1. คิทเทล สปรินต์เฉือนซากาน และคริสทอฟที่ ไซตามะ ไครทีเรียม
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมามี “สนามแข่ง” เล็กๆ ในประเทศญี่ปุ่น ในนาม Saitama Criterium ซึ่งปีนี้จัดเป็นปีที่สองแล้ว เป็นสนามที่จัดโดย ASO ผู้จัดงาน Tour de France นั่นเอง ไครทีเรียมรายการนี้ยาว 60 กิโลเมตร และแชมป์รายการตกเป็นของมาร์เซล คิทเทล (Giant) ที่สปรินต์เอาชนะอเล็กซานเดอร์ คริสทอฟ (Katusha) และปีเตอร์ ซากาน (Cannondale) อย่างไม่ยากเย็น
จริงๆ จะเรียกว่าเป็นสนามแข่งก็ไม่ถูก (เลยใส่ลูกน้ำกำกับไว้) เพราะมันป็นเหมือนสนาม “โชว์” เสียมากกว่าที่ ทางผู้จัดต้องการสร้างกระแสการแข่งขันจักรยาน และ ตูร์ เดอ ฟรองซ์ในประเทศญี่ปุ่น นักปั่นที่มาลงแข่งนั้นไม่ได้มากันเป็นทีม และส่วนใหญ่ผู้จัดจ้างมาโชว์ รูปเกมนั้นก็ได้ล๊อกกันไว้หมดแล้ว เพราะฉะนั้นผลการแข่งจึงไม่ใช่การวัดความสามารถกันครับ จัดได้ว่าเป็นรายการประเภท Post-Tour Criterium ที่หลายๆประเทศนิยมจัดหลังตูร์เดอฟรองซ์เชิญผู้ชนะไปลงสนามเพื่อเรียกคนดูและสร้างกระแสแน่นอนว่านักปั่นที่ไปลงนั้นได้ค่าตอบแทนกลับบ้านไปไม่น้อย
อย่างไรก็ดี สคริปต์รายการค่อนข้างสนุก บทเขียนให้ราฟาล ไมย์กา (Tinkoff) และนิบาลิ (Astana) กระชากหนีในช่วงสุดท้าย ก่อนที่จะโดนกลุ่ม peloton รวบ และคิทเทลสปรินต์เอาชนะไป ก่อนจะแข่งไครทีเรียมก็มีสนาม Point Race เล็กๆ ให้โปรได้โชว์พลังกัน (ไม่มีบท) ซึ่งนิโคลาส โรช (Tinkoff) เป็นผู้ชนะ
ถ้าใครจำได้เมื่อต้นเดือน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยก็ได้เจรจากับ ASO เพื่อจะนำการแข่งลักษณะนี้มาจัดในประเทศไทยเหมือนกัน (แต่ข่าวและบอส ททท. ดันเข้าใจผิดคิดว่าจะยกตูร์มาทั้งงานเลย ซึ่งไม่ใช่นะครับ) หมายความว่าเราอาจจะได้เห็นสนามไครทีเรียมที่มีดารานักปั่นระดับโลกมาโชว์กันถึงเมืองไทยเร็วๆ นี้ก็เป็นได้
2. ริชีย์ พอร์ทยังไม่ตัดสินใจว่าจะลงแกรนด์ทัวร์สนามไหน
ปีที่ผ่านมาไม่ใช่ปีที่ดีเท่าไรนักสำหรับริชีย์ พอร์ท เอซคนสำคัญและมือขวาของคริส ฟรูมจากทีม Sky เพราะเขาป่วยและบาดเจ็บต่อเนื่องตลอดทั้งปี จนพลาดแข่งจิโรดิตาเลียที่เขาควรจะได้ขึ้นนำทีม และก็ป่วยซ้ำด้วยอาการปอดอักเสบในตูร์ เดอ ฟรองซ์ จนไม่สามารถแก้เกมให้ทีมหลังจากที่ฟรูมถอนตัวจากการแข่งขัน
พอร์ทให้สัมภาษณ์ Cyclingnews ว่าถึงปีนี้จะโชคไม่ดีเท่าไร แต่เขาก็ได้พักฟื้นอย่างเต็มที่แล้วและตอนนี้ก็ฟอร์มค่อนข้างดีกว่าเดิม อย่างไรก็ดี ยังสรุปไม่ได้ว่าปีหน้าจะได้นำทีมลงแข่งแกรนด์ทัวร์สนามไหน หรือยังต้องเล่นบทพระรองอยู่ เพราะทางทีมยังสรุปไม่ได้ว่าคริส ฟรูมจะลงแข่งสนามไหนจนกว่าจะถึงเดือนธันวาคมที่ทีม Sky สรุปโปรแกรมการแข่งของนักปั่นทุกคน
“Nothing is concrete at the moment and a lot depends on what Chris wants to do next… it’s all talk until December because that’s when the riders and team sit down and really discuss race plans. We’ll have to wait and see.”
