เก็บตก Eurobike วันนี้ยังคงเป็นเรื่องของล้อคาร์บอนครับ เมื่อวานดูแบรนด์ดังอย่าง Zipp และ Campag ไปแล้ว มาดูแบรนด์นอกกระแสกันบ้าง
1. AX Lightness
AX Lightness เริ่มจับตลาดล้อคาร์บอนมาพักใหญ่ๆ แล้ว ใช้ความรู้จากการพัฒนาคอมโพเนนท์คาร์บอนไฮเอนด์สุดเบา มาผลิตล้อน้ำหนักน้อยๆ คุยๆ กับทางทีมงานของ AX เขาบอกว่าล้อเป็นชิ้นส่วนคาร์บอนที่ทำได้ยากที่สุด เลยไม่อยากรีบลงตลาด อยากทำให้สมบูรณ์แบบเสียก่อน ขอบล้อคาร์บอนที่ดีนั้นต้องทำหน้าที่หลายอย่างได้ดีไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเบรค ความสติฟ น้ำหนัก ดุม การขึ้นซี่ลวด ไหนจะเรื่องความทนทาน ล้อเป็นชิ้นส่วนที่รับแรงกระทำหลายจุดต่างกับชิ้นส่วนอื่นๆ ทั้งแรงหมุน แรงบิด แรงกระแทก
นโยบายการขายของ AX Lightness จะเน้นไปที่การขายตรงให้ดีลเลอร์ เขาพยายามจะไม่ผ่านดิสทริบิวเตอร์เพื่อลดพ่อค้าคนกลาง ราคาสินค้าที่ลูกค้าควักกระเป๋าจ่ายจะได้ไม่แพงจนเกินไป เพราะต้นทุนการผลิตของ AX ค่อนข้างสูงกว่าแบรนด์อื่นตรงที่เขาทำทุกอย่างในเยอรมัน
2. Corima
โคริมาเป็นบูทที่ผมไปถึงแล้วงงเล็กน้อย เพราะล้อที่เขาโชว์ไม่มีโลโก้หรือชื่อรุ่นเลยสักคู่เดียว แต่ถ้าใครรู้ประวัติของโคริมาก็จะไม่งงครับ เพราะเจ้านี้ทำธุรกิจสองส่วน ส่วนแรกคือผลิตล้อขายเองเหมือน Zipp, Fulcrum etc. แต่อีกส่วนคือเป็นโรงงาน OEM ผลิตล้อให้แบรนด์ดังทั่วโลก (แต่ก่อนเคยผลิตขอบล้อ Bora ให้ Campagnolo) เพราะงั้นแล้วล้อที่เขาเอามาโชว์จะให้ดูเฉพาะโปรไฟล์ล้อและดีไซน์เฉยๆ เข้าใจว่าอยากได้ทั้งตัวแทนจำหน่ายและหาลูกค้าที่อยากจะผลิตล้อกับเขา
ส่วนตัวแล้วผมชอบล้อโคริมามาก ไม่ใช่เรื่องประสิทธิภาพหรืออะไร แต่คิดว่ามันเป็นล้อที่ -สวย- มาก เนื้อคาร์บอน การเรียงตัว หรือแม้แต่ดุมและซี่ที่เขาออกแบบเองทั้งหมด ดูลงตัวไร้กาลเวลาดีครับ (ใช้จริงเป็นยังไงไม่รู้นะ)
ล้อโคริมาทุกรุ่นผลิตในโรงงานที่ฝรั่งเศส เป็นบริษัทเก่าแก่ก่อตั้งมา 41 ปี พื้นหลังของบริษัทนี้ไม่ใช่การทำล้อจักรยาน แต่เขาเริ่มจากอุตสาหกรรมเครื่องบิน และเชี่ยวชาญเรื่อง mechainical moulding ขึ้นต้นแบบเครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์และยานยนต์ล้ำสมัย โคริมาเพิ่งจะมาจับตลาดจักรยานไม่กี่สิบปีที่ผ่านมานี้เอง ตอนนนี้เป็นสปอนเซอร์ให้ทีม Astana
3. Vision
เท่าที่ดูบูท Vision (อยู่กับ FSA แบรนด์เดียวกัน) ไม่ได้มีล้อใหม่ๆ มาโชว์ เลยไม่ได้ถ่ายมาเยอะมากครับ ก็จะมีแค่ตัว Metron 55 ที่น่าสนใจหน่อย (รูปข้างล่าง) ตัวนี้ปีเตอร์ ซากานใช้
