รีวิว: Corima 47mm MCC S+

ราว 6 เดือนที่แล้ว เพื่อนชาวฮ่องกงส่งข้อความมาขอฝากขายล้อคู่หนึ่ง เพราะตัวเขาเองมี 2 คู่ แต่มีขาคู่เดียว คงจะปั่น 4 ล้อพร้อมกันไม่ได้ เลยเป็นโอกาสให้ผมได้ทดสอบล้อ Corima 47mm MCC S+ ล้อแบรนด์ฝรั่งเศสที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์และน้ำหนักเบาเป็นอันดับหัวแถวของวงการ


รู้จักกับ Corima

Corima เป็นแบรนด์ฝรั่งเศสที่คลุกคลีกับวงการจักรยานมา 45 ปีแล้ว และในปี 2018 นี้จะครบรอบ 30 ปีในการผลิตล้อคาร์บอนครับ โดยเป้าหมายของ Corima คือสร้างล้อที่ดีที่สุดสำหรับนักปั่น และยังเป็นแบรนด์ที่สปอนเซอร์ให้กับทีม Astana

Corima ไม่ได้ทำแค่ล้อให้วงการจักรยาน โดยประวัติแล้ว Corima เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตวัสดุคอมโพสิทในวงการกีฬา เคยมีประสบการณ์ทำโครงอากาศยาน แต่งานหลักจะเป็นการทำล้อจักรยานแข่งขัน ทั้งแบบถนน แบบลู่ และขึ้นชื่อเรื่องล้อสำหรับนักกีฬาวีลแชร์ด้วย

ทุกๆ ขั้นตอนการผลิตตั้งแต่ออกแบบ เตรียมวัสดุ ขึ้นรูป ไปจนถึงการปรับตั้งความตึงซี่นั้นทำด้วยมือในฝรั่งเศส รับประกันคุณภาพการผลิตนานถึง 2 ปี รวมถึงมีบริการรับซ่อมล้อคาร์บอนที่เสียหายจากการใช้งานด้วย

ล้อ Corima เคยเป็นที่นิยมในไทยเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว แต่ตอนนี้เริ่มจะหาได้ยาก ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะบริษัทอัปเดตเทคโนโลยีค่อนข้างช้าเมื่อเทียบกับแบรนด์คู่แข่งจากอเมริกา และไม่ได้เน้นทำการตลาดหวือหวาด้วย 


สเป็คล้อ

  • ความสูงขอบล้อ: 47mm (มีแม่เหล็กวัดความเร็วฝังอยู่ภายในขอบล้อด้วย)
  • ยางที่รองรับ: ยาง Tubular
  • ข้อล้อกว้างสุด 22.6mm 
  • น้ำหนักล้อเปล่า: 1,100 กรัมต่อคู่
  • จำนวนซี่: 12 ซี่ต่อล้อ ซี่และดุมทำจากคาร์บอนไฟเบอร์คาร์บอน
  • ประเทศผู้ผลิต: ฝรั่งเศส
  • ราคา: ประมาณ 100,000 บาท คัสตอมสีสติ๊กเกอร์แปะขอบล้อได้

เมื่อได้ล้อมาประจำการ ก็ได้ทดสอบกับจักรยาน Canyon Aeroad CF SLX กับสนามปั่นจักรยานเจริญสุขมงคลจิต (Skylane) และผลที่ได้คือประสบการณ์ความสุดในด้านต่างๆ ของล้อ Corima MCC คู่นี้ครับ ลองมาดูกันว่ามันสุดยังไง


เด่นสุด สะดุดตา

รูปลักษณ์ของล้อเป็นสิ่งแรกที่ชวนเย้ายวน สร้างความประทับใจได้ทันทีตั้งแต่แรกเห็น ด้วยเอกลักษณ์ของซี่ที่ไม่เหมือนใคร โดยล้อชุดนี้มีซี่เพียง 12 ซี่ต่อล้อเท่านั้น ซึ่งเท่ากับจำนวนซี่ขั้นต่ำสุดที่อนุญาตโดย UCI พอดี และซี่แต่เส้นขึ้นรูปมาจากคาร์บอน ทำให้ดูหนากว่าซี่ลวดทั่วๆ ไป

ล้อใช้ซี่คาร์บอนแค่ 12 ซี่ต่อข้าง

ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูบอบบางเช่นนี้ สร้างความกังวลให้กับนักปั่นที่ไม่แน่ใจในเรื่องของความแข็งแรง แต่ล้อของ Corima ทุกคู่ได้ผ่านการทดสอบมาตรฐาน และรองรับน้ำหนักนักปั่นรวมจักรยานได้ถึง 100 กิโลกรัม

อย่างไรก็ตามหากเกิดอุบัติเหตุกับซี่ลวดจริงๆ สามารถส่งกลับให้ทาง Corima ซ่อมได้ครับ ดังนั้นไม่ต้องกังวลว่าจะต้องทิ้งล้อไปเสียเปล่าๆ

เบาสุด ทั้งชุดทำจากคาร์บอน

Corima MCC ทำน้ำหนักล้อเปล่าไว้เพียง 1,100 กรัมต่อคู่ จัดได้ว่าเบาเป็นอันดับต้นๆ ของล้อที่มีความสูงระดับนี้ Corima เลือกใช้วัสดุเกือบทั้งหมดเป็นคาร์บอนตั้งแต่ขอบล้อ, ซี่ล้อ, ดุมล้อในการรีดน้ำหนักโดยยังคงประสิทธิภาพในการปั่นที่ดีเอาไว้

