เมื่อ DT ลองปั่นเสือภูเขาติดมอเตอร์!?

รู้ไหมครับว่าจักรยานที่ขายดีที่สุดในยุโรปและอเมริกาตลอด 3 ปีที่ผ่านมานี้คือ จักรยานอะไร? ไม่ใช่เสือหมอบ ไม่ใช่เสือภูเขา ไม่ใช่จักรยาน Gravel แต่มันคือจักรยานไฟฟ้าครับ

สำหรับคนปั่นเสือหมอบ คำว่าจักรยานไฟฟ้าที่เรานึกถึง มักจะมาจากข่าวในวงการแข่งขันอาชีพที่พูดถึง Motor Doping หรือการแอบติดมอเตอร์ไว้เพื่อโกงการแข่งขัน รวมถึงที่ทาง UCI พยายามจะดันเรื่องการตรวจจับมอเตอร์ตลอดเวลา ทั้งมีเครื่อง X-Ray ทั้งกล้องความร้อน จนเราติดภาพลบๆ เกี่ยวกับจักรยานไฟฟ้าครับ

เดือนที่ผ่านมา DT ได้ลองจักรยานเสือภูเขาไฟฟ้าจาก CUBE เกิดจากความสงสัยที่ว่าจักรยานไฟฟ้านี่มันเป็นยังไง เหมาะกับใคร มีอะไรที่เราควรรู้บ้าง ซึ่งพอค้นคว้าและทดลองจริงๆ แล้วมันมีอะไรน่าสนใจกว่าที่คิดครับ

Disclaimer: โพสต์นี้สนับสนุนโดย LA Bicycle ที่ส่งจักรยานไฟฟ้ามาให้เราทดลองใช้ครับ แต่ไม่ใช่การรีวิวตัดสินตัวสินค้า ประเด็นหลักที่เราพูดถึงคือประสบการณ์การใช้จักรยานไฟฟ้าครับ

Cube Access Hybrid Pro 500-1

จักรยานไฟฟ้าคืออะไร

ก่อนเราจะคุยกันเรื่องจักรยานไฟฟ้า เราต้องนิยามความหมายของมันให้เข้าใจตรงกันเสียก่อนครับ เพราะจักรยานไฟฟ้า (Ebike) มีหลักๆ สองแบบ และทำงานต่างกันมาก

1.) Pedelec (Pedal Electric Cycle)

คือจักรยานที่มีระบบไฟฟ้าและมอเตอร์ช่วยผู้ปั่น Pedelec เป็นจักรยานที่เราต้องปั่นเองครับ ไม่สามารถบิดคันเร่งได้ เมื่อเราเริ่มออกแรงปั่น มอเตอร์จะทำงานช่วยส่งแรงปั่นให้เราตั้งแต่ความเร็ว 0–25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มอเตอร์จะหยุดทำงานเมื่อถึงความเร็วที่ตั้งไว้ตามกฏหมาย ในยุโรปคือ 25kph และอเมริกาที่ 32kph

นั่นคือมันเป็นจักรยานที่มอเตอร์คอย “ช่วย” ออกแรง (Electronically Power-assisted) ไม่ใช่ออกแรงให้เราทั้งหมด ทำให้ Pedelec เป็นจักรยาน “ธรรมดา” ตามกฏหมายเกือบทุกประเทศทั่วโลก

เจ้า Cube Access Hybrid Pro ที่เราพูดถึงวันนี้ก็จัดเป็น Pedelec ครับ

2.) Throttle-assisted

จักรยานไฟฟ้าแบบที่สองคือจักรยานที่เคลื่อนที่ได้ด้วยกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า 100% พูดง่ายๆ ก็ไม่ต่างอะไรจากมอเตอร์ไซค์เท่าไร แค่วิ่งได้ช้ากว่า คุณสามารถบิดคันเร่งได้จนกว่าแบตจะหมด

หลายๆ ประเทศไม่นับ “จักรยาน” ประเภทนี้เป็นจักรยานครับ ในบริบทนี้ เวลาเราพูดถึงจักรยานไฟฟ้าส่วนใหญ่ เราจะหมายถึง Pedelec

 

แล้วจักรยานไฟฟ้าน่าสนใจตรงไหน?

