คุยกับ Global Cycling Network – Part 1

ถ้าใครติดตาม Fanpage Ducking Tiger ในช่วงเดือนที่แล้วจะทราบว่าเราได้ขอแรงเพื่อนๆ ช่วยกันเขียนคำถามไปสัมภาษณ์ทีมงาน Global Cycling Network ช่องจักรยานที่ดังและเจ๋งที่ที่สุดบน Youtube ในตอนนี้ครับ Ducking Tiger แชร์วิดีโอจาก GCN เป็นจำนวนมาก แต่ก็คิดว่าเราแทบไม่รู้จัก GCN เลยทั้งๆ ที่พรีเซนเตอร์หลัก Daniel Lloyd เคยเป็นถึงโปรฝีมือดีสังกัดทีมอย่าง CSC และ Garmin เคยเป็fนผู้ช่วยสปรินเตอร์ตัวแรงอย่าง Thor Hushovd DT เลยส่งคำถามไปสัมภาษณ์ถึงเบื้องลึกเบื้องหลังของ GCN และประสบการณ์การแข่งขัน พร้อมคำแนะนำเด็ดๆ ให้สิงห์นักปั่นคนไทยครับ

เนื่องจากคำถามเราค่อนข้างเยอะและ GCN ก็ตั้งใจตอบมายาวมาก เลยขอแบ่งบทสัมภาษณ์เป็นสองตอนครับ ตอนแรกพูดถึงช่อง GCN และประสบการณ์แข่งมืออาชีพของทีมงาน ส่วนตอนที่สองจะเป็นคำถามจากแฟนๆ DT และเรื่องวงใน Pro Tour ครับ! ลองอ่านกันดู~

DT: ช่อง Global Cycling Network เกิดขึ้นได้อย่าไรครับ? มีอะไรเป็นแรงบันดาลใจและมีเป้าหมายยังไงบ้าง?

GCN: ช่อง Youtube ของเราเริ่มออกอากาศตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2013 ตอนต้นปีนี้ เราเป็น Youtube Original Content ((DT Note: Youtube Original Content คือโปรเจ็คของ Google ที่จะสนับสนุนผู้สร้างวิดีโอด้วยเม็ดเงินกว่า 200 ล้านดอลล่าสหรัฐ พูดง่ายๆ ก็คือเป็นช่องที่ Youtube ออกเงินให้ผลิต content นั่นเองครับ)) เป้าหมายของเราคือการเผยแพร่วิดีโอที่เกี่ยวกับวงการจักรยานตั้งเบื้องหลังแต่การแข่งขัน ข่าวสารต่างๆ How-Tos แนะนำมือใหม่

เราเป็นส่วนหนึ่งของทีมงาน SHIFT Active Media ซึ่งก่อตั้งโดย Simon Wear ในปี 2010 เราเป็นมีเดียเอเจนซี่สำหรับวงการจักรยาน รับทำ Media Service ครบวงจรครับ ลูกค้าของเราก็เช่น Colnago Garmin และ Swift Carbon เราอยากจะเป็นช่องที่ทุกคนนึงถึงเวลาพูดถึงจักรยาน ตอนนี้เราเป็นช่องจักรยานที่ใหญ่ที่สุดใน Youtube และเราอยากจะมีฐานคนดู (Subscriber) ให้เยอะที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ (ตอนนี้ GCN มี subscriber ประมาณ​ 120,000 คน)

DT: ทีมงาน GCN มีกันกี่คนครับ? ผมพอจะนึกออกแค่ Dan, Tom, Matt และ Simon ทุกคนเคยเป็นนักแข่งมืออาชีพหรือเปล่า?

