เคน ฟิทช์ ศาสตราจารย์จากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัย Western Australia, หนึ่งในทีมนักวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังการตั้งกฎ Salbultamol ให้ WADA ยอมรับกับ The Times ว่ากฎ Salbultamol นั้นมีข้อบกพร่องและต้องเปลี่ยนแปลง
“ผลตัดสินในคดีของฟรูมเป็นเรื่องใหญ่มากครับ ไม่ใช่แค่สำหรับคริส แต่สำหรับนักกีฬาที่เป็นภูมิแพ้ทุกคน และสำหรับกฏของ WADA ด้วย หลักๆ เลยก็คือทาง WADA ยอมรับว่าปริมาณ Salbultamol ที่คุณรับเข้าไปในร่างกาย อาจจะไม่เชื่อมโยงกับปริมาณที่มันออกจากปัสสาะวะของคุณ…ทาง WADA ควรจะยอมรับความบกพร่องนี้ตั้งนานแล้ว”
UCI และ WADA ยุติการสืบสวนฟรูมอย่างกะทันหันเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมาหลังจากที่คดียืดเยื้อมาร่วม 9 เดือน เรื่องเริ่มจากที่คริส ฟรูมถูกตรวจพบว่าในปัสสาวะของเขาระหว่างแข่ง Vuelta a Espana 2017 มีค่าสาร Salbultamol อยู่ถึง 2,000 ng/ml มากกว่าเกณฑ์ที่กำหนดที่ 1,000 ng/ml
ฟิทช์อธิบายต่อว่า เกณฑ์ Salbultamol ที่อนุญาตนั้น ตั้งมาจากการศึกษานักว่ายน้ำ เขายอมรับความบกพร่องในการทดลอง เพราะนักว่ายน้ำส่วนใหญ่ไม่มีปัญหาเรื่องการขาดน้ำถึงจะออกกำลังหนักแค่ไหนก็ตาม ในขณะที่นักปั่นโดยเฉพาะโปรที่แข่งในแกรนด์ทัวร์ที่ต้องปั่นวันละ 5-6 ชั่วโมงท่ามกลางอากาศร้อน มักมีปัญหาเรื่องอาการขาดน้ำ ส่งผลให้ปัสสาวะเข้มข้นสูง
ฟิทช์กล่าวว่าเขาพยายามล็อบบี้ให้ WADA เปลี่ยนแปลงกฏมาหลายปีแล้ว และไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของ WADA เขาพยายามช่วยอเลซานโดร เพทัคคี ที่ถูกแบนหนึ่งปีเพราะถูกตรวจพบ Salbultamol เกินเกณฑ์เช่นเดียวกับฟรูมระหว่างแข่ง 2007 Giro d’Italia ฟิทช์เชื่อว่าเพทัคคีเป็นผู้บริสุทธิ์
การยอมรับความผิดพลาดจากศาสตรจารย์ฟิทช์อาจจะทำให้ WADA ต้องเริ่มเปลี่ยนแปลงกฎ น่าสนใจว่า WADA จะดำเนินการต่อยังไงครับ
คริส ฟรูมจะลงแข่งขัน Tour de France ในวันที่ 7 กรกฎาคมนี้ ถ้าเขาชนะ เขาจะเป็นนักปั่นคนแรกในรอบหลายสิบปีที่คว้าแชมป์ Tour de France ได้ถึง 5 สมัย
Via: Thetimes.co.uk
