เบื้องหลังธุรกิจนำเข้าจักรยานกับ Pro Cycle

ห่างหายไปนานกับคอลัมน์ DT Talk นะครับ ครั้งก่อนเราคุยกับคุณชินแห่งร้าน Nich เจ้าของแบรนด์จักรยานไทยและคุณสุ่มอดีตมือเบสวง Clash นักปั่นตัวยงกันไปแล้ว คราวนี้ DT เปลี่ยนบรรยากาศไปคุยกับนักธุรกิจในวงการจักรยานบ้าง ที่มาของ DT Talk ตอนนี้ก็คือสมัยที่ผมกลับมาจากต่างประเทศใหม่ๆ มันมีเรื่องหนึ่งที่กวนใจผมมาก คือทำไมประเทศไทยใช้ขาจาน Rotor กันเยอะแยะเต็มไปหมดแบบนี้ ที่เคยเห็นในยุโรปและสหราชอาณาจักร Rotor เป็นแบรนด์ที่เล็กมาก แทบไม่มีส่วนแบ่งการตลาดเลย แต่ในเอเชีย โดยเฉพาะในไทย (และญี่ปุ่น) กลับกลายเป็นชุดอัปเกรดที่ทุกคนอยากจะลอง มันดีจริงหรือ หรือเป็นแค่กระแส?

ทางที่ดีที่สุดไปหาคำตอบกับผู้จัดจำหน่ายเลยคงง่ายกว่า ผมชอบและอยากที่จะคุยกับผู้ประกอบการในวงการจักรยานไม่ว่าจะเป็นร้านเล็กๆ หรือผู้นำเข้าแบรนด์ดัง มันทำให้เราได้มุมมองอีกมุมหนึ่งซึ่งสำหรับนักปั่นธรรมดาอาจจะไม่ค่อยเห็น คุยมาแล้วก็อยากเอามาเล่าให้ฟังด้วย วันนี้เราคุยกับคุณบ๊อบ วีระศักดิ์ ยังเจริญ ผู้จัดการทั่วไปจาก Pro Cycle ผู้บุกเบิกตลาด Rotor ในเมืองไทยครับ

Q: Pro Cycle เปิดมานานเท่าไรแล้วครับ?
A: ตอนนี้ก็สองปีกว่าได้แล้วครับ เปิดบริษัท 21 กรกฏาคม 2555 ตอนแรกที่มาเนี่ย ไม่มีอะไรอย่างนี้เลย ทุกอย่างตรงนี้โล่งหมด ไม่มีพนักงาน มีพี่ มีพี่แมรีแล้วก็มีออฟ สามคน (เซลล์) แล้วเดือนถัดมาก็มีบัญชีตามเข้ามา มีกันอยู่สี่คน ช่วยกันเป็นทีมเล็กๆ จนถึงตอนนี้ก็เพิ่มเป็นเก้าคนแล้ว ผมดูแลทุกอย่างตั้งแต่การนำสินค้าเข้า ขายของ ส่งของให้ลูกค้า ทุกวันนี้คิดว่าศักยภาพของเราเพียงพออยู่ แต่ก็คงเพิ่มพนักงานไปเรื่อยๆ เพื่อ

Q: ทำไมถึงหันมาทำธุรกิจด้านจักรยาน มีแรงบันดาลใจอะไร?
A: ก่อนหน้านี้ก็เป็นพนักงานบริษัทธรรมดาครับ ก็เคยเป็นเซลล์มาก่อน ช่วงหลังๆ ที่ทำงานประจำก็หันมาขี่จักรยาน ประมาณปี 2008 ตอนนั้นก็ดูทีวีอยู่บ้านแล้วเห็นคนแข่งโอลิมปิก (เสือหมอบ) รู้สึกมันเท่ห์มากเลย เห็นเขาแข่งกันจริงจัง ก็เลยเอาวะ! ลองไปซื้อจักรยานมาคันนึง ขี่แล้วก็ชอบ ก็พอมีเพื่อนในวงการบ้าง เลยได้หันมาช่วยเพื่อนในวงการที่เขาทำร้านจักรยานอยู่แล้วดูแลเรื่องนำเข้า ติดต่อแบรนด์จากต่างประเทศ ตอนนี้ยังไม่ออกจากพนักงานออฟฟิสนะ