ดุมคาร์บอนทรงนาฬิกาทรายที่เป็นเอกลักษณ์ของ Corima

ด้วยความที่เลือกใช้ซี่ลวดเป็นคาร์บอน ทำให้มีระยะยืดตัวของซี่ที่น้อยกว่าซี่ลวดโดยทั่วไป ส่งผลให้ล้อแข็งจนรู้สึกได้ถึงผิวถนนแม้ว่าจะปั่นในทางเรียบสนิทอย่าง Skylane และล้อแข็งพอที่จะยืนสปริ้นท์ได้โดยไม่รู้สึกถึงความโบกของล้อ ดังนั้นสามารถตั้งเบรคให้ชิดกับขอบล้อได้เลย อีกทั้งไม่จำเป็นต้องปรับตั้งความตึงซี่อีกตลอดอายุการใช้งาน

จับคู่กับยาง Continental Competition 25mm

เบาติดเท้า เร่งดีสุดๆ

ส่วนผสมของความเบาและความแข็งจากซี่ลวด ผลลัพธ์คือการขึ้นความเร็วที่น่าประทับใจ โดยล้อสามารถตอบสนองต่อแรงได้ทันทีตั้งแต่การกดในครั้งแรก และไล่ความเร็วไปได้เรื่อยๆ ตลอดช่วงของการส่งแรง 

คงความเร็วแย่สุด หมกมุดกลุ่ม

แต่ล้อทุกคู่ไม่สามารถหนีกฎฟิสิกส์ไปได้ สิ่งที่ต้องยอมแลกกับความเบาของล้อไปคือโมเมนตัมความเฉื่อยที่หายไปด้วย ส่งผลให้ล้อนั้นยากที่จะคงความเร็วสูงๆ เอาไว้ได้ตลอดเวลา จำเป็นต้องอาศัยการใส่แรงลงไปอย่างต่อเนื่องเพื่อคงความเร็วนั้นเอาไว้ การผ่อนแรงลงมานิดเดียวทำให้ความเร็วตกลงมาเร็วมากแม้ว่าจะหมกอยู่ในกลุ่มความเร็วสูงแล้วก็ตาม

ลมข้างเซสุด ฉุดจักรยาน

โปรไฟล์ขอบของล้อ Corima 47mm MCC ดีไซน์ออกมาในลักษณะของ V Shape ซึ่งได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่าตัดลมที่มาปะทะหน้าตรงได้เป็นอย่างดี แต่ในทางกลับกัน ลมที่มาทางด้านข้างของล้อนั้นสร้างความปั่นป่วนได้มากกว่าโปรไฟล์แบบ U Shape อย่างเห็นได้ชัด ทำให้ต้องเพิ่มสมาธิกับการคอนโทรลรถสู้ลมเพิ่มขึ้นอีกนิด

เบรกสุด หยุดไม่อยู่ ^^”

อีกจุดนึงที่ถือว่าเป็นข้อด้อยสำคัญคือเรื่องของการเบรกที่ทำได้ไม่ค่อยน่าประทับใจ จำเป็นต้องอาศัยระยะในการเบรกเพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจจะแย่ลงได้อีกหากขอบเบรกมีน้ำเกาะ (แต่ในการทดสอบนี้ใช้ผ้าเบรกคาร์บอน Reynold สีฟ้า หวังว่าหากใช้เบรกที่ติดมากับล้อน่าจะให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่านี้ครับ) 

ต่างกับขอบเบรกล้อคาร์บอนสมัยใหม่ที่นิยมทำพื้นผิวสาก (กินผ้าเบรกมากขึ้นแต่หยุดรถได้ไวขึ้น) Corima ยังคงใช้พื้นผิวขอบเบรกแบบเรียบลื่น เพียงใช้คาร์บอนไฟเบอร์แบบทอตรงขอบเบรกให้ทนความร้อนได้ดีขึ้น แต่ไม่ได้ช่วยให้หยุดได้ไวแต่อย่างใด 

ขอบเบรก Corima 47mm MCC+

แล้วล้อนี้เหมาะกับใคร?

ล้อเหมาะกับสไตล์การปั่นแบบเร่งกระชากเป็นระยะๆ ทั้งในการปั่นหนีหรือเปิดสปริ้นท์ รวมถึงนักปั่นที่นิยมขึ้นเขาขึ้นดอย หรือเส้นทางโรลลิ่งที่น้ำหนักและความแข็งของล้อเป็นหัวใจสำคัญ โดยยังไม่ทิ้งประสิทธิภาพในการปั่นอยู่ในกลุ่ม

กระนั้นก็ต้องรับได้กับประสิทธิภาพเบรกที่ดูจะตามหลังล้อไฮเอนด์ยี่ห้ออื่นอยู่ 1 generation กับรูปทรงขอบล้อที่ค่อนข้างแคบ และต้องรับได้กับความไม่สะดวกของยาง Tubular ที่เวลารั่วแล้วไม่ได้ซ่อมข้างทางได้ง่ายๆ

แต่ถ้าคุณเป็นนักปั่นสายแฟชั่น ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าล้อชุดนี้จะทำให้รถคุณหรูดูพรีเมี่ยมขึ้นมาอีกเลเวลนึง แต่คุณจะเหนื่อยนิดกับการที่คนจะมาถามเรื่องล้อ และขอลูบคลำซี่ที่แสนจะเซ็กซี่ของมันครับ


By จุติพงศ์ ภูสุมาศ

ใช้ กับตันทีมปั่นฝัน ใช้ชีวิตควบคู่กับการปั่นตั้งแต่สมัยเรียนจนถึงปัจจุบัน สนใจในทุกด้านของเครื่องจักรสองล้อพลังเท้า!