ในบทสัมภาษณ์กับ นสพ. Marca ของสเปน สัปดาห์นี้อัลเบอร์โต้ คอนทาดอร์ให้สัมภาษณ์ว่าเขาอยากให้ผู้จัดการแข่งขันห้ามการใช้พาวเวอร์มิเตอร์ (อุปกรณ์วัดการออกแรงของนักปั่น) ในสนามแข่ง เพราะมันทำให้เกมการแข่งขันจืดชืดและนักปั่นไม่กล้าโจมตีคู่แข่ง
“พาวเวอร์มิเตอร์ทำให้เกมการแข่งขันจืดชืดและนักแข่งขาดความคิดสร้างสรรค์ในการทำเกม ผมอยากให้เลิกใช้ในสนามแข่ง”
“สมมติคุณรู้ตัวว่าคุณออกแรงได้ไม่เกิน 400 วัตต์ แล้วทีมอย่าง Sky กำลังปั่นนำด้วยความเร็ว 400 วัตต์ต่อเนื่อง คุณจะไม่กล้าโจมตีใครเลยเพราะคุณรู้ตัวว่าถึงหนีกลุ่มไปได้ แต่อักสัก 1-2 กิโลเมตรก็จะโดนจับเพราะคุณปั่นเกินขีดจำกัดตัวเองไปแล้ว”
“แต่ถ้าคุณไม่เห็นตัวเลข คุณอาจจะตัดสินใจโจมตีดู…พอนักปั่นเห็นตัวเลขก็เลิกคิดจะโจมตี โดยเฉพาะเวลาขึ้นเขาที่ความชันเฉลี่ย 6-7%”
คอนทาดอร์เคยกล่าวถึงการห้ามใช้พาวเวอร์มิเตอร์หลายครั้ง และตัวเขาเองก็เป็นตัวอย่างนักปั่นที่โจมตีโดยไม่สนใจตัวเลข ใน Vuelta a Espana ปีล่าสุด เขาเป็นนักปั่นที่โจมตีกลุ่มเยอะที่สุด จนทำเวลาตีตื้นกลับมาจบการแข่งขันที่อันดับ 4 และได้แชมป์สเตจบนยอดเขาสูงชัน Alto del Angrilu
นอกจากเรื่องการไม่ใช้พาวเวอร์มิเตอร์แล้ว คอนทาดอร์เรียกร้องให้มีการกำหนดเพดานค่าตัวของแต่ละทีม (Salary Cap) ป้องกันไม่ให้บางทีมจ้างนักปั่นฝีเท้าดีมารวมกันจนทำให้ทีมอื่นหมดโอกาสสู้
“ถ้าทีมนึงมีงบทำทีมมากกว่าทีมอื่นๆ 4 เท่า ทีมนั้นก็จะจ้างนักปั่นที่เก่งพอจะเป็นหัวหน้าของทีมอื่นๆ มาอยู่ด้วยกันได้หมด แล้วก็จะนำเกมขาดในทุกการแข่งขัน จนทีมอื่นหมดโอกาสต่อสู้”
“ผมไม่ได้บอกว่าให้ทีมต้องใช้งบเท่ากันนะ ทีมสามารถมีงบสูงกว่ากันได้ แต่ไม่ควรจะสูงแบบไร้ขอบเขต หัวหน้าทีมควรได้ค่าตัวสูง แล้วทีมก็สามารถจ้างนักปั่นเก่งๆ มาช่วยเขาได้ แต่ไม่ใช่การมีนักปั่นระดับหัวหน้าเป็นสิบคนในทีมเดียวกัน”
Via: Cyclingnews