GCN: จริงๆ แล้วทีมงานเราเล็กมากเลย พรีเซนเตอร์หลักของเราก็คือผม (Daniel Lloyd) และ Matt Stephen นอกจากจะเป็นพรีเซนเตอร์แล้วเราก็ทำงานเบื้องหลังด้วยทั้งรีเสิร์ชและเรียบเรียงวิดีโอ ส่วนทีมวิดีโอเรามี 4 คน Phil Golston อยู่กับเรามาตั้งแต่เริ่มโปรเจ็ค เป็นคนถ่ายทำและตัดต่อครับ ปีนี้ Phil โคตรจะยุ่งเพราะต้องถ่าย Grand Tour ถึงสามรายการ ถ่ายแล้วก็ต้องตัดต่อเพราะเราลงวิดีโอกันวันต่อวันให้ทันการแข่ง! ทีมงานอีกคนคือ Tom Grandy ที่เข้ามาแจมกับเราตั้งแต่เดือนมีนาคม Tom ก็ไปติดตาม Grand Tour ทั้งสามรายการแถมไปถ่ายทำ Tour of Beijing เมื่อสองเดือนก่อนด้วย

คนที่สามคือ Mike Rees เป็น Channel Editor ของเรา มาอยู่กับ GCN ตั้งแต่เดือนมิถุนายน Mike ทำงานแบบแทบไม่มีวันหยุดเลยทีเดียวเพราะนอกจากจะต้องกำกับวิดีโอแล้วยังต้องวางแผนการถ่ายทำให้เราด้วย คนสุดท้าย John Beavan เป็นคนทำวิดีโอและเขียนสคริปต์หลักให้เราครับ John เขียนบทในวิดีโอ Top 10 ต่างๆ ที่คุณเคยดูในช่อง GCN และคอยคิดไอเดียวิดีโอใหม่ๆ ให้เราเสมอ

พวกเราไม่ใช่นักปั่นมืออาชีพทั้งหมด แต่ทุกคนก็รักการปั่นจักรยาน อย่างที่ DT ทราบ Dan เป็นโปรฝีมือดีเคยแข่ง Tour de France และสนามทั่วยุโรปและเอเชีย ส่วน Matt ก็ทำงานเบื้องหลังในวงการแข่งอังกฤษหลายปี Matt เคยเข้าแข่งโอลิมปิกในบาร์เซโลนา และรายการชิงแชมป์โลกในโคลอมเบีย ปี 1995 ซึ่งเขาได้ที่ 7! ที่เจ๋งสุดคือ Matt เป็นแชมป์เสือหมอบอังกฤษในปี 1998 และแข่งจนถึงปี 2010 ก่อนที่จะไปทำงานเป็นโค้ชให้ IG-Sigma Sport ส่วน Tom Last เป็นโปรอยู่ 3 ปีและแข่ง Tour of Britain 2 ครั้ง Mike แข่ง BMX ตั้งแต่เด็ก Tom Grandy ก็เป็นนักปั่นเสือภูเขาตัวยงเติบโตมากับ Downhiller ระดับโลก ทุกคนในทีมงานออกปั่นกันเป็นประจำครับ

 

Global Cycling Network (GCN)

Website: www.youtube.com/gcn

Twitter / Facebook 

DT: คำถามนี้แฟนๆ DT สงสัยมากเลยครับ เราอยากรู้ว่า GCN หารายได้จากไหน? เพราะเราไม่เห็นโฆษณาในวิดีโอเลย ออกไปติดตามเกาะขอบสนามทั่วโลกค่าใช้จ่ายไม่น้อยแน่ๆ!

GCN: อย่างที่บอกไว้ตอนต้น เราได้รับการสนับสนุนจาก Google ผ่านโปรเจ็ค Youtube Original Content Channel ซึ่งอัดฉีดเงินให้กับผู้ผลิตวิดีโอคุณภาพ ช่องของเรามีโฆษณาด้วยครับ

DT: ช่อง GCN มีวิดีโอเด็ดๆ เต็มไปหมด เราอยากรู้ว่าปีหน้าเราจะได้ดูอะไรใหม่ๆ บ้าง? หรือคุณอยากจะอุบไว้เซอร์ไพรส์ทีหลัง!?