3. อูรานพร้อมรับมือทั้งจิโรและตูร์ 2015
เอซ GC คนเดียวของทีม Omega Pharma-Quickstep และอันดับสอง Giro d’Italia ปีนี้ ริกโอเบอร์โต้ อูรานไม่รีบร้อนตัดสินใจสนามแกรนด์ทัวร์ที่เขาอยากจะลงแข่งในฤดูกาลหน้า
อูรานบอกกับผู้สื่อข่าวว่า ทั้งตูร์และจิโรก็สำคัญพอๆ กันแต่เส้นทางก็ต่างกันมาก ปกติตูร์จะมีระยะทาง time trial มากกว่าจิโร แต่เมื่อผู้จัดเผยเส้นทางออกมาว่าตูร์ปีหั่นเส้นทาง TT เหลือแค่ไม่ถึง 50 กิโลเมตร บวกกับจำนวนเส้นชัยบนยอดเขาที่เพิ่มขึ้น ก็น่าจะเป็นตูร์ที่แปลกกว่าทุกๆ ปีซึ่งปกติจะไม่ค่อยมีเส้นชัยบนยอดเขามากเท่ารายการอื่น และสเตจ TT ก็จะยาวกว่านี้
“The course is very different. The Tour usually has one or two long time trials but in 2015 there’s just one very short one,” he said. “The Tour has a lot of explosive finishes too, so it’s changed a lot.”
อูรานจะตัดสินใจเป้าหมายสำหรับฤดูกาลหน้าช่วงเดือนธันวาคมนี้
4. เพทัคคีเตรียมเข้าสังกัด Neri-Sottoli
นสพ. La Gazzetta dello Sport รายงานว่าอดีตเจ้าของรางวัลเสื้อจ้าวความเร็วในตูร์ เดอ ฟรองซ์ อเลซานโดร เพทัคคี (OPQS) จะย้ายไปอยู่กับ Neri-Sottoli ทีมระดับดิวิชันสองจากอิตาลีในฤดูกาลหน้า
ฤดูกาลที่ผ่านมา OPQS จ้างเพทัคคีเพื่อเป็นลีดเอาท์ให้เอซสปรินเตอร์ของทีม มาร์ค คาเวนดิช แต่เมื่อ OPQS ไม่ต่อสัญญาให้ เพทัคคีต้องหาต้นสังกัดใหม่ ถึงแม้เขาจะอายุมากแล้วแต่ก็บอกว่าอยากจะแข่งต่ออีกสักสองปี การย้ายทีมครั้งนี้ หน้าที่เขาก็จะยังคงเป็นการลีดเอาท์ให้สปรินเตอร์ของทีมเหมือนเดิม
5. เสื้อเหลืองโฉมใหม่ในรายการ Tour de France
กลายเป็นสัญลักษณ์ที่น่าจดจำที่สุดในวงการกีฬาจักรยานไปแล้วกับรางวัล “เสื้อเหลือง“ ซึ่งแสดงสถานะผู้นำและผู้ชนะการแข่งขันจักรยานที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างตูร์ เดอ ฟรองซ์ ผู้จัดแข่ง ASO เขาก็พยายามดีไซน์แบบเสื้อเหลืองใหม่ๆ ทุกปี สำหรับปีหน้ายังใช้แบรนด์ Le Coq Sportif เป็นผู้ออกแบบเหมือนเดิม
ดีไซน์สำหรับปี 2015 อ้างอิงจากเสื้อเหลืองในปี 1975 ซึ่งจะมีปกคอเป็นสไตล์แมนดาริน ประดับด้วยลวดลาย Arc de Triomphe ตัดในทรงแนบเนื้อ Race Fit เพื่อความแอโรไดนามิก แน่นอนว่าเมื่อโปรใส่จริงแล้วก็ต้องมีลวดลายสัญลักษณ์โลโก้ทีมและสปอนเซอร์ด้วย หน้าตาจะออกมาเป็นยังไงต้องรอดูกัน แต่สำหรับแฟนๆ ที่อยากใส่เสื้อเหลือง คาดว่า Le Coq น่าจะทำออกวางจำหน่ายสำหรับคนทั่วไปเหมือนทุกๆ ปีครับ
6. The Longest Lap in Revolution Series
เมื่อวานในกรุ๊ปเฟซบุ๊ค Ducking Tiger Cycle Club มีคนถามว่านักแข่งในคลิปนี้เขาทำอะไรกัน? ทำไมทำ trackstand เป็น 4-5 นาที ก่อนจะเริ่มสปรินต์? ลองดูวิดีโอกันก่อน
DT ได้อธิบายในคอมเม้นต์ไว้ตามนี้
“จริงๆ มันมีความหมายครับ สิ่งที่ผู้จัดแข่งเขาทำในสนาม Reveolution Series ของอังกฤษครั้งนี้ก็คือเอาการแข่งสไตล์ Marymoor Crawl มาใช้ Marymoor Crawl มีต้นกำเนิดจากอเมริกา ซึ่งกฏการแข่งก็คือผู้เข้าแข่งขันต้องทำ trackstand ให้ได้ตามระยะเวลาที่กำหนด อาจจะ 3-4 นาทีใครเท้าแตะพื้นก่อนคนนั้นออกจากการแข่งขันใครที่อยู่จนครบกำหนดก็ต้องรอกระดิ่งสั่นพอสั่นปุ๊บให้สปรินต์กันหนึ่งหรือสองรอบโดรมแล้วแต่สนามผู้ที่สปรินต์ชนะก็จะได้รางวัลไป
เป็นการแข่งที่ท้าทาย เพราะต้องอาศัยการทรงตัว ไหวพริบ และจังหวะ timing ให้ดี หลุดจาก trackstand เมื่อไร จะวางตัวยังไงให้สปรินต์ชนะคนอื่นได้? ลองดูวิดีโอต้นตำรับจาก Marymoor velodrome ตามวิดีโอข้างล่างนี้ครับ“
