คอลัมน์ Dream Ride เป็นความพยายามของเราในการหาจักรยานที่น่าสนใจและแปลกตาไปจากที่มีวิ่งกันทั่วไปในประเทศและมีจุดเด่นบางอย่างที่น่าหยิบมาเล่าเรื่องครับ
* * *
19 ปีที่แล้ว บ็อบ พาร์ลีไม่มีความรู้เรื่องจักรยานเลยสักนิด เขาเป็นคนทำเรือแข่งที่ใช้โครงคาร์บอนคอมโพสิท เป็นเวิร์กช็อปเล็กๆ ในรัฐแมสซาชูเซตส์ แต่ด้วยใจรักอุปกรณ์กีฬา high performance ไม่นานเขาก็มาสู่วงการจักรยานครับ
DT เคยเล่าถึงเรื่องราวของแบรนด์ Parlee ไว้ในโพสต์นี้
แต่จะเท้าความสั้นๆ ก็คือ เขาเริ่มทำจักรยานคาร์บอนครั้งแรกในปี 1999 แล้วไปโด่ดังในปี 2002 เมื่อไทเลอร์ ฮามิลตัน โปรชาวอเมริกันจากทีม CSC จักรยานล้มใน Giro d’Italia ปีนั้นพอดี ทีมของฮามิลตันสนับสนุนโดยจักรยาน Look แต่พอมีคนเช็คจักรยานคันที่เขาทำล้มจนเฟรมแตกก็พบว่าเฟรมเป็นของ Parlee!
เหตุการณ์นั้นทำให้ Parlee เป็นที่พูดถึง เพราะไม่มีใครคิดว่าเวิร์กช็อปผลิตโครงเรือแข่งเล็กๆ จะสามารถทำจักรยานคาร์บอนที่ใช้แข่งขันในระดับสูงสุดได้ แถมข้ามหน้าข้ามตาแบรนด์เก่าแก่อย่าง Look ที่เป็นสปอนเซอร์อย่างเป็นทางการเสียด้วย จักรยานคันนั้นคือ Parlee Z1
ปัจจุบัน Parlee ก็ยังเป็นแบรนด์บูทีคขนาดเล็กอยู่ครับ มีให้เห็นไม่เยอะ หนึ่งเพราะราคาที่สูงเอาเรื่อง และสองไม่เน้นการตลาดหวือหวา Parlee Z-Zero ที่หยิบมาวันนี้เป็นเฟรมรุ่นสูงสุดของ Parlee เป็นเฟรมแบบสั่งตัดตามไซส์เจ้าของ เจ้าของคนปัจจุบันซื้อมาแต่เฟรมแล้วนำมาประกอบเลือกชิ้นส่วนเอง
เฟรม Parlee Z-Zero เป็นเฟรมทรง traditional มากับท่อนอนสโล้ปไม่เยอะ เป็นท่อกลมทั้งคัน จุดเด่นคือประกอบท่อด้วยกระบวนการที่ไม่ใช้ทั้ง lug และ tube-to-tube เป็นการเชื่อมคาร์บอนโดยไม่ใช้ตัวประสาน (คล้ายๆ monocoque) เพราะอย่างวิธีการเข้าท่อแบบ lug และ tube-to-tube ก็ต้องใช้เรซิ่นจำนวนมากในการประสานท่อให้ติดกันและแข็งแรง วิธีนี้ Parlee กล่าวว่าได้เฟรมที่แข็งแรงกว่าและน้ำหนักเบากว่ามาก
Z-Zero ที่ออกมาจากช็อป Parlee ส่วนใหญ่ไม่เน้นทำสี บ็อบ เจ้าของแบรนด์ค่อนข้างมั่นใจว่างานคาร์บอนนู้ดๆ ของเขาเก็บดีเทล์ได้เหนือกว่าเฟรมที่ออกจากโรงงานทั่วไปแน่นอน ซึ่งต้องบอกว่าพอได้จับของจริงแล้วก็เป็นไปตามลุงบ็อบว่าครับ ไม่ค่อยได้เห็นงานคาร์บอนด้านที่เนียนสนิทแบบนี้บ่อยๆ
Parlee ผลิตท่อคาร์บอนที่จะใช้ประกอบเฟรมภายในเวิร์กช็อปของตัวเอง แทนที่จะซื้อท่อคาร์บอนสำเร็จ เพื่อที่จะจูนสมรรถภาพให้ได้ตามที่เจ้าของรถต้องการ กระบวนการเริ่มจากนำแผ่นคาร์บอนชีทมาตัดให้ได้ขนาดที่ต้องการ แล้วพันรอบแกนเพื่อให้ได้ทรงท่อกลม จากนั้นนำท่อคาร์บอนมาเชื่อมกันเพื่อขึ้นโครงจักรยาน ก่อนจะนำไปใส่โมลด์อบให้เฟรมอยู่ตัว
Parlee กล่าวว่ากระบวนการนี้ช่วยให้คุมคาแรคเตอร์รถได้ละเอียด เพราะผู้ผลิตสามารถคุมการให้ตัวและความสติฟฟ์ของจุดเชื่อมท่อทุกท่อได้ทั้งหมด
รอยต่อท่อที่ออกมาจึงมีขนาดเล็ก และแน่นอนว่าการประกอบท่อแบบที่ไม่ใช่ full monocoque ทำให้กำหนดระยะและขนาดท่อต่างๆ ได้ตามสรีระของเจ้าของรถอย่างละเอียด ถ้าไม่อยากไซส์สั่งตัด ก็มีไซส์มาตรฐานให้เลือกละเอียดถึง 16 ไซส์ น้ำหนักเฟรมเริ่มต้นที่ 800 กรัม
ตะเกียบเป็นรูปทรงมาตรฐานแต่น้ำหนักเบาพิเศษที่ 280 กรัมเท่านั้น
จับคู่กับเบรค EEcycleworks
และล้อ Lightweight Meilenstein
เบาะคาร์บอนจาก Riesel Design
และใบจานฟูลคาร์บอนจาก Carbon-Ti
ที่แมทช์กับชุดจาน THM Clavicula M3 และพาวเวอร์มิเตอร์ SRM
แฮนด์และสเต็มจาก ENVE
น้ำหนักรวม 6.1 กิโลกรัม (เฟรมไซส์ 56cm / M-L Tall)
ใครชอบรุ่นนี้ดูรายละเอียด Parlee Z-Zero เพิ่มเติมได้ที่เว็บ Parlee ครับ