GCN: เซอร์ไพรส์ดีกว่า!… ล้อเล่นครับ เราอยากทำแบบที่เราทำในปีนั่นหละครับ แต่ทำให้ดีกว่าเดิม เราลองผิดลองถูกและได้บทเรียนหลายอย่างเลยในปีนี้ ผมอดใจรอไม่ไหวที่จะได้กลับไปถ่ายทำข้างสนามแข่ง ไปเจอเพื่อนโปรด้วยกัน และแน่นอนว่าเราจะเค้นวิดีโอ How-To และ Top 10 ให้น่าดูกว่าเดิม ถ้าผู้ชมคนไหนมีไอเดียเด็ดๆ หรืออยากดูอะไรก็แนะนำ บอกเรามาได้เลยทั้งทางช่อง Youtube, Google+, Facebook และ Twitter ครับ!

DT: พอจะบอกได้มั้ยว่าแฟนๆ GCN มาจากมุมไหนของโลกบ้าง? มีชาวเอเชียและแอฟริกาดูเยอะหรือเปล่า?

GCN: ช่องเราเป็นภาษาอังกฤษก็แน่นอนว่าคนดูส่วนใหญ่จะมาจากประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักครับ ประเทศไทยก็มีแฟนๆ เยอะมากเหมือนกัน (ขอบคุณ DT ที่ช่วยเราแชร์วิดีโอ!) นอกจากนี้ก็มีทางฝั่งอเมริกาใต้ที่คนดูเยอะครับ ชื่อช่องเราคือ GLOBAL Cycling Network เราแฮปปี้ที่มีผู้ชมคอยติดตามอยู่รอบโลกครับ

DT: เราจะได้เห็นสินค้าจาก GCN มั้ยครับ? ขวดน้ำ หมวกแก๊ป เสื้อยืด เสื้อทีม?

GCN: แน่นอน! เรากำลังเตรียมทำชุดปั่นทีม เสื้อผ้าใส่เล่น กระติกน้ำและ accessory ต่างๆ จะวางขายให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ รอดูตอนต้นปีใหม่ได้เลย

DT: เหตุการณ์ไหนที่คุณประทับใจที่สุดในอาชีพนักปั่นมืออาชีพ?

Tom: สำหรับผมคงเป็นการแข่งขัน Tour of Britain ผมแข่งจนจบสองครั้ง ผมได้ทั้งเพื่อนร่วมทีมและเพื่อนซี้นอกสนามแข่งจากสนามนี้

Dan: สำหรับผมเป็นสนามแข่ง Tour of Flanders ในปี 2009 อย่างแน่นอน ผมฟิตซ้อมพัฒนาทักษะและฟอร์มการแข่งหลายปี พยายามไต่เต้าให้ถึงจุดสุงสุด และในปีนั้นทีม Garmin-Cervelo ก็ให้โอกาสผมออกลุย ผมหลงไหลและเฝ้าติดตามสนาม Ronde van Vlanderen (ชื่อ Tour of Flanders) มาตั้งแต่ยังเด็ก เพราะงั้นแค่ได้ไปเหยียบที่จุดสตาร์ทในฐานะนักแข่นมันก็สุดจะเหลือเชื่อแล้ว

ระหว่างการแข่งทีมเรามีตัวเต็งถึงสองคนนั่นคือ Thor Hushovd และ Heinrich Haussler หน้าที่ของผมคือเป็นโดเมสติกคอยประกบหัวหน้าทั้งคู่ วันนั้นฟอร์มผมดีมาก พอถึงกิโลเมตรที่ 180 ตรงตีนเนิน Oude Kwaremont การแข่งก็เริ่มเข้มข้นขึ้น ตัวเต็งเริ่มออกซัดกัน แต่ทีมเราทั้่ง 8 คนยังอยู่ครบคอยสังเกตการณ์อยู่หน้าขบวน peloton ถึงเนินถัดมา The Paterberg ผมอยู่ในตำแหน่ง 10 คนแรกคู่กับระดับพระกาฬอย่าง Boonen และ Pozzato ตอนนั้นนี่ถึงขนาดกับต้องหยิกแก้มตัวเองเลยว่าไม่ได้ฝันไป!

พอเราลงจากเนิน Paterberg, Andreas Klier กัปตันทีมเห็นว่าผมตามตัวเต็งได้ไม่หลุด เลยสั่งว่าถ้าเอ็งไหวก็ยิงหนีแม่มเลย! ผมก็เลยจัดเต็ม เปิดเกมฉีกออกไป สุดท้ายมี Leif Hoste, Manuel Quinziato และ Sylvain Chavanel เกาะมาด้วย ผมนำไปจนถึงเนิน Berendries ซึ่งเป็นจุดที่ Chavanel ลงดาบ ส่วนผมก็หมดก๊อกพอดีไม่มีแรงจะตาม ถึงผมจะไม่ชนะแต่จะเป็นวันที่จำไปจนตายครับ

 

DT: วงการจักรยานในเมืองไทยกำลังเติบโตแบบก้าวกระโดด ตอนนี้เรามีสนามแข่งตลอดทั้งปี มีนักกีฬาเก่งๆ หลายคนและมีทีมที่ฝีมือดีออกแข่งกันตลอด เราอยากจะมีมาตรฐานการทำทีมที่ดีกว่านี้ทั้งในด้านการฝึกซ้อมและการดูแลลูกทีม ในฐานะนักปั่นและโค้ชทีมอาชีพ อยากจะขอข้อคิดดีๆ สำหรับการดูแลทีมหน้าใหม่ในวงการครับ

Dan: สำหรับโค้ชทีมนะ ผมอยากให้คุณจัดหน้าที่ให้กับลูกทีม “ทุกคน” ตลอดช่วงเวลาการแข่ง ไม่ว่ามันจะเป็นการแข่งวันเดียวหรือหลายวันก็ตาม ถ้าคุณมีเป้าหมายแค่ว่า “ก็ปั่นไปเรื่อยๆ” หรือแค่คอยดูเกม หาจังหวะ นักปั่นก็จะไม่มีเป้าหมาย และไม่มีกำลังใจที่อยากจะออกแรงแข่ง 100% ถ้าทุกคนมีงานที่ต้องทำ เวลาและความเจ็บปวดมันก็จะผ่านไปอย่างรวดเร็ว และทุกคนก็จะภูมิใจกับผลงานที่เขาทำได้ เพราะอย่างน้อยเขาก็มีเป้าหมายไว้คอยวัดว่าตัวเองทำได้ขนาดไหนในสนามนี้

DT: จักรยานคันโปรดของคุณคือรุ่นไหนครับ? ถ้าคุณไม่ติดสัญญาสปอนเซอร์ คุณอยากจะปั่นคันไหนมากที่สุด?

Tom: สำหรับผมต้องเป็นจักรยานสปอนเซอร์แน่นอน! (Tom ปั่น Specialized S-Works Venge) ของฟรีใครจะไม่ชอบจริงปะ? ส่วนตัวผมมีจักรยานแค่คันเดียว เป็น Specialized Crux รุ่นคร่ำครึ แต่ก็ใช้ได้ดีพอที่จะปั่นไปทำงานและเที่ยวรอบเมืองน่ะนะ ถ้างบไม่จำกัดผมอยากได้เสือหมอบที่เบาสุดๆ (เป็นพวกสำนักตาช่าง)

Dan: เป็นคำถามที่ดี! ถ้านับตอนที่เป็นมืออาชีพ คันโปรดของผมเป็น Cervelo S3 อย่างไม่ต้องสงสัย โปรรุ่นพี่แทบทุกคนก็ชอบเจ้า S3 มากกว่าคันอื่นๆ นะ ถ้าจะให้เลือกจักรยานที่ถูกต้องตามกฏ UCI ตอนนี้ผมก็ยังอยากปั่น Cervelo แต่ถ้าไม่ต้องตามกฏก็อยากลองจักรยานแปลกใหม่ ไฮเทคอย่าง Factor เหมือนกัน

DT: คำถามนี้สำหรับ Tom ผมรู้ว่าคุณเรียนหนังสือในระดับมหาวิทยาลัยและเป็นโปรมืออาชีพให้กับทีมระดับดิวิชันสองไปด้วย อยากรู้ว่าคุณแบ่งเวลาในการเรียนและการซ้อมยังไงครับ?

Tom: ผมเรียนมหาวิทยาลัยตั้งแต่ปี 2010-2013 ตั้งแต่จบการศึกษาก็เข้ามาทำงานกับ GCN เลย ถึงแม้จะชอบการแข่งขันระดับมืออาชีพแต่ตอนนี้ผมไม่มีความต้องการที่จะไปแข่งในระดับสูงสุด คือจริงๆ แล้วผมชอบเรียนไปแข่งไปมากกว่า ซ้อมแล้วก็แข่งอย่างเดียว อีกอย่างตารางแข่งในอังกฤษก็ไม่ได้เยอะมาก และผมคิดว่าการที่ผมต้องเรียนให้ได้ดีนั้นทำให้ผมตั้งใจซ้อมมากกว่าเดิม (เพราะมีเวลาซ้อมไม่มาก) ซึ่งพอเอาเข้าจริงแล้วทั้งการแข่งและการเรียนมันส่งเสริมกันได้ดีมากครับ

DT: ความเร็วสูงสุดบนจัรยานของคุณคือ!?

Tom: ประมาณ​ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
Dan: 126 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ Giro d’Italia ปี 2009 ถ้าความเร็วมันเกิน 100 kph ผมจะเริ่มกลัวว่าจะมีอะไรบนจักรยานพังหรือเปล่า!

DT: ขอท่าไม้ตายและสูตรลับในการแข่งหน่อยครับ!

Tom: แหม่ ถ้ามีสูตรลับผมก็คงแรงกว่านี้! ผมไม่มีแผนมาก แค่ทุกครั้งที่ออกปั่นจะพยายามกำหนดแผนการว่าจะทำอะไรให้ชัดเจน ถ้าซ้อมก็คือซ้อม ถ้าพักก็คือพักมันช่วยเราได้เยอะ และไม่เสียเวลา

Dan: สูตรลับของผมก็คือคอยเช็คการ์มินดูว่าทิศทางข้างหน้าเป็นยังไง มีโค้งแบบไหน หรือมีเนินชันกี่% วิธีนี้ทำให้ผมไปได้เร็วกว่าเดิมในสนามที่ไม่เคยมาลองปั่นเลย

 

DT: ข้อนี้สำหรับ Dan ผมทราบมาว่าคุณเคยมาแข่งที่เมืองไทยแล้วก็ชนะสเตจในรายการ Tour of Siam ในปี 2006 ด้วย ตอนนั้นคุณสังกัดทีม Giant Asia Racing Team อยากรู้ว่าปีนั้นคุณแข่งในเอเชียตลอดทั้งปีเลยหรือเปล่า? แล้วคุณติดใจประเทศไทยมั้ย?

Dan: บอกได้เลยว่าผมชอบเมืองไทยมาก! ปีนั้นผมไม่ได้คิดว่าจะไปแข่งใน Tour of Siam ครับ สเตจวันที่ผมชนะมันยาวมาก แล้วก็ร้อนมากด้วย แต่ผมจำได้ว่าคนไทยดูจะชื่นชอบการแข่งขันมาก เป็นสนามที่มีสีสันสนุกสนานทีเดียว

ปีนั้นผมแข่งในเอเชียเกือบตลอดทั้งปีทั้งรายการ Tour of Siam, Tour of Thailand, ในเกาหลี ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย เกาะ Cho Ming, Tour of Quinghai แล้วก็ Herald Sun Tour เป็นประสบการณ์ที่ดีครับ

DT: ใครคือนักปั่นคนโปรดของคุณ​? ขอคนที่รีไทร์แล้วหนึ่งคน และคนที่ยังแข่งอยู่ใน peloton หนึ่งคนครับ!

Tom: สำหรับผมต้อง Marco Pantani ตั้งแต่ผมเห็นเขาคว้าแชมป์ Tour de France ผมก็เกิดลูกบ้าอยากจะแข่งจักรยานอย่างจริงจัง ช่วงนั้นในอังกฤษการแข่งเสือหมอบยังเป็นกีฬาเล็กๆ อยู่เลย สำหรับนักปั่นปัจจุบันคงเป็น Bart Wellens ครับ (นักปั่น Cyclocross จากทีม Telenet-Fieda)

Dan: สำหรับนักปั่นที่รีไทร์ในใจผมเป็น Frank Vandenbroucke (แชมป์ Liege-Bastonge-Liege, Gent-Wevelgem, Paris-Brussels และสเตจใน Vuelta a Espana) โอเคบางคนาจจะไม่ชอบ Frank เพราะเขาเคยโด้ป แต่ผมคิดว่านักปั่นในยุคนั้นก็โด้ปกันเกือบหมด ถึง Frank จะโด้ปแต่เขาก็เป็นนักปั่นตัวอย่างสำหรับผม ตอนนั้นผมอยากเป็นนักปั่นแบบ Frank ให้ได้ ทั้งท่าทางการปั่นและอากัปกิริยาของเขามันสง่างามน่าดูมากๆ ครับ

ส่วนนักปั่นที่ยังแข่งอยู่เป็น Nairo Quintana ครับ! ในยุคสมัยที่เราแข่งกันด้วย powermeter และวิทยาศาสตร์​ Quintana เป็นเสมือนโจ๊กเกอร์ที่ทีมคู่แข่งอ่านไม่ขาด การโจมตีระเบิดพลังขึ้นเขาของน้องแกนี่ทำเอาทีมง่อยกันไปได้ทั้งทีม ผมอยากรู้จริงๆ ว่าเขาจะพัฒนาไปได้อีกขนาดไหน นานๆ ทีมีนักไต่เขาแบบเพียวๆ คว้าแชมป์ Tour de France คงสนุกน่าดูครับ!

DT: ทำไมนักปั่นจักรยานถึงติดกาแฟ โดยเฉพาะเอสเพรสโซ!? มันมีความเชื่อมโยงมั้ย หรือคุณคิดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญ!?

Dan: ฮ่าๆ ความเชื่อมโยงมันมีอยู่จริงแต่ผมก็ตอบไม่ได้เหมือนกันว่าทำไม! มีนักปั่นน้อยคนที่ผมรู้จักที่จะไม่ติดกาแฟ Magnus Backstedt (แชมป์ Paris-Roubaix) ถึงกับสร้างแบรนด์กาแฟของตัวเอง! ตอนที่ผมยังเป็นมืออาชีพ ทั้งเพื่อนร่วมทีมทั้งทีมคู่แข่งแทบจะรอให้โค้ชสั่งให้พักกันไม่ไหว จะได้แวะจิบเอสเพรสโซสักแก้วนึง มันอาจจะมีอะไรที่เชื่อมกันอยู่ก็ได้นะ หรืออาจจะเป็นเรื่องบังเอิญก็ตอบไม่ได้จริงๆ :D

Part 2 ติดตามกันได้วันพรุ่งนี้ครับ :)