การที่จักรยานไฟฟ้าเป็นจักรยานที่ขายดีที่สุดในช่วงเวลาสามปีที่ผ่านมา มันบ่งบอกอะไรหลายอย่างทีเดียวครับ แสดงว่ามันตอบโจทย์บางอย่างในกลุ่มคนปั่น หรือคนที่ยังไม่เคยปั่น

Screen Shot 2561-04-17 at 09.19.07

แผนภูมิแท่งที่เห็นนี้คืออัตราการเจริญเติบโตของจักรยานไฟฟ้า (EPAC = Electrically Power-Assisted Cycle) ในยุโรป ตั้งแต่ปี 2009-2016 ครับ จะเห็นว่าโตขึ้นทุกปี และในปี 2014-2016 มีอัตราการเติบโตประมาณ 20% ทุกปี

ข้อมูลโดย Confederation of the European Bicycle Industry

จากผลการสำรวจของ Bosch ผู้ผลิตมอเตอร์จักรยานรายใหญ่ที่สุดในยุโรป เขาพบว่า นอกจากผู้สูงอายุจะซื้อจักรยานไฟฟ้ามากขึ้นแล้ว คนรุ่นใหม่ยังหันมาใช้จักรยานไฟฟ้ามากขึ้นด้วย

Screen Shot 2561-04-17 at 09.14.42

  • กลุ่มอายุที่ซื้อจักรยานไฟฟ้าลดจาก 60+ เหลือ 30+
  • คนอายุ 50–60+ ซื้อเพราะจักรยานไฟฟ้าให้ภาพลักษณ์ที่ดูเท่ และช่วยให้เขาออกกำลังได้ง่ายขึ้น
  • คนอายุ 30–40+ ซื้อเพราะจักรยานไฟฟ้าช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการปั่น
  • คนอายุน้อยกว่า 30 ซื้อเพราะได้สนุกกับการปั่นในสนามที่ยากๆ ที่ปกติปั่นเองไม่ไหว

Cube Access Hybrid Pro 500-10

ใครเหมาะกับจักรยานไฟฟ้า?

คุณอาจจะสงสัยว่าเราขี่จักรยานเพราะเราอยากออกกำลัง ถ้ามีมอเตอร์ช่วยมันจะมีประโยชน์อะไรล่ะ? แนวคิดแบบนี้เป็นการมองผ่านมุมมองของคนที่ร่างกายแข็งแรงเป็นปกติดีอยู่แล้ว แต่จริงๆ แล้วมีผู้คนอีกมากที่ไม่สามารถถขี่จักรยานและสนุกกับมันได้ครับ ขอยกตัวอย่าง

คนที่ไม่มีเวลา

พ่อแม่ลูกเล็ก, นักธุรกิจงานรัดตัว, คนที่มีภาระมากมายหลายอย่าง แต่อยากปั่นจักรยานและสนุกกับมันได้ อยากปั่นขึ้นเขาไปพร้อมๆ กับเพื่อนที่ปั่นจริงจังมาหลายปี โดยที่ไม่ต้องรู้สึกว่าถูกทิ้งไว้ข้างหลังคนเดียวและเป็นตัวถ่วงคนอื่นๆ ทำให้เพื่อนเสียเวลารอ เขาอยากปั่นเพราะแค่อยากทำกิจกรรมกลางแจ้งร่วมกับเพื่อนเฉยๆ

คนที่ไม่แข็งแรง
นักปั่นมือใหม่, คนที่เริ่มอายุมาก, เด็ก ที่ไม่ฟิตและขาดแรงจูงใจในการฝึกซ้อม แต่ต้องการปั่นร่วมกับคนอื่นๆ เราต้องยอมรับครับว่าจักรยานเป็นกีฬาที่ใช้เวลาเยอะมากกว่าจะแข็งแรงและขี่ได้อย่างสนุกสนาน คิดดูว่าถ้าเราสามารถพาลุงป้าน้าอา ไปปั่นขึ้นเขาคู่กับเราไปด้วยได้มันดีขนาดไหน