แต่พอเข้าปี 55-56 เรารู้สึกอยากออกมาทำเต็มตัว ก็เลยเปิดบริษัท Pro Cycle ครับ รู้สึกดีใจที่ได้มาถึงขนาดนี้แล้ว ทุกวันนี้เราเป็นผู้นำเข้าแบรนด์ Focus, Neilpryde, Rotor, Fizik, Kask, Feedback Sport, Birzman, Lemond Revolution และผ้าพันแฮนด์ Lizard Skin โดยเฉพาะตัวหลังนี่เราภูมิใจมากเลย นับเป็นยอดขายอาจจะไม่ได้มากมายอะไร แต่เป็นเรื่องที่เราภูมิใจเพราะไปที่ไหนก็มีแต่คนใช้ อีกแบรนด์ที่เราภูมิใจมากก็คือ Rotor ตัวบริษัท Rotor เองน่าจะเป็นเจ้าเดียวในตลาดที่ทำขาจานวงรีแบบคอมเมอร์เชียลตีตลาดแมสได้ เจ้าอื่นๆ อย่าง Osymetric ก็อาจจะอินดี้ๆ สักหน่อย ยอดขาย Rotor ที่ไทยถือเป็นอันดับสองของเอเชียครับ

DSCF0886

Q: ผมไม่เคยเห็นประเทศไหนใช้ชุดใบและขาจาน Rotor เยอะเท่าคนไทย มันเกิดจากอะไร?
A: การตลาดมันก็ส่วนหนึ่ง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด น่าจะเป็นกระแสของคนใช้มากกว่า การตลาดจากทางเราเราให้การสนับสนุนดีลเลอร์ค่อนข้างเยอะ พยายามแนะนำให้ร้านค้ารู้จักและเข้าใจ และเลือกดีลเลอร์ที่มีศักยภาพให้โปรโมท และสำคัญที่สุดคือผู้ใช้ครับ อย่างในเว็บ Thaimtb เองเขาพูดต่อ รีวิวจนกลายเป็นกระแสบวก โดยรวมแล้วผมคิดว่าสินค้ามันดีด้วยตัวของมันเอง พอเขาใช้เขาก็เข้าใจแล้วบอกต่อ

Q. ในฐานะนักธุรกิจใหม่ในวงการพี่บ๊อบมองตลาดจักรยานในไทยยังไงครับ? มันมีอะไรที่เราคิดว่าเราทำได้ดีกว่าที่อื่น?
A: ตอนแรกสุดเรามี Rotor แค่แบรนด์เดียว และเราเชื่อมั่นในแบรนด์นี้มากๆ ผมเห็นว่าตลาดจักรยานมันโตขึ้นเรื่อยๆ แค่ทุกปี และโตในแบบอัตราก้าวกระโดด ทีละ 50% 100% บ้าง คิดว่ามันมีโอกาสที่จะไปได้และเป็นเหตุผลเป็นแรงผลักดันให้เข้ามาสู่ธุรกิจจักรยานนี้ อย่างที่สองคือเชื่อมั่นในแบรนด์ที่เราถืออยู่ อย่างช่วงปี 2008-2009 Rotor เองไม่ใช่แบรนด์ที่ยิ่งใหญ่อะไร คนไม่ได้รู้จัก แต่เราโชคดีที่เราเห็นศักยภาพของแบรนด์นี้แล้วติดต่อขอนำมาขาย

“Rotor เองไม่ใช่แบรนด์ที่ยิ่งใหญ่อะไร คนไม่ได้รู้จัก แต่เราโชคดีที่เราเห็นศักยภาพของแบรนด์นี้แล้วติดต่อขอนำมาขาย”

