สัปดาห์นี้ Factor เปิดตัวจักรยานเสือหมอบเรือธงรุ่นล่าสุด Factor O2 VAM กับเป้าหมายการทำเสือหมอบ all around น้ำหนักเบาที่ใช้ระบบดิสก์เบรก และทำน้ำหนักต่ำกว่ากฏ UCI 6.8 กิโลกรัม โดยไม่จำเป็นต้องใช้อะไหล่ที่เบาเป็นพิเศษ รายละเอียดจะเป็นยังไงบ้างลองมาดูกัน
Factor O2 VAM
Factor O2 เป็นจักรยานคันแรกของแบรนด์ Factor ที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2015 Ducking tiger เคยรีวิวไว้แล้วซึ่งก็เป็นหนึ่งในรถแข่งที่เราชอบมากๆ คันหนึ่งครับ (อ่านรีวิวได้ที่นี่) จุดเด่นของ O2 คือเป็นเฟรมน้ำหนักเบา ตอบสนองแรงดี และไม่ใช้ชิ้นส่วนเฉพาะของแบรนด์เอง (integrated parts) ไม่วุ่นวายในการประกอบหรือหาชิ้นส่วนมาเปลี่ยน
ปีนี้ Factor ต้องการพัฒนาเฟรม O2 ไปอีกขั้นด้วยการปรับโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์ในเฟรม O2 ให้ใช้วัสดุคุณภาพสูงขึ้น ร็อบ จิเทลิส เจ้าของแบรนด์ Factor บอกกับเราในงานเปิดตัวที่ประเทศไทยว่า “โจทย์ของการออกแบบ Factor O2 VAM คือ ถ้าจะผลิตจักรยานที่ดีที่สุดที่แบรนด์เราทำได้ โดยไม่สนใจต้นทุนการผลิต มันจะออกมาเป็นยังไง?”
ผลที่ได้ก็คือเฟรม Factor O2 VAM นั่นเอง
คำว่า VAM นี่ฟังแล้วอาจจะดูงง แต่จริงๆ มีที่มาที่ไป และเป็นตัวย่อที่มีความวงในมากครับ VAM ย่อมาจาก “velocità ascensionale media” เป็นภาษาอิตาลี แปลเป็นไทยได้ว่า “ความเร็วเฉลี่ยในการปั่นขึ้นเขา / average climbing speed) ซึ่งเป็นค่าวัดผลที่คิดค้นโดยมิเคลลี เฟอร์รารี อดีตโค้ชจักรยานของแลนซ์ อาร์มสตรอง นักปั่นที่มีค่า VAM สูงก็หมายความว่าสามารถขึ้นเขาได้อย่างรวดเร็ว และเป็นการสะท้อนคาแรคเตอร์ของเฟรม O2 VAM ที่มีจุดเด่นเรื่องน้ำหนักเบาโดยเฉพาะ
ถามว่าเบาแค่ไหน? เฟรม O2 VAM ริมเบรกในไซส์ 54cm หนัก 670 กรัม และรุ่นดิสก์เบรกหนัก 690 กรัมเท่านั้น เมื่อรวมกับตะเกียบที่หนัก 