4. Roues Artisanales
ผมไม่แน่ใจว่าจะมีใครรู้จักยี่ห้อนี้มั้ย แต่ถ้าเคยดูกราฟข้างล่างนี้ คุณอาจจะพอจำความได้ครับ
กราฟนี้คือกราฟทดสอบความแอโรของล้อ ยุคแรกๆ เลยก่อนที่การใช้อุโมงค์ลมทดสอบจะเป็นที่รู้จักและแพร่หลายในวงกว้าง เจ้าของเว็บไซต์และผู้ทดสอบก็คือเอเดรียน กอเทียร์ ชาวฝรั่งเศสผู้หลงไหลคลั่งไคล้เทคโนโลยีจักรยาน จนในที่สุดเขาก็ใช้ความรู้เรื่องอากาศพลศาสตร์และเทคโนโลยีต่างๆ มาผลิตล้อแฮนด์บิลด์ในชื่อ RAR Wheels
ล้อ RAR จะใช้ขอบล้อจากสองแบรนด์ ขอบสูงจะใช้ Reynolds (เจ้านี้ก็ทำ OEM ให้หลายๆ แบรนด์) และล้อขอบต่ำจะใช้ขอบแฮนด์เมดในเยอรมัน หน้าตาใกล้เคียงกับ AX Lightness และ Tune เป็นล้อที่ใช้เนื้อแบบผ้าคาร์บอนทอ (weave) เหมือนกัน น้ำหนักเบา ราคาไม่แพง เพราะไม่ต้องเสียค่าโฆษณาและพนักงานมากมายเหมือบริษัทใหญ่ แน่นอนว่าคงหาซื้อในบ้านเราไม่ได้ แต่ก็เป็นแบรนด์ที่กำเนิดจากคนรักจักรยานจริงๆ เอเดรียนนี่เป็นระดับตัวพ่อของวงการทดสอบล้อแล้วหละครับ เว็บเขาอยู่ที่นี่ http://www.roues-rar.fr/
5. Mavic
ท้ายสุด Mavic แบรนด์ใหญ่จากฝรั่งเศส ปีนี้ไม่มีสินค้าใหม่มาเปิดตัว ภาพก็เลยไม่เยอะครับ ดูเขาจะเน้นรองเท้า และเครื่องแต่งกายเสียมากกว่า แต่มีรูปมาฝากสองรูปที่แสดงถึงปรัชญาการออกแบบล้อของเจ้านี้ได้ดีที่สุด
มันคือล้อ Mavic Cosmic CXR 60 ซึ่งเป็นล้อที่ขายพร้อมยาง (และแนะนำให้ใช้แต่ยางของ Mavic) เพราะเขาออกแบบมาคู่กัน สังเกตได้ว่ารูปยางนั้นกลืนกับล้อไปเลย ไม่มีช่องว่างให้เกิดอากาศเสีย ซึ่ง Mavic เชื่อว่าการดีไซน์ล้อแบบ integrated องค์รวมแบบนี้จะได้ความแอโรสูงสุด แบรนด์ฝรั่งเศสดูจะนิยมแนวคิดการ integrated มองภาพกว้างของอะไหล่ต่างๆ กันพอสมควรครับ
ลองนึกถึง Look ที่จักรยานแทบจะเป็นชิ้นเดียวกันทั้งคัน เป็นการคิดนอกกรอบที่ล้ำสมัยดี แต่ผมคิดว่าตลาดจักรยานที่คอมโพเนนท์ต่างๆ ยังแยกผลิตกันอยู่นั้น คนที่เดือดร้อนก็คือลูกค้า เพราะชิ้นส่วน integrated บางอย่างก็หาอะไหล่เปลี่ยนยากเหลือเกิน แต่ในอนาคต แทบทุกแบรนด์ยากจะออกแบบชิ้นส่วนทุกอย่างเอง และขายทั้งคันเลยเหมือนอุตสาหกรรมรถยนต์ เพราะเป็นทางเดียวที่จะควบคุมคุณภาพและประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องแคร์ว่าชิ้นส่วนของผู้ผลิตอื่นจะมีผลต่องานของเรายังไง
เหมือน Apple ที่รวมฮาร์ดแวร์กับซอฟต์แวร์เข้าด้วยกันนั่นเองครับ