Pro Cycle interview-1-3

นอกจากงานธุรกิจจักรยานแล้ว พี่บ๊อบเป็นนักปั่นตัวยงและขยันซ้อมไม่แพ้ใคร มาสัมภาษณ์ถึงที่ก็ต้องขอแอบดูหมอบคู่ใจสักหน่อยครับ คันนี้คือ Focus Izalco Max 2014 แต่งเบาแบบจัดเต็มด้วยกรุ๊ป Sram Red 22 ชุดจานเป็น Rotor Power และตบท้ายด้วยล้อ Fulcrum Racing Zero พอถามว่าทำไมไม่ใช้ล้อคาร์บอนดำๆ ดุๆ พี่บ๊อบบอกว่า รถสายเบาต้องล้อขอบต่ำประมาณนี้ และเท่าที่ลองล้อ Racing Zero ก็สติฟ ลื่นและเบาเหลือใช้
นอกจากงานธุรกิจจักรยานแล้ว พี่บ๊อบเป็นนักปั่นตัวยงและขยันซ้อมไม่แพ้ใคร มาสัมภาษณ์ถึงที่ก็ต้องขอแอบดูหมอบคู่ใจสักหน่อยครับ คันนี้คือ Focus Izalco Max 2014 แต่งเบาแบบจัดเต็มด้วยกรุ๊ป Sram Red 22 ชุดจานเป็น Rotor Power และตบท้ายด้วยล้อ Fulcrum Racing Zero พอถามว่าทำไมไม่ใช้ล้อคาร์บอนดำๆ ดุๆ พี่บ๊อบบอกว่า รถสายเบาต้องล้อขอบต่ำประมาณนี้ และเท่าที่ลองล้อ Racing Zero ก็สติฟ ลื่นและเบาเหลือใช้

 

Q: ช่วงเริ่มธุรกิจในวงการจักรยานมันมีความท้าทายอะไรบ้าง?

A: ความยากอันดับหนึ่งเลยก็คือสายสัมพันธ์กับทางดีลเลอร์ ดีลเลอร์ดีๆ มันมีอยู่จำนวนหนึ่ง ดีลเลอร์ที่แบบพึ่งเปิดใหม่เหมือนเราก็มีอยู่ ดีลเลอร์ที่ดีๆ เราต้องไปสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับเขา เวลาเอาของไปขายต้องก็ต้องมีโปรโมชันดีๆ ทำยังไงก็ได้ให้เขารับสินค้าเราไปขาย พอเรามีความสัมพันธ์ที่ดีแล้วเขาก็อยากจะช่วยดันสินค้าเรา เขาขายได้นะ ส่วนดีลเลอร์ใหม่ๆ เป็นอะไรที่ลำบากเหมือนกันเพราะว่าเวลาเขาเปิดใหม่เราไม่รู้ว่าใครดีไม่ดี ก็ต้องลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ

Q: ตลาดจักรยานไทยจะโตต่อเนื่องเหมือนตอนนี้หรือเปล่า?
A: ถ้าพูดถึงตลาดในเมืองไทยตอนนี้ ผู้ใช้จักรยานแบบคาดเดานะ แบบที่จริงจังสักหน่อย ไม่ใช่เฟสสันหรือจักรยานแม่บ้าน น่าจะไม่ถึง 0.5% ของประชากรทั้งประเทศ ถ้าเรามองยุโรปเป็นโมเดล ประเทศพวกนี้มีอัตราการใช้จักรยานอยู่ร่วม 10% ถ้าเราให้ให้เขาเป็นมาตรฐานนะ เราน่าจะมีโอกาสโตไปได้อีกเยอะเลย แต่ก็คงอีกหลายปีกว่าอัตราการโตจะเป็นลบ 5 ปีข้างหน้านี้เราคิดว่าคงเป็นปีทองที่โตแบบก้าวกระโดด และ 5 ปีถัดไปเรายังมองไม่ชัด มันอาจจะโตแต่คงเป็นอัตราที่ลดลง ไม่ใช่เลขสองหลักเหมือนตอนนี้

“ถ้ารัฐจัดเส้นทาง จัดความสะดวกสบายให้คนปั่นแต่กลับไม่มีคนใช้ มันก็ไม่มีประโยชน์ “

Q: ภาครัฐมีส่วนแค่ไหนในการกระตุ้นให้คนใช้จักรยาน?
A: ปัญหานี้เหมือนไก่กับไข่นะ ในมุมมองผมถ้ารัฐจัดเส้นทาง จัดความสะดวกสบายให้คนปั่นแต่กลับไม่มีคนใช้ มันก็ไม่มีประโยชน์ แต่ถ้ามีคนปั่นมากขึ้น เรียกร้องมากขึ้นมันก็ช่วยกดดันให้ทางรัฐหันมาสนใจเรามากขึ้น มันต้องโตไปพร้อมกันทั้งสองทาง ส่วนตัวผมคิดว่าถ้าคนใช้เยอะๆ มันจะเป็นการเรียกร้องภาครัฐให้ทำขึ้นมาเองทั้งถนน ที่จอดจักรยาน การขนส่งที่ให้เอาจักรยานขึ้นไปด้วยได้ ทุกวันนี้อย่าง BTS ก็ขนจักรยานขึ้นได้ แอร์พอร์ทลิงก์ก็เหมือนกัน ไม่ใช่เฉพาะแค่ในกรุงเทพนะ จักรยานมันโตขึ้นทุกที่ อย่างที่จังหวัดตากมีซุปเปอร์ไฮเวย์ 8-9 เลนแต่ทางเลนซ้ายสุดเขาแบ่งไว้ให้คนใช้จักรยานเลย

Q: AEC กำลังจะเปิด ผลกระทบต่อวงการจักรยานไทยจะเป็นยังไงครับ?
A: ผมคิดว่าเป็นโอกาสที่ดีมากที่เราจะได้ขยายตลาดไปในประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งพม่า ลาว มาเลเซีย อินโดนีเซีย ธุรกิจนำเข้าจักรยานมันมีข้อจำกัดตรงที่ถ้าเรารับของเข้ามา เราต้องเอาโวลุมมาด้วย ถ้ารับมาเยอะแล้วขายให้คุ้ม เฉพาะในไทยมันอาจจะยากสำหรับบางแบรนด์ แต่ถ้าเราเอาสินค้าเหล่านี้ไปขายในประเทศเพื่อนบ้านได้ ต้นทุนต่อหน่วยมันก็จะลดลงเพราะเรามีค่าโสหุ้ยเท่าเดิม น่าจะเป็นการกระตุ้นให้ธุรกิจกจักรยานบูมขึ้นมากกว่านี้DSCF0842

Q: ตลาดจักรยานในประเทศเพื่อนบ้านเป็นยังไง?
A: ลาวกับเวียดนามโดยมากจะซื้อของจากประเทศไทย มีนำเข้าเองบ้างแต่ก็ไม่เยอะขนาดนั้น โครงสร้างภาษีเขาไม่เอื้ออำนวย ในมุมกลับมาเลเซียกับสิงคโปร์ค่อนข้างพร้อม แต่ทั้งสองประเทศยังตามหลังเราเยอะเหมือนกันในเรื่องตัวเลือกสินค้าและอุปกรณ์ต่างๆ เพราะความต้องการในตลาดเขายังน้อยอยู่

Q: Pro Cycle ในอีก 10 ปีข้างหน้า?
A: ตอนนี้เราก็มีสินค้าค่อนข้างครอบคลุมแล้วนะ ขาดแค่ล้อ แต่ถ้าไม่ดีจริงๆ เราก็ไม่เอาเข้ามา เพราะผมเป็นคนขี่จักรยานจริงจังอยู่แล้ว เรารู้ว่าถ้าของคุณภาพไม่ดีเราก็เสียแบรนด์ อย่างชุดจาน Rotor มันก็เป็นที่ยอมรับ หรืออย่างจักรยาน Focus ก็ได้รีวิวดี คุณสมบัติเฟรมดีราคาโอเค

Q: ความสุขในการปั่นจักรยาน? 
A: มันหลายอย่างนะ บางทีมันก็เป็นการผ่อนคลาย ปั่นชมนกชมไม้ ได้สัมผัสลม อีกอย่างคือการปั่นเป็นกลุ่ม เราได้เพื่อนจากหลากหลายสาขาอาชีพมากเลย แลกเปลี่ยนทัศนะคติ ความรู้กัน มีเรื่องการแข่งขัน ขี่ขึ้นเขาใหญ่ได้เวลาเท่าไร? อะไรทำนองนี้ เสร็จแล้วก็มานั่งโม้ทับถมกันสนุกสนาน

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *