ในช่วงเวลาที่วงการจักรยานถนนกำลังรับเทคโนโลยีใหม่อย่างระบบดิสก์เบรกเข้ามา โดยเฉพาะฝั่งผู้ผลิตจักรยานที่เริ่มหันมาพัฒนาเสือหมอบดิสก์เบรกอย่างจริงจัง จนบางแบรนด์ถึงกับประกาศว่าจะไม่ทำจักรยานริมเบรกอีกแล้ว คำถามจึงเกิดขึ้นมากมายในกลุ่มคนปั่นและร้านค้า อาทิเช่น
- ดิสก์เบรกจะมาแทนที่ระบบริมเบรกที่ใช้กันมาหลายสิบปีเลยหรือเปล่า?
- จะยังหาอะไหล่ริมเบรกได้มั้ยในอนาคต?
- ถ้าเราจะซื้อจักรยานใหม่ จะต้องซื้อระบบไหนดี?
- แล้วถ้ามีจักรยานอยู่แล้ว จะซื้อริมเบรกหรือดิสก์เบรกดี เพราะอะไหล่ราคาสูงอย่างล้อนั้นใช้ด้วยกันไม่ได้แล้ว?
ทีม DT เราก็มีข้อสงสัยนี้เช่นกัน และเท่าที่คุยกันก็พบว่ามีความเห็นไม่ตรงกันด้วย มีทั้งความคิดที่ว่าดิสก์เบรกเป็นการตลาดอย่างหนึ่งที่ผู้ผลิตใช้เป็นกลยุทธ์กระตุ้นตลาด แต่ไม่ได้มีประโยชน์อะไรนัก
ขณะเดียวกันก็มีทีมเราที่คิดว่าดิสก์เบรกเป็นเทคโนโลยีที่ดีและจะเป็นก้าวต่อไปของวงการเสือหมอบ ที่จะช่วยเปิดโอกาสให้นักออกแบบพัฒนาเฟรมได้ดีขึ้นไปอีก
เราคิดว่าความเห็นที่ต่างกันนี้ ถ้าจับมาคุยกันรอบวง ก็น่าจะสะท้อนมุมมองต่างๆ จนเป็นไอเดียใหม่ๆ ซึ่งน่าจะมีประโยชน์กับหลายคนที่ชั่งใจเรื่องดิสก์เบรกอยู่เช่นกัน เราเลยให้ทีมเรามาคุยกันในห้อง LINE DT อยู่หนึ่งชั่วโมงเต็ม ลองมาดูกันว่ามีความเห็นยังไงบ้างครับ
ผู้เข้าร่วมสนทนามี 5 คน
คูน (Koon) – ผู้ก่อตั้ง Ducking Tiger
วี (Thanyavi) – นักวิจัยและแพทย์, นักเขียน Ducking Tiger
ท็อป (Topby) – ที่ปรึกษาด้านการตลาด, เจ้าของร้านจักรยาน, Contributor Ducking Tiger
สุ่ม (Zummy) – นักดนตรี, นักปั่นทีม Nich-100 Plus, Contributor Ducking Tiger
ก๊อง (GNG) – ดีไซน์เนอร์, Contributor Ducking Tiger
รูปแบบการคุย เรายกมาจากที่เราสนทนากันแชท LINE ครับ เราปรับแก้ภาษาให้เข้าใจง่ายและอ่านง่ายขึ้นนิดหน่อยแต่คงใจความสำคัญเดิมๆ ไว้ทั้งหมด เราเลือกไม่สรุปแยกความคิดเป็นคนๆ เพราะอยากให้ลองคิดตามบทสนทนา โดยจะตัดแบ่งบทสนทนาเป็นพักๆ จะไม่ได้อ่านยาวเป็นพรืดจนเกินไป
(1)
Topby โอเค เริ่มเลยนะครับ
Topby วันนี้ประเด็นที่จะมาคุยกันคือดิสก์เบรกในจักรยานเสือหมอบ มันคือนวัตกรรมจริงๆ หรือเป็นแค่กลยุทธ์ทางการตลาด (marketing gimmick) เพื่อสร้างอุปสงค์ในตลาดและอุตสาหกรรมจักรยาน มีความเห็นแบบไหน ว่ามาครับ ส่วนตัวผมคิดว่า เป็นแค่ marketing gimmick อย่างนึง เพราะอุตสาหกรรมกำลังอยู่ในช่วงตกต่ำทั่วโลก โดยเฉพาะฝั่งเสือหมอบ
Koon งั้นพี่ท็อปขยายประเด็นนี้นิดนึงครับ ให้เหตุผลว่าทำไมมันถึงเป็นแค่ gimmick
Topby เหมือนอุตสาหกรรมจักรยาน กำลังพยายามจะปั้นดิสก์เบรกขึ้นมาแทนที่และผลักให้ ริมเบรกเป็นของตกยุค เพื่อให้คนจ่ายเพิ่ม ซื้อของใหม่ ซึ่งการเปลี่ยนเป็นดิสก์ จะมีผลดีกับหลายอย่างในอุตสาหกรรมจักรยาน เช่น เฟรม ชุดล้อ ชุดขับและระบบเบรกใหม่ที่ต้องรองรับดิสก์ ผมว่ามันเป็นเทคโนโลยีที่ที่มีมานานแล้ว ทั้งในเสือภูเขาและไซโคลครอส
zummy สำหรับผมที่ตอนนี้ใช้เสือหมอบดิสก์เบรกเป็นหลัก ก็คิดคล้ายๆ กับท็อปนะ แต่ด้วยเหตุผลส่วนตัวที่จะประกอบจักรยานคันใหม่ และคิดว่าต่อไปตลาดมันจะไปทางดิสค์ ผมก็เลยเปลี่ยนเป็นดิสค์ไปซะเลย
Topby ครับ มองย้อนกลับไปในอดีต มักจะมีพัฒนาการที่ทำให้การปั่นจักรยานมัน ดีขึ้น ง่ายขึ้น จริงๆ ไม่ว่าจะเป็น จากการเปลี่ยนจากชุดเกียร์สับถัง มาเป็นชิฟเตอร์ที่มือเพื่อความสะดวก หรือ จะเป็นนวัตกรรมด้านวัสดุที่ มีอลูมิเนียม เข้ามาเป็นตัวหลักแทนโครโมลี จนตอนนี้ เป็นคาร์บอนไฟเบอร์ที่มาเป็นตัวยืน ซึ่ง มันมีความแตกต่างอย่างมีนัยยะสำคัญ
ในทางกลับกัน ที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าดิสก์จริงๆมีมานานแล้ว ในรถประเภทอื่น แต่ทำไมตอนนี้กลับพยายามจะดัน และสร้างกระแสจับมันมาอยู่บนเสือหมอบ พูดง่ายๆ คือดิสก์เบรกอาจจะไม่ใช่ real innovation หรือเปล่า แต่อุตสาหกรรม พยายามจะชักจูงไปทางนั้น ว่าเสือหมอบยุคใหม่อ่ะมันต้องดิสก์นะ
zummy พอมาตรงนี้เลยคิดขึ้นมาได้ว่า น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมา สวนทางกับครั้งนึงที่วงการพยายามทำให้น้ำหนักเบาลง ตอนนี้เหมือนกับว่าเรื่องน้ำหนักเบาไม่ค่อยคิดถึงกันแล้วรึเปล่า แม้แต่ตัวผมเองที่ต้องแบกน้ำหนักรถหนักขึ้นชัดเจน จาก 7 โลกลาง ไป โล8ต้นๆ แต่ก็ไม่ใส่ใจเท่าไหร่
Topby แบบนี้พี่กำลังบอกว่าดิสก์เบรกมีความสำคัญมากกว่าน้ำหนักเบา
Koon ผมว่าจะถามประโยคนั้นหละ พี่สุ่มไม่ใส่ใจเพราะมันเบรคดีจนไม่ต้องแคร์น้ำหนักงี้มั้ยครับ
zummy อืมม เหมือนว่าเราไม่แคร์แล้ว เพราะเราแสร้งทำเป็นไม่แคร์รึเปล่า เพราะเราคิดว่า คนที่จะมาใช้ดิสก์ ต้องเจอน้ำหนักที่มากขึ้นเหมือนกันหมด และเราหวังว่า อุปกรณ์รถดิสมันจะเบาลงและราคาถูกลง
Topby ลองมาดูข้อดีข้อเสียกันดีกว่าว่าริมเบรกเทียบกับดิสก์ต่างกันยังไง
ข้อดีของริมเบรกคือ
- น้ำหนักเบา
- ราคาไม่แพง
- เซอร์วิสง่าย
- ลู่ลมกว่าในหลายกรณี
ข้อเสีย
- ระบบเบรคสู้ดิสก์ไม่ได้
- เบรกลงเขาเสี่ยงล้อพัง
- ประสิทธิภาพด้อยกว่าดิส หากเจอน้ำ โคลน
ข้อดีของดิสก์เบรก
- เบรคประสิทภิภาพสูงกว่า
- ไม่ต้องเสี่ยงเรื่องขอบล้อ
- ไม่ต้องกังวลเรื่องสภาพของขอบล้อ หรือสภาพต่างๆที่เจอเช่น ฝน โคลน
ข้อเสีย
- หนักกว่า
- ไม่แอโร่เท่า
- อะไหล่รองรับปัจจุบันยังน้อย > ซึ่งผมมองว่าเป็นช่องให้ตลาดไปต่อได้
Topby ถึงเป็นที่มาว่า ทางไปต่อคือ ให้คนเปลี่ยนรถที่มีกันนี่แหละ เพราะมันตันแล้วด้วยเทคโนโลยีที่ใช้กันปัจจุบัน ทางเดียวคือต้องทำให้ของปัจจุบันมันตกรุ่นและเปลี่ยนซะ ซึ่งการเปลี่ยนส่งผลในวงค่อนข้างกว้างอย่างที่กล่าวไปคือ เฟรม ล้อ ชุดขับ แทบยกคัน นอกเสียจากจะมีวัสดุที่ดีกว่าคาร์บอนในราคาที่จับต้องได้ ซึ่ง ตรงนี้ ขายได้ก็แค่ segment บนในช่วงแรก ส่วนเรื่องรถดิสก์ สามารถขายได้ในทุกระดับราคา
Some bike industry gossip https://t.co/eJ9Cjf2gwG via @matosvelo (🇫🇷) …including UCI certain to lower the 6.8kg minimum weight for bikes, but some brands lobbying for it not to be too low for fear their disc-brake models look too heavy in comparison.
