คริส ฟรูม (Team Sky) กล่าวหลังแข่งสเตจ 20 Vuelta a Espana 2017 ที่เขาเข้าเส้นชัยเป็นอันดับสามและทำเวลารวมนำห่าง ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดเขาจะได้แชมป์รายการ Vuelta a Espana เป็นครั้งแรกในวันอาทิตย์ที่ 10 กันยายนนี้
“มันเป็นความรู้สึกที่ยากจะกล่าวครับ เป็นการปิดฉากแกรนด์ทัวร์ที่สุดยอดจริงๆ ที่ได้แชมป์ทั้ง Tour – Vuelta ในปีเดียวกัน ผมขอบคุณทุกคนจากใจที่ช่วยเหลือและสนับสนุนตลอดทั้งสามสัปดาห์”
“Angrilu มันเป็นเขาที่ท้าทายมากครับ เราพยายามไล่ตามคอนทาดอร์สุดกำลัง แต่เราสู้เขาไม่ได้จริงๆ การที่เขาปิดฉากด้วยชัยชนะวันนี้มันงดงามครับ”
“ผมไม่มั่นใจเลยว่าจะชนะรายการนี้ได้ เวลามันกระชั้น คู่แข่งก็อยู่ไม่ห่าง เกมพลิกได้ทุกวัน ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ มีทั้งทางขึ้นยากๆ และทางลงที่อันตรายตลอดสามสัปดาห์”
“ยิ่งเข้าใกล้เส้นชัยเท่าไร ผมยิ่งนับระยะทางถอยหลังทุกกิโลเมตร ผมมีเพื่อนร่วมทีมอยู่รอบข้างตลอด คิดเพียงอย่างเดียวว่าต้องปิดเกมให้ได้ มันมีทั้งวันที่ดีและไม่ดี วันที่ผมลงไปนอนกองกับพื้นอาบเลือด และวันที่ผมชนะได้แชมป์สเตจ แต่ทีมก็อยู่กับผมและเชื่อมั่นในผมทุกวินาที”
“มันมีเหตุผลว่าทำไมถึงไม่มีใครเคยได้แชมป์ Tour-Vuelta เลยตั้งแต่ที่ Vuelta ย้ายมาแข่งหลัง Tour 1 เดือน…มันเป็นความรู้สึกที่ยากจะกล่าวครับ ช่วงเวลาแบบนี้มันทำให้การเสียสละทุกอย่างคุ้มค่าจริงๆ ครับ”
“ปีหน้าก็เป็นเรื่องของปีหน้า ผมยังไม่รู้ว่าจะลงรายการไหนบ้างแต่ขอเอนจอยชัยชนะครั้งนี้ก่อน Vuelta เป็นสนามที่ผมชอบแข่งมาก ผมเข้าใกล้แชมป์หลายครั้ง แต่ว่าตามตรงคือผมพ่ายท่าให้คู่แข่ง มันทำให้ผมมีกำลังใจอยากจะเอาชนะให้ได้ โดยเฉพาะการชนะสองรายการในปีเดียวกัน”
“เป็นการเดินทางที่ยาวนานครับ Vuelta คือสนามทีผมเริ่มแข่งขันอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก และบน Angrilu นั้นเป็นครั้งแรกที่ผมได้โชว์ฝีมือในปี 2011 ที่ผมทิ้งห่างตัวเต็งหลายๆ คน การได้ปิดเกมบน Angrilu อีกครั้งมันยากจะหาอะไรเทียบจริงๆ”
“คอนทาดอร์เป็นคนที่น่านับถือครับ เขาทำให้การแข่งขันมีสีสันและตื่นเต้นตลอดเวลา แน่หละ ชีวิตผมคงง่ายขึ้นเยอะเมื่อเขาไม่อยู่แล้ว แต่คุณต้องเคารพความสามารถของเขา ชัยชนะวันนี้ของเขามันสวยงามและเหมาะสม ในสนามบ้านเกิด ท่ามกลางแฟนๆ ชาวสเปน… “Adios”
* * * *
คริส ฟรูมเป็นนักปั่นชาวอังกฤษคนแรกที่ได้แชมป์ Vuelta และเป็นนักปั่นคนที่สามของโลกที่ได้แชมป์ Tour-Vuelta ในปีเดียวกัน
แต่เขาเป็นคนเดียวในโลกที่ได้แชมป์ Vuelta ในปีเดียกวับตูร์หลังจากที่ Vuelta ย้ายมาแข่งช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน จากที่ก่อนหน้าปี 1995 แข่งช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคมมาตลอด (ชนกับ Giro d’Italia) ซึ่งยากกว่าการแข่ง Vuelta-Tour ในสมัยก่อนครับ
จบสนามนี้ฟรูมได้เสื้อผู้นำกลับบ้านไปสามตัวด้วยกัน คือเสื้อแดง (GC), เสื้อเขียว (คะแนนรวม) และเสื้อขาว (Combined jersey)
จากผลงานครั้งนี้ทำให้ฟรูมมียอดแชมป์แกรนด์ทัวร์ทั้งหมด 5 รายการ และจะเป็นคนที่มีแชมป์แกรนด์ทัวร์เยอะที่สุดในปัจจุบัน เพราะคอนทาดอร์ที่มีแชมป์ 7 รายการจะอำลาวงการหลังจบสนามนี้ครับ
