เมื่อคืนนั่งอ่านหนังสือ Reading the Race: Bike Racing from inside the peloton ของลุงคริส ออเนอร์ (Chris Horner) แชมป์ Tour of Spain ปีที่แล้วแกพูดถึงเรื่องความสำคัญของการเตรียมตัวก่อนแข่งได้ดีมากเลยครับ แกบอกว่าในระยะเวลา 15 ปีที่เป็นนักปั่นมืออาชีพแกจะแพครองเท้าปั่นสำรองไว้หนึ่งคู่เสมอ เก็บไว้ในกระเป๋า wet bag (กระเป๋าอุปกรณ์ชุดปั่นในช่วงที่อากาศไม่ดี) แพคไว้บนรถเซอร์วิสที่ตามขบวนนักปั่น
การแพครองเท้าสำรองเป็นอะไรที่นักปั่นส่วนใหญ่ไม่ทำกัน แกบอกในชีวิตนี้ไม่เคยได้ใช้รองเท้าสำรองเลยเกือบสิบปีจนในปี 2010 รายการ Tour of the Basque Country ออเนอร์กับนักปั่นหลายสิบคนล้มระหว่างการแข่งจนตัวปรับความแน่นรองเท้าพัง แกบอกว่าถ้าไม่ได้รองเท้าสำรองคู่นั้นก็คงไม่สามารถปั่นต่อจนจบสเตจได้ และถ้าปั่นไม่จบสเตจแกก็คงไม่ได้แชมป์รายการ!! (Horner ได้แชมป์ Tour of the Basque Country ในปีนั้น เป็นรายการที่เขาได้แชมป์สเตจ Time Trial ด้วย) รองเท้าสำรองช่วยกู้ชัยชนะรายการใหญ่ได้เลยทีเดียว
อีกครั้งที่รองเท้าสำรองของออเนอร์ช่วยชีวิตคือในรายการ Criterium du Dauphine ปี เดียวกันออเนอร์เจอปัญหาชนกับคู่แข่งคนอื่นจนรองเท้าพัง เขาบอกว่าถ้าไม่ได้รองเท้าสำรองคู่นั้นอาจจะทำให้เขาไม่สามารถช่วยเพื่อนร่วมทีมยาเนซ บราโควิช (Janez Brajkovic) คว้าแชมป์สนามได้เอาชนะอัลเบอร์โต คอนทาดอร์ได้ (ออเนอร์เป็นโดเมสติก)
แน่นอนว่าการมีรองเท้าปั่นสำรองหลายๆ คู่อาจจะเกินจริงไปหน่อยสำหรับนักปั่นสมัครเล่น แต่ก็แสดงให้เห็นว่าการเป็นคนรอบคอบมันมีประโยชน์ขนาดไหนถึงแม้บางอย่างเราอาจจะไม่เคยได้ใช้มันเลยก็ตามครับ
ปล 1. กระเป๋า Wet Bag ของออเนอร์มีของเยอะเกินกว่ากระเป๋าโดเรมอนเสียอีก เขาภูมิใจกับทักษะการแพคของมากๆ ในกระเป๋ามา เสื้อปั่น, กางเกงปั่น, รองเท้า 1 คู่ (เคยใส่และตั้งคลีทแล้ว), เสื้อ undershirt, เสื้อกันลม, เสื้อกันฝนอย่างน้อยสามตัว, แว่นกันแดดเลนส์ใสและมืด, ปลอกแขนและปลอกขาสำหรับอากาศหนาว, หมวก beanie, หมวกแก๊ป, ถุงเท้า, shoes cover x2, ถุงมืออย่างน้อยสามคู่!!
ปล. ถ้าใครสงสัยว่า Wet bag ของนักปั่นหน้าตาเป็นยังไงลองดูวิดีโอของ GCN ตัวนี้