— the Inner Ring (@inrng) July 12, 2018
(แปล: ข่างวงในจากเว็บ Mastovelo รายงานว่า ทางสหพันธ์จักรยานนานาชาติมีแผนจะเปลี่ยนกฏน้ำหนักขั้นต่ำของจักรยานเสือหมอบที่ใช้ลงแข่งขันได้ จะลดลงให้ต่ำกว่า 6.8 กิโลกรัม ให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีจักรยานปัจจุบันที่สามารถผลิตชิ้นส่วนจักรยานที่แข็งแรงและมีน้ำหนักเบาได้ แต่ฝั่งผู้ผลิตหลายๆ รายพยายามล็อบบี้ให้ UCI ไม่ลดน้ำหนัก เพราะกลัวว่าจักรยานดิสก์เบรกที่กำลังโปรโมตจะดูหนักเกินไปเมื่อเทียบกับเสือหมอบริมเบรก)
Thanyavi เป็นแค่ข่าวลือ แต่ก็ดูมีมูลมากๆ ทุกวันนี้เสือหมอบออกใหม่ทำน้ำหนัก 6.8 โลได้สบาย ก็ไหนๆ ถ้าเวลาแข่งต้องให้โปรถ่วงตะกั่วอยู่แล้ว ก็ใช้ดิสก์แทนละกัน เบรคดีด้วย
zummy ก็น่าคิดเลยครับ
Koon ในมุมของพี่ท็อป ผมสรุปถูกมั้ยถ้าจะพูดว่า ดิสก์เบรกในเสือหมอบเนี่ยไม่ต้องมีก็ได้
Topby มีได้ แต่ไม่ใช่เป็น a must ในความหมายของผม ความหมายคือ industry พยายามจะสร้างกระแสใหม่ เพื่อให้ทุกคนไปต่อได้ แต่จริงๆ มันไม่ได้จำเป็นครับ ทุกคนในที่นีคือ คนขายนะ
Thanyavi แต่ถ้าเมื่อไร มันลงไป สมมุติ 6.0kg จะยังเห็นทีมอย่าง Trek Segafredo ใช้ดิสก์ล้วนทุกคนทุกงานอยู่หรือเปล่า ?
Topby ในกรณีที่ลงไป 6 โล ถ้าดิสก์ทำได้ เขาก็ใช้ครับ เพราะในโปรทัวร์ ส่วนใหญ่โปรจะใช้อะไรมันก็เป็นใบสั่งจากสปอนเซอร์แทบทั้งนั้น ธุรกิจล้วน เพราะถือว่าจ่ายแล้วแล้ว ก็ต้องโปรโมทในสิ่งที่ต้องการให้เต็มที่
Koon งั้นผมจะเล่นบทแย้งกับพี่ท็อปครับ เป็น devil advocate จะได้มีหลายๆ มุมนะฮะ
Topby จัดมาเลย ตามที่เคยคุยกันฮ่าๆ ใครจะแย้ง จะเห็นด้วย ลงความเห็นมานะ จะได้ เห็นกว้างครับ
zummy เหตุผลท็อปผมเข้าใจเลย แต่ถ้าในฐานะคนที่ใช้ ก็ต้องบอกว่าชอบฟีลลิงของดิสก์มากกว่า ซึ่งอาจเป็นการอุปทานก็ได้ คือการลงเขาผมว่าน่าจะไม่ต้องอธิบายนะ แต่ฟีลลิงการปั่นทั่วไป การเบรคในโค้ง ออกโค้ง ผมรู้สึกได้ว่าทำได้ดีกว่าริมเบรคนะ แต่ซึ่งผมก็จะมีคำถามกับตัวเองเหมือนกันแหละ ว่าศักยภาพในระดับสมัครเล่นอย่างเรา ต้องใช้มั้ย?
Topby ถูกต้องครับ ไม่เถียงเรื่องศักยภาพของดิสก์เลย ยังไงมันก็เหนือกว่าริมเบรก แต่ที่ผมสงสัยคือ สิ่งที่อุตสาหกรรมพยายาจะทำ มันคือการชักจูงไปให้ซื้อในสิ่งที่อาจจะไม่ได้จำเป็นขนาดนั้นรึเปล่า โดยพยายามวางตำแหน่งให้ดิสก์เป็นเหมือนนวัตกรรมระดับ breakthrough ที่จะมาแทนที่ริมเบรก ผลักให้ริมเบรกเป็นของตกรุ่นไป
(2)
Koon ขอคุยเป็นด้านๆ นะครับ
ผมมองว่า innovation หรือนวัตกรรม มันไม่จำเป็นต้องเป็น break through innovation ก็ได้ คือมันต้องเริ่มที่ไหนสักที่ครับ อย่างดิสก์ในเสือหมอบ ผมมองแบบระยะยาวคือ มันพัฒนามานานพอสมควรแล้ว และก็กระโดดค่อนข้างไว จากวิธียึดแบบ post mount ที่ลอกมาจากเสือภูเขา แต่พบว่าไม่เวิร์ก เพราะเทอะทะและไม่เข้ากับเฟรมหมอบ มาจนเป็น flat mount ที่ Shimano คิดค้น
แกนปลดก็ปรับทีละนิดจาก quick release มาเป็น thru axle ในขนาดที่เหมาะสม ซึ่งถ้าเรามองจากการพัฒนามาเรื่อยๆ ของมัน ประมาณ 2 generation มันก็เป็นพัฒนาการที่มีลำดับชัดเจน จนรูปแบบดูดีและน้ำหนักโอเค ในอนาคตก็คงเบากว่านี้ แต่ด้วยโครงสร้างคงไม่เบาเท่าริมเบรก
ประเด็นนี้ผมกลับไม่มองว่า industry พยายามทำให้ริมเบรคเป็นเทคโนโลยีที่ตายไปครับ มันมีบางมุมนะที่ดูจะเป็นอย่างนั้นเช่นเสือหมอบแอโรใหม่เกือบทั้งหมดเป็น disc only อันนี้ไม่เถียง มันดูมัดมือชกเหมือนกัน แต่ก็นั่นหละ ผมมองว่ามันเหมือน iphone ใหม่ไม่ใส่แจ็คหูฟังมาให้ครับ
แต่การบังคับแบบนี้ เท่าที่คุยกับผู้พัฒนารถจาก Specialized, Cervelo, และ Chapter 2 ทั้งหมดมองว่ามันจะได้ผลดีกว่าในระยะยาว คือการทำเฟรมดิสก์ มันทำให้ได้รถที่ประสิทธิภาพดีกว่า (ยกเว้นน้ำหนัก) มันเลยโยงมาในเรื่องที่สองคือ Performance
ถ้าเทียบกับ apple อีกที ก็คือ มันบอกว่า เอารูหูฟังออกจะได้เครื่องที่โคตรบาง (เหมือนตอนเอา dvd ออกจาก macbook)
ผมว่าความกังวลจริงๆ ของแบรนด์พวกนี้ที่ไม่ทำเฟรมริมเบรกอีกแล้วคือ มันเปลืองมากที่จะทำสองโมลด์ บวกกับทิศทางการตอบรับของ ผู้บริโภคครับ ในบางตลาดเช่นอเมริกา ปีที่แล้วยอดขายเบรกเสือหมอบของ SRAM กว่า 87% ในฝั่ง OEM เป็นดิสก์เบรก ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้มีตัวเลือก road disc ขนาดนั้น (ฝั่ง retail ยอดกรุ๊ปดิสก์เบรกคิดเป็น 13% จากยอดขายทั้งหมดของ SRAM) แสดงว่าอุปสงค์นี้มาจากฝั่งผู้บริโภคด้วยหรือเปล่า?
Topby งั้นผมถามกลับว่าปัญหาที่ริมเบรก มีต่อนักปั่นปัจจุบันมีอะไรบ้าง ที่เห็นชัดที่สุด คือเรื่องความร้อน ซึ่งหลายเจ้าที่ผลิตล้อ รวมถึงผ้าเบรค ก็มี solution ออกมาแก้ตรงนี้ ส่วนเรื่องความปลอดภัย มันน่าจะดีพอ เพราะมันก็ใช้กันแบบนี้มานมนาน อาจจะมีตัวที่ ประสิทธิภาพสูง-ต่ำตามราคาไป และ concern ที่บอกว่า แบรนด์พวกนี้จะไม่ทำริมเบรกนี่แหละเป็นเหตุผลว่ามันคือกลยุทธ์การตลาด เป็นกิมมิคที่จะย้ายเจ้าของเสือหมอบให้ไปอยู่แพลตฟอร์มใหม่ จะได้อัปทั้งยวง
Thanyavi การจะมีล้อคาร์บอนที่เบรคดีเท่าอลู ต้องจ่ายแพงขึ้นกว่าล้ออลูประมาณสามเท่าครับ 55 ล้อ Full carbon clincher ไม่ใช่ของที่ทำให้ดีได้ง่าย ๆ
Topby ต้องลองทำ segment ครับ เพราะเรื่องความร้อน ส่งผลกับการขึ้น-ลงเขา อย่างผมนี่แทบไม่มีปัญหาอะไรเพราะแทบไม่ขึ้น-ลงเขา เพราะงั้นจะมีคนกลุ่มนึงไม่ได้สนใจ เรื่องนั้นเท่าไร
zummy ผมว่ามีความกังวลของผู้ปั่นบ่อยๆ ด้วย เวลาลงเขาน่ะแหละ
Topby ใช่ครับ นั่นคือปัญหาของริมเบรกซึ่งแก้ได้ด้วยการหาล้อที่ดีจริง เบรคที่เหมาะ หรือเล่นล้ออลูไป คือยังพอมีทางเลือกอื่นไง
zummy แต่ก็จะต้องมีล้อมากกว่า 1 คู่
Topby ตามตัวอย่างที่ยกมา เกียร์สับถังเนี่ย ปัญหาของมันคือ มันไม่สะดวกเลยเวลาจะเปลี่ยนตอนปั่น ต้องเอามือออกจากแฮนด์ ล้วงลงไปจับตัวสับเกียร์ ชิฟเตอร์สมัยใหม่ที่เปลี่ยนเกียร์บนฮู้ดจึงเป็นนวัตกรรมที่ดีพอ เพราะมันแก้ปัญหาจริงๆ หรืออย่างวัสดุโครโมลี ปัญหาของมันคือ หนัก และย้วย และ มีอัตราการเสื่อมถอย พอแก้มาเป็นอลูมิเนียม ปัญหานี้ก็จบ ทั้งเบาขึ้นและทนขึ้น แต่ก็แลกมาด้วยความกระด้าง จนมีคาร์บอนแก้ปัญหาวัสดุเฟรมได้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความรู้ผู้ผลิต ส่วนดิสก์ผมยังไม่เห็นเหตุผลที่ดีพอ
Thanyavi ขอบเบรคระเบิดน่ะครับ ปัญหาใหญ่เลย Reynolds งี้ แก้เรซิ่นอยู่สองที ยังไม่ดี ตอนนี้เลิกทำไปแล้ว
Topby มี solution ในการแก้ในตลาดอยู่แล้วตามที่บอกครับคือ ล้อที่ดีพอ / ผ้าเบรค หรือ ล้อที่เหมาะ
Koon เอาจริงผมว่า ล้อระเบิดก็เป็นเหตุผลที่ดีพอนะ เพราะมันไม่ได้ failsafe 100% ขนาดที่ทุกคนจะทำได้ จะเบรคให้ไม่ระเบิดคือ คุณต้องมีทักษะที่ดีพอ หรือต่อให้เก่ง ถ้าเจอรถแน่นๆ ต้องกำตลอดนี่ยังไงก็พัง
Topby แต่อย่าลืมว่า คนปั่นจักรยาน ทุกคน ไม่ได้จะต้องลงเขากันด้วยความเร็วสูง จนเสี่ยงไปถึงเรื่องระเบิด
Thanyavi ลงช้านั่นแหละครับ อันตราย 5555
Koon ใช่เลย คนลงเร็วมันไม่ระเบิดแน่ๆ เพราะสกิลมีอยู่แล้ว (แต่ทำไมพี่สุ่มทำล้อ Mavic Cosmic บวมนะครับ 555)
Thanyavi ลงแบบพี่กุ๊กแมวทองเนี่ย ไม่อันตรายครับ เพราะผ้าเบรคแทบไม่เจอขอบเบรคเลย
Topby อันนั้นขึ้นอยุ่กับบุคคลครับ เราพูดถึงคนทั่วไปดีกว่า
zummy วันนั้นฝนตกครับ นี่คืออีกปัญหาที่เลี่ยงจะกำเบรกแช่ไม่ได้
Thanyavi ถ้าว่ากันตาม TOUR Magazine มีแค่ 2-3 ยี่ห้อเท่านั้นครับที่ขอบคาร์บอนดีพอจะลากแช่ลงเขาได้ คือ Campagnolo 3C, Zipp Showstopper และ Mavic iTGMax ซึ่งก็ราคาโหดสิ้นทุกราย
Topby ถ้ามันเป็นปัญหา ขนาดนั้น ทำไมมันเพิ่งมาเริ่มตอนนี้ และทำไม ความอันตรายจุดนี้ ไม่ค่อยมีคนพูดถึง โดยทั่วๆไป?
Thanyavi ดิสก์คือคำตอบระดับหนึ่ง ใช้ล้อคาร์บอนเฉิ่ม ๆ 1-3 หมื่นก็ได้ ความร้อนอยู่ที่โรเตอร์ใบดิสก์ไปแล้ว
Koon ตอบคำถามหลังได้ไม่ยากครับ ทำไมคนไม่พูดถึงก็เพราะ industry พยายามไม่พูดถึงครับ ไม่งั้นก็ขาย carbon clincher ไม่ได้ มีปัญหาจับเคลมอย่างเดียว ไม่เถียงให้เสียเวลา
Topby ถ้าพูดด้วยโลจิคนี้ มันก็เข้าทางว่าวงการพยายามจะให้คนไปดิสก์ เลยโปรโมทแต่ดิสก์ ณ ชั่วโมงนี้ และถ้าแบรนด์ไม่ตาม ก็ ไม่ได้ยอดขาย เพราะคนอื่นไปหมด
Thanyavi expensive, fail easily, still buy 555555
zummy ในแง่ของผม เรื่องจบที่ล้อเดียวที่เป็นดิสเบรก เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับตัวเองนะ ในตอนนี้
Koon แต่ด้วยเหตุผลที่ว่ามันเป็นเทคโนโลยีที่ดีกว่ามั้ยครับ (ในเรื่องของความปลอดภัยในล้อ) อีกอย่างมันก็ไม่ได้เพิ่งทำนะครับ อย่างที่ผมบอกข้างบน มันมีมาสองเจเนอเรชันละ
Topby พี่สุ่มหมายถึงยังไงครับ จบที่ล้อเดียว
zummy ล้อเดียวไปได้หมด ใช้แข่ง ปันเล่น ไปขึ้นเขาได้ถ้าไม่ใส่ใจว่าจะหนัก ลงเขาสบาย
Topby และยอมรับด้วยว่า มันดีกว่าริมเบรก แต่ ถามว่ามัน จำเป็นหรือเปล่า และ มันจะเป็นสิ่งที่ดีขนาดมาแทนริมเบรกเลยหรือเปล่า
Koon ถ้ามองจากฝั่ง high performance ลงมา อีกเหตุผลที่เคยคุยกับพี่ท็อปไว้แล้วก็คือนวัตกรรมจากตลาด road bike แทบทั้งหมดมาจากการแข่งขันระดับโปรทัวร์ แต่ดิสก์เบรกมันตรงข้าม มันมาจากความต้องการจากฝั่งรากหญ้าเช่น gravel, cx ก่อนที่จะกระโดดเข้ามาอยู่ใน road racing bike
ทีนี้ทำไมในโปรทัวร์ถึงมาช้ากว่าเพื่อน ก็เพราะมันมีกฏเรื่องน้ำหนักอยู่ ความเป็นจริงก็คือนักปั่นสมัครเล่นสามารถมีรถที่เบากว่าและทำงานได้ดีกว่า (ในด้านเบรค) ก่อนโปรใช้มาหลายปีแล้ว
Koon อีกเหตุผลที่ผมถามวิศวกรมาก็คือ เทคโนโลยีคาร์บอนไฟเบอร์ยังมาไม่ถึงจุดที่จะทำให้น้ำหนักรถดิสก์โดยรวมน่าถวิลหาครับ ถ้าเราดูกันยาวๆ จะเห็นว่ารถต่ำ 6.6 โลสมัยนี้ใช้เงินไม่เยอะ เทียบกับ 4-5 ปีที่แล้ว
Topby อันนี้มันตาม product life cycle
Koon ไม่ใช่เสียทีเดียวนะครับ เราปฏิเสธไม่ได้ว่ารถจัรกยานโดยรวมตัวถังเบาขึ้นทุกปีครับ โดยมีราคาลดลง คือตอนนี้ถึงจุดที่สามารถทำเสือหมอบแอโรดิสก์ให้น้ำหนักมากกว่าเกณฑ์ uci แค่ 300 กรัม เลยมาพยายามขายกัน ก่อนหน้านี้ โปรโมทให้ตายก็ขายไม่ได้นะผมว่า เพราะก่อนหน้านั้นมันยุคของความเบา ตลาด weightweenies พวกของแต่งเบานี่ตายไปเลย หลังจากที่เฟรมเบาขึ้นแบบไม่ต้องโมอะครับ มันไม่จำเป็นต้องเบาแล้ว
Topby และตอนนี้ ความเบาแบบเดิมๆใครๆมันก็ทำได้แล้ว เอื้อมถึงได้ง่ายกว่าแต่ก่อน
Koon สิ่งที่ผมมองต่างจากพี่ท็อปคือ การเข้ามาของดิสก์เบรกในช่วงเวลานี้ เป็นจังหวะที่เทคโนโลยีอื่นๆ มันดีขึ้นจนเอามาประกอบรวมกันเป็นแพคเกจที่ดึงดูดผู้บริโภคได้ครับ มันไม่ได้แยกกันมา มันมาพร้อมๆ กันอะ
Topby มองงั้นมันก้ใช่ มองอีกแง่คือ ทางฝั่ง R&D สร้าง supply ไม่ทัน ที่จะมีของเล่นชิ้นใหม่ที่ตื่นตาตื่นใจมาให้ผู้บริโภค
Koon อีกอย่างคือ เอาจริงๆ ผู้บริโภคก็มีตัวเลือกครับ ไม่ชอบดิสก์ก็ยังมีริมเบรกให้ซื้อ อาจจะไม่ใช่ทุกแบรนด์ เช่น Specialized ก็จะเลิกทำริมเบรกหมดแล้ว เพราะงั้นถ้าผู้บริโภคไม่เห็นด้วย เขาก็ไม่ต้องเอาแบรนด์นั้น เหมือนที่สุดท้ายผมก็เลิกใช้ iPhone เพราะมีข้อจำกัดเยอะกว่า Android ทั้งๆ ที่ใช้ iPhone มาตั้งแต่รุ่นแรก ไปยืนต่อแถวรอซื้ออยู่เกือบวันแน่ะ
Topby กรณี iPhone ต้องบอกว่าเพราะผู้บริหาร วิสัยทัศน์ไม่ดีเท่าคนเก่า 555
Thanyavi เหตุผลอีกอย่างที่น่าสนใจของดิสก์ก็คือ การทำให้เบรคเคเบิลเดินไปตามทรงเฟรมงึก ๆ งอ ๆ มันทำไม่ได้ครับ
Koon เวลาแบบนี้คือการวัดใจเลย เช่นถ้าอยากได้ best aero bike right now ตอนนี้ แต่ดันไม่ชอบดิสก์ Spe Venge นี่ขาดทุนได้เลยนะ คนไปเอา Trek Madone ริมเบรกแทนได้
Thanyavi Venge ViAS brakes like shit
Topby มีตัวอย่างไหมครับ เดินสายงึกๆงอๆ คือยังไง
Thanyavi คือการซ่อนสายในแฮนด์ จากแฮนด์ไปสเต็ม จากสเต็มมุดลงไปในซาง จากซางไปโผลที่เบรคเลย
Topby อันนี้ขึ้นอยู่กับคนผลิตเฟรมรึเปล่าครับ ว่าสร้างช่องมาได้ flow แค่ไหน ซึ่งตกม้าตายกันหลายยี่ห้อ เพราะหลายๆแบรนด์ มันทำรูให้มันสวยไง แต่สายมันขัด
Koon ขึ้นอยู่กับ vision ของแบรนด์ต่อ product นั้นหละครับ เพราะ Cerverlo S5 ก็ช้ากว่า Venge กับ Madone แค่ 2 วัตต์ แต่ใช้เบรคนอกหมด ไม่เห็นจะมีปัญหา 555
Thanyavi งั้นประเด็นนี้ตกไป 5555
GNG | ゴング เสริมคูนเรื่องคนไม่เอาแบรนด์นั้นได้ไหมครับ ผมไม่เคยขี่เสือหมอบนะครับ (สายฟิกซ์) แต่ชอบหมอบแอโร และคิดจะเข้าไปเป็นกลุ่มลูกค้าใหม่ แต่ผมเป็นคนฝั่งมองเรื่อง form ก่อน function ผมว่าหมอบแอโร่ที่เป็นดิสก์มองยังไงก็ไม่สวย จะทำยังไงก็ไม่สวย ดิสก์นี่ส่วนเกินของ form สุดๆในมุมมองผมนะครับ ตอนนี่น่าจะตัดผมทิ้งไปได้เลยเรื่องจะเข้าไปกลุ่มคนใหม่ที่จะเข้าขี่เสือหมอบ (แต่ก็อีกเรื่องความสวยงามนี่นามธรรมสุดๆ สวยแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่สำหรับผม หมอบแอโร่ดิสก์นี่ไม่ไหวจริงๆครับ)
Topby มันเลยมีปัญหาน่ะ ความสวยของดิสก์อย่างเดียวคือ ตรงตะเกียบหน้ามันโล่งๆ อันนี้ พูดแค่ในเชิงสวยงามนะ ฮ่าๆ มันดูฟิกซ์เกียร์ดีอ่ะ
Koon ผู้ผลิตนี่ บางทีมันทำอะไรให้ดีกว่านิดๆ หน่อยมันก็เอามาขาย (ไม่ใช่แค่ดิสก์เบรกครับ เช่น cervelo เปลี่ยนแค่หลักอาน S5 ก็ออกมาเป็นไมเนอร์เชนจ์ละ เพราะงั้นก็ไม่ปฏิเสธพี่ท็อปเหมือนกันว่า บางอย่างเราก็โดนแบรนด์และวงการผลักให้ตกเหวแบบมัดมือชกครับ
Topby ข้อดีของดิสก์มีอีกอย่างคือ เลือกยางได้มากขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น จะถูกจำกัดด้วยทรงตะเกียบ และ หางหลัง เหมือนที่ผมบอกเรื่อง Cervelo S2 กับ S3 หรือ R2 กับ R3 ต่างกันแค่ตะเกียบ แต่ราคาโดดไปจ้า และคนทั่วไป ไม่รู้หรอก เปลี่ยนสีเปลี่ยนตะเกียบ ได้รุ่นใหม่ละ P2 กับ 3 ก็ด้วย
Koon แต่ก็เป็นรอบของสินค้าในทุกอุตสาหกรรมล่ะมั้ง มีทั้งอันที่มันที่ดูสมเหตุสมผล และไม่สมเหตุสมผล ซึ่งก็เป็นการตั้งคุณค่าของทั้งแบรนด์เอง และอุตสาหกรรมโดยรวม
แต่ในฐานะผู้บริโภคเราคงมีตัวเลือกแค่เท่าที่เขามีขาย นอกจากจะไปสั่งตัดเองนะ 555 อย่างตอนที่ หลายๆ แบรนด์พยายาม push มาตรฐานกระโหลก BB30 จนสุดท้ายมั่วไปหมด สุดท้ายหลายๆ แบรนด์ก็กลับมาใช้กระโหลกเกลียว -_-
Thanyavi Pinarello: Italian threaded BB, thank you, Still win 5 Tour de France
(3)
Topby สรุปของผมคือดิสก์เบรกมีประสิทธิภาพที่สูงกว่าริมเบรกในหลายๆด้าน แต่ก็ยังมีข้อด้อยอยู่ แต่ในแง่ความปลอดภัยน่ะ มันดีกว่าแหละ กรณีลงเขา ยางระเบิด ขอบบวม แต่ในกรณีอื่นๆ ยังไม่เห็นว่า มันจำเป็นขนาดจะมาแทนที่ครับ
Koon ข้อสรุปของฝั่งผมคือ ถ้าใครอยากลองของใหม่ก็จัดได้ แต่ใครไม่รีบ อยากชัวร์ อยากได้แพคเกจที่ครบเครื่องสำหรับหมอบดิสก์ให้รอกรุ๊ปเซ็ตอีกหนึ่งเจอเนอเรชันครับ
Thanyavi ผมยังเหลืออีกข้อที่ยังไม่ได้พูด คือการแพ็คจักรยานลงกระเป๋าจักรยาน โดยเป็นจักรยานดิสก์ครับ
Topby มันดี หรือไม่ดียังไงครับ ผมไม่เคยแพค โยนใส่หลังรถอย่างเดียวฮ่าๆ
Thanyavi พี่สุ่มเคยมั้ยครับ เห็นเขาว่ากันว่า ถ้าถอดสาย ไฮดรอลิกมันจะรั่วครับ คือมันขนย้ายยากกว่าน่ะครับ เนื่องจากไม่เคยใช้ก็เลยบอกไม่ได้แบบเจาะจง แต่ถ้ากระเป๋าต้องถอดแฮนด์ แล้วต้องถอดสายไฮดรอลิก น้ำมันดิสก์มันจะรั่วครับ แต่ถึงไม่ได้ ถอดสาย มันก็ต้องรักษาแรงดัน ไว้ในระบบอยู่ดี เพื่อไม่ให้เกิดฟองกากาศ คือต้องหาหนังยางมารัดก้ามเบรคให้อยู่ในตำแหน่งบีบตลอดเวลา และต้องหาชีทมากั้นไม่ให้ผ้าเบรคชนกันตอนที่ไม่มี rotor
Thanyavi สรุปว่ายุ่งยาก
zummy ยังไม่เคยเลยครับ
Thanyavi ok ครับ
zummy แต่เรื่องระบบเบรกนี้ก็เป็นข้อน่ากังวลเหมือนกัน ต้องเรียนรู้กันระดับนึงเลยผมว่านะ แต่ก่อนที่เราตั้งเบรกกันได้ แบบงูๆ ปลาๆ ก็ทำได้ ตอนนี้เหรอ เอาละเว้ยยยยมึงงง นี่ก็เป็นอีกข้อด้วยเลยนะผมว่า
Koon user friendliness level: zero
Koon ปัญหาที่ผมเกลียดมากเลย ไม่รู้พี่สุ่มเจอมั้ย คือใบแม่งชอบเบี้ยว กระแทกอะไรหน่อย เอาละเบรกสีอีกแล้ว
zummy ยังไม่เจอนะ ตรงนี้พยายามระวังมากเหมือนกัน ซึ่งด้อยกว่าอีกละ5555
Koon เลยบอกว่ารออีกเจนนึง ให้มันเนียนๆ กว่านี้หน่อย 555
Topby ใบมีโอกาสคดเยอะจากประสบการณ์คนปั่นเสือภูเขา
Koon พี่ท็อปมองยังไงกับ ดิสเบรคใน Time Trial ครับ
Topby เอาแง่ไหนอ่ะ คือ TT มันควรจะเบรคด้วยหรอ 555
Koon คอร์สเทคนิคัลครับ แบบยัดเต็มก่อนเข้าโค้งแล้วเบรคทัน รักษาโมเมนตั้มดี สปีดรวมเลยจะดีขึ้นมั้ยนะ? อันนี้ไม่แน่ใจเหมือนกัน เพราะผมไม่ค่อยได้ขี่ TT
zummy สำหรับเรามันน่าจะช่วยเรื่องการเข้าออกโค้ง การเลียเบรกนะ
Topby มันก็มีแค่เรื่องเดียว ที่เป็นปัญหาคือขึ้นลงเขา สำหรับผมนะซึ่ง TT ก้ไม่ค่อยจะไปเขา
zummy ถ้าผมจินตนาการ TT disc brake เอาสนามชิงแชมป์ ปท. มาวัด จุดกลับตัวนี่ได้เสียเวลากันเยอะทีเดียวนะ เราว่าการเลียเบรกในโค้งได้ตั้งแต่เข้าโค้ง จนออกโค้ง ซึ่งดิสก์ให้เราได้มันช่วยได้เยอะเลย ถ้ารถ TT ที่มาด้วยความเร็วสูง เช่น ทางราบแล้วตามลมมาด้วย
Koon คือมันละเอียดจนเลียในโค้งได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะแพร่ดงี้ปะครับ เพราะริมเบรกนี่คือต้องเบรคให้จบก่อนเข้า
zummy ใช่ๆ แต่มันก็เป็นเทคนิคและสกิลของแต่ละคนด้วย บางคนก็ผ่อน แล้วไหลเข้าโค้งไปแบบเนียนๆไม่กำเบรกได้เลยก็มี แต่ผมคิดว่ามันจะช่วยคนที่สกิลไม่ถึงขั้นนั้นนะฮะ สำหรับ TT disc brake เพราะตัดสินกันเสี้ยววิ จังหวะเบรกแล้วมั่นใจขึ้น ก็น่าสนใจมากนะ (บวกความอุปทาน)
Koon ดีครับดี ลงเขาที่มันที่สุดในชีวิตก็ตอนใช้ดิสก์นี่หละครับ โคตรสะใจ 555
zummy ใช่เลยๆ แต่ที่ตลกคือสำหรับเราการลงเขาเขียวที่ใช้ดิสก์เบรกลงล่าสุด ก็ยังไม่เร็วกว่าตอนใช้ริมเบรกนะ ทั้งที่ก็มั่นใจว่าลงมาเร็วมากแล้ว
Koon รถดิสก์หนักกว่าด้วยนะครับพี่สุ่ม 555 หรือพี่สุ่มตัวเบาลง
zummy จะลงเขาเร็วขึ้นมั้ย อาจจะไม่ แต่คุณจะปลอดภัยขึ้น ผมสรุปเรื่องลงเขาประมาณนี้ละกันจากความเห็นส่วนตัว
Koon แล้วในกรุ๊ปนี้ ส่วนตัวแต่ละคนยกเว้นพี่สุ่ม ถ้ามีงบให้ก้อนนึงจะซื้อ road disc ใช้เองมั้ยครับ
ikae ซื้อนะ เหตุผล: อยากลองเทคโนโลยี ไม่สนน้ำหนัก อยากลงเขา/เข้าโค้งสนุก (ตามคนอื่นว่า, แต่ตัวเองจะได้ลงเขา/เข้าโค้ง รึเปล่าไม่รู้)
Topby เหตุผลที่จะซื้อคือ มันสวยดี ตรงตะเกียบ ดูโล่งๆ แค่นั้น ตอนนี้เวลาปั่นก็เบรกไม่กี่ทีเองในทริปนึง
GNG | ゴング ไม่ซื้อครับ ปกติขี่ทางราบ ดิสก์ไม่ได้มีผลอะไรเลย, ไม่สวย, อารยะขัดขืนครับ push มา deny กลับไม่โกง
Koon ผมซื้อถ้ามันเบาได้กว่านี้อีกหน่อย ผมว่าในบรรดาหมอบแอโรรอบนี้ Specialized ชนะ เพราะ Venge มันทำน้ำหนักได้ 7.1 โล เจนต่อไปต้องมีหกนิดๆ ผมติดรถเบาแล้วเพราะหมอบที่ใช้อยู่มันหนัก 6.4 โลแล้วมันเร่งสนุกมาก
Jutipong.P ซื้อครับ เทคโนโลยีตอนนี้มาถึงจุดที่ดีพอแล้วครับ แต่เคยใช้เสือภูเขาดิสมา ยังกังวลแค่เรื่อง ผ้าเบรคสีดิสก์ง่าย, ดิสก์มีเสียงหอนๆ ถ้าไม่ดูแลเลย ถ้าบีบเบรคตอนถอดล้อนี่ เบรคไม่คืนตัว อีกอย่างเบรคดิสก์นี่การคอนโทรลน้ำหนักการเบรคนี่มัน Linear กว่า แบบบีบเบรคแรงเท่าไหร่ ก็ให้แรงเบรคมาเท่านั้นครับ ไม่เหมือนริมที่เบรคเบาเอาไม่อยู่ เบรคหนักล้อล็อค อะไรประมาณนั้น
Topby โคตรแห่งความวุ่นวายอะ ไอ้เสียงหอน แล้วตั้งวุ่นวายด้วยเพราะ clearance มันนิดเดียว ริมเบรคผมจะกดหนัก-ปล่อย-หนัก-ปล่อย แบบ ABS
Koon เป็นทุกคันที่ขี่เลยครับ
ikae เวลาดูโปรแข่งนี่ เวลาลงเขาหรือเข้าโค้ง ได้ยินเสียงหอนชัดเลย
Thanyavi ไม่ซื้อครับ เพราะเป็น weight weenie และรังเกียจ full carbon clincher อยู่แล้ว ตอนลงเขากลางฝนด้วยขอบเบรคอลูผมก็เอาอยู่ทุกโค้งนะ ดังนั้น disc brake จึงไม่ได้มีข้อดีอะไรสำหรับผม
Jutipong.P หอนทีอายชาวบ้านมาก เรียกแขกสุดๆ แต่ด้วยคุณภาพการหยุดนี่ไว้ใจมันได้มาตลอดครับ ปล.ผมปั่นจักรยานเสือภูเขาซ้อนสองไปมหาลัย ริมเบรคเอาไม่อยู่จ้า ถ้าเป็นดิสเบรคเสือหมอบ Gen เก่ายังไม่โอเค เพราะขนาดชิพเตอร์ที่เทอะทะครับ gen ใหม่ดูดีขึ้นมาก
zummy +ล้าน เรื่องขนาดชิฟเตอร์เทอะทะ ผมว่าผมกลับไปริมละกัน! ติเยอะซะเอง
Koon โอเค ผมว่าเราได้ความกันพอสมควรแล้ว งั้นประเด็นดิสก็น่าจะจบได้ประมาณนี้ครับ เจ๋งดี ขอบคุณทุกคนนะครับ เผื่อใครต้องทำไรต่อ ผมตัดจบให้ก่อนครับ
การสนทนาของเราก็จบเท่านี้ครับ เราไม่ได้ต้องการฟันธงหรือชี้นำว่าควรจะเลือกแบบไหน แต่อยากให้บทสนทนาเป็นเสียงสะท้อนความคิดหลายๆ มุมมากกว่า หวังว่าจะมีประโยชน์นะครับ ◈