วันที่ปั่นไม่ไหว

หรือบางวันที่เราอยากจะปั่น แต่เหนื่อยล้าจากภาระต่างๆ ขาดซ้อมเป็นเวลานาน แค่คิดจะหยิบจักรยานไปปั่นก็ทุกข์แล้ว การที่มี ebike อาจจะช่วยให้เราอยากออกไปออกกำลังกายมากขึ้น (ถึงมอเตอร์จะช่วยประหยัดแรงบ้าง แต่มันก็ช่วยไม่ได้ทั้งหมด) อย่างน้อยๆ มันช่วยลดกำแพงที่กั้นไม่ให้คนไปออกกำลังกายครับ

คนที่ร่างกายบาดเจ็บหรือทุพพลภาพ

ที่ปกติอาจจะมองข้ามจักรยานไปเลย ก็อาจจะหันมาปั่นได้ง่ายขึ้น

จักรยานอาจจะเป็นกีฬาที่เข้าถึงง่ายก็จริง แต่อย่าลืมว่าเป็นกีฬาที่เราต้องใช้เวลากับมันเยอะมากถึงจะปั่นได้ดี ไกลขึ้น อึดขึ้น เร็วขึ้น และไปในเส้นทางที่ท้าทายได้โดยไม่เหนื่อยล้าจนเกินไป

ผมว่าเราอาจจะยึดติดกับมุมมองที่ว่าจักรยานเป็นยานพาหนะสำหรับการแข่งขัน ถ้าเรามองข้ามตรงนี้ไปได้ จักรยานไฟฟ้านี่ช่วยเปิดโอกาสให้คนอีกมากได้เข้ามาสัมผัสลิ้มรสความสนุกของการขี่จักรยานครับ

Cube Access Hybrid Pro 500-3

จักรยานเสือภูเขาไฟฟ้าที่มากับมอเตอร์ขนาดใหญ่ เหมือน CUBE คันนี้ มีกำลังประมาณ 400–500 วัตต์ เวลามอเตอร์ทำงานคุณจะมีแรงปั่นประมาณ 5–6.5 วัตต์ต่อกิโลกรัม พูดง่ายๆ จะขึ้นเขาได้ดีไม่แพ้นักปั่นที่แข่งขันใน Tour de France

จักรยานเสือภูเขาไฟฟ้ายุคแรกๆ มีน้ำหนักมาก (ระดับ 25 กิโลกรัม+) ระบบมอเตอร์และแบตเตอรีก็มีขนาดใหญ่เทอะทะ ควบคุมลำบาก แต่เสือภูเขาไฟฟ้ายุคใหม่ๆ นั้นพัฒนามาไกลมากทีเดียวครับ ปัจจุบันใช้เฟรมเดียวกับเสือภูเขาปกติแล้ว มอเตอร์มีกำลังแรงขึ้น แบตอึดทนขึ้น แล้วฟีลการปั่นก็แทบไม่ต่างกับเสือภูเขาดีๆ แล้ว

Cube Access Hybrid Pro 500-15

CUBE Access Hybrid Pro 500

มาดูตัวจักรยานกันบ้างดีกว่า CUBE Access Hybrid Pro 500 คันนี้เป็นเสือภูเขาอลูมิเนียมแบบ hardtail ขนาด 27.5 ครับ

CUBE บอกว่าจักรยานรุ่นนี้เล็งไปที่กลุ่มคนที่อยากสนุกกับการปั่นทางวิบากหรือปั่นไปทำงาน สเป็คอาจจะไม่หรูหรา น้ำหนักเบา หรือใช้ของรุ่นท็อป แต่ก็เน้นความคุ้มค่าและความทนทาน ไม่ต้องห่วงว่าอะไรจะเสียหายแตกหักมากนัก

ค่าตัว 115,800 บาท

Cube Access Hybrid Pro 500-13

ตัวเฟรมสีดำแดง Black ’n’ Berry เป็นเฟรมอลูสมัยใหม่ ท่อคอเทเปอร์ เดินสายภายใน

องศารถออกแบบมาเน้นการขี่ trail เน้นความมั่นคงและความสบายมากกว่าความคล่องแคล่วกระฉับกระเฉงในสนามแข่งครับ

Cube Access Hybrid Pro 500-12

กรุ๊ปเซ็ต Shimano Deore 10 speed

Cube Access Hybrid Pro 500-11

ดิสค์เบรค Shimano BR-M315 แบบไฮดรอลิค

Cube Access Hybrid Pro 500-19

ตัวเครื่องมอเตอร์จาก Bosch รุ่น Performance CX 500Wh ให้กำลังบิด 75Nm ตัวมอเตอร์เป็นรุ่นที่ sport ที่สุดในไลน์อัปของ Bosch นั่นคือเน้นการขี่เส้นทางที่ยากและท้าทาย แรงบิดจะเยอะกว่ารุ่นอื่นๆ

Cube Access Hybrid Pro 500-4

แบตเตอรีใช้งานได้ในระยะ 40–100 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยเช่นขนาดหน้ายาง (ยางใหญ่ก็กินแรงมอเตอร์เยอะ) สภาพเส้นทาง ความชัน นำ้หนักตัวคนปั่น ตัวแบตเตอรีถอดออกมาชาร์จได้ หรือจะเสียบสายชาร์จบนจักรยานเลยก็ได้เหมือนกัน

Cube Access Hybrid Pro 500-17

โช๊คหน้า SR Suntour XCM34 แบบสปริง ยุบตัวได้ 100mm และมีระบบ lockout

Cube Access Hybrid Pro 500-14

วันแรกที่ได้รถมาผมลองปั่นวนๆ อยู่ 2–3 วันในเมืองจนแบตหมด จะได้รู้ว่ากว่าจะชาร์จเต็มใช้เวลากี่ชั่วโมง กลับถึงบ้านก็เอามาเสียบชาร์จ ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่งครับ แต่แบตจะหมดเร็วแค่ไหนขึ้นอยู่กับว่าเราใช้แรงมอเตอร์บ่อยขนาดไหน ถ้าคุณแรงเยอะ และปั่นเร็วบนทางเรียบความเร็วเกิน 25kph อยู่แล้วแบตก็แทบไม่ลด

แต่ถ้าปั่นขึ้นเนินขึ้นเขา เข้าออกโค้งบ่อยๆ (เช่นในเทรล) มอเตอร์ก็แทบจะทำงานตลอดเวลา ซึ่งเคสแบบนี้เราจะใช้งานได้ประมาณ 6 ชั่วโมงครับ มากเกินพอสำหรับความต้องการของนักปั่นส่วนใหญ่

Cube Access Hybrid Pro 500-5

ถ้าใครไม่เคยขี่จักรยานติดมอเตอร์ ความรู้สึกแรกเลยคือ ทำไมมันเบาขาขนาดนี้! เราเหยียบบันไดปุ๊บมอเตอร์จะทำงานทันที เหมือนมีคนช่วยออกแรง เพราะงั้นที่ความเร็วต้นๆ นี่มันเหมือนเปิดวาร์ปเลย กดปุ๊บรถวิ่งปั๊บ

ถ้าเอามาขี่ทางราบตรงๆ จะไม่ค่อยเห็นประโยชน์ เพราะพอถึง 25kph มอเตอร์ก็หยุดทำงานแล้ว (แต่ถ้าฟรีขาเมื่อไร ความเร็วตก มอเตอร์จะทำงานต่อทันที)

แต่พอเริ่มเข้าตรอกซอกซอย หรือไปแล่นในเทรล ที่เราต้องหักเลี้ยวและทางไต่ระดับขึ้นลงตลอด ความสนุกมันจะเริ่มชัดเจนขึ้นครับ ยิ่งทางชันเท่าไรยิ่งสนุก เพราะมีแรงไปต่อได้เรื่อยๆ

Cube Access Hybrid Pro 500-16

ตอนได้จักรยานมานี่ตกใจครับ ไม่ใช่เพราะอะไร เพราะมันหนักมาก (!!) น้ำหนักทั้งคัน 23.3 กิโลกรัม จากที่ปกติปั่นเสือหมอบคันละ 6.5 กิโลกรัมนี่ แทบจะโดนรถทับตาย 555 มอเตอร์หนักประมาณ 4 กิโลกรัม แบตเตอรีหนัก 2.6 กิโลกรัม

เส้นทางที่เราทดลองก็มีทั้งปั่นเล่นในเมืองทั่ว กทม. ซอกแซกเข้าตรอกเข้าซอย ปีนขึ้นที่จอดรถสิบชั้น และเอาไปลองเล่นในแทรคของราบ 11 + แว้บเอาไปขึ้นเขาเตี้ยๆ ในชลบุรี

มอเตอร์ของ Bosch ทำงานส่งแรงได้ต่อเนื่อง ราบลื่นและแทบไม่ต้องใช้เวลาปรับตัว ลองปั่นสัก 10 นาทีก็น่าจะพอรู้จังหวะการออกแรงของมอเตอร์ครับ มอเตอร์จะเริ่มหรืหยุดทำงานประมาณครึ่งวินาทีหลังจากเราเหยียบหรือปล่อยบันได

Cube Access Hybrid Pro 500-7

ถึงจักรยานจะหนัก แต่การที่มันมีมอเตอร์ช่วย ปัญหาเรื่องความหนักก็หายไปหมด เพราะเราไม่ต้องแบกน้ำหนักนี้ขึ้นเนินเขาด้วยตัวเอง กลับกัน น้ำหนักที่ได้มาช่วยเพิ่มความมั่นคงเวลารถกระโดดและเข้าโค้ง และน้ำหนักส่วนมากก็อยู่ที่มอเตอร์ (บริเวณกระโหลก) ฟีลลิงอาจจะต่างจากการขี่รถ hardtail / XC นิดหน่อย แต่ก็ไม่น่าจะปรับตัวนานครับ

Cube Access Hybrid Pro 500-8

สรุป

โพสต์นี้ออกจะแหวกแนวจากเนื้อหาส่วนใหญ่ของ Ducking Tiger เพราะปกติเราไม่พูดถึงเสือภูเขา แต่มันเป็นความสงสัยส่วนตัวครับว่าจักรยานติดมอเตอร์ใช้งานเป็นยังไง มีประโยชน์กับใคร? และเสือภูเขาไฟฟ้าเป็นตัวทดสอบที่ดีที่สุด เพราะเทคโนโลยีจักรยานไฟฟ้าตอนนี้เกือบ 100% อยู่ในเสือภูเขา

เหตุผลที่มันไม่อยู่ในเสือหมอบก็เพราะจักรยานเสือหมอบ โดยธรรมชาติแล้วออกแบบมาเพื่อการแข่งขัน แน่นอนว่าเราไม่ควรใช้จักรยานติดมอเตอร์ในการแข่งขัน (…แต่ล่าสุดผู้จัด Giro d’Italia ประกาศจัดแข่งขัน Giro d’Italia เวอร์ชัน ebike โดยเฉพาะ! โดยพาร์ทเนอร์กับ Pinarello ให้ทีมใช้ Pinarello Nytro ที่เป็นเสือหมอบไฟฟ้า แข่งเส้นทาง Giro 18 สเตจ!)

ถ้าจะให้สรุป ในมุมมองของคนที่ปั่นเสือหมอบและซ้อมเป็นประจำอยู่แล้ว สิ่งแรกที่ผมคิดคือ “อยากซื้อให้พ่อกับแม่” คืออยากมีเวลาปั่นด้วยกันบ้าง ในเส้นทางสวยๆ ที่ปกติท่านไปไม่ได้ แต่ด้วยร่างกายที่เริ่มชราแล้วก็คงจะให้มาขี่เสือหมอบขึ้นเขาด้วยกันก็ไม่ใช่เรื่อง

เช่นนั้นแล้ว จักรยานไฟฟ้าเป็นตัวสร้างความเสมอภาคที่ยอดเยี่ยมมากครับ มันจะเปิดโอกาสให้ผู้คนอีกมากได้เข้ามาสนุกกับการขี่จักรยาน ทั้งคนที่เลิกปั่นไปเพราะสุขภาพ เวลา หรือปัจจัยอื่นๆ ไม่เอื้อ และคนที่ยังไม่เคยปั่นเพราะไม่มีเวลาจะซ้อมให้ปั่นได้ดี อยากปั่นกับเพื่อนและครอบครัวแต่ไม่ได้จะปั่นเป็นกิจกรรมหลัก

อย่างไรก็ดี จะเห็นว่าจักรยานไฟฟ้าที่มีขายและพัฒนากันตอนนี้กระจุกตัวอยู่ในเสือภูเขาทั้งหมด และเสือภูเขาในไทยก็ไม่เป็นที่นิยมเหมือนสมัยก่อน น่าสงสัยว่าจะมีคนสนใจนำเข้ามาจำหน่ายมากน้อยแค่ไหนครับ

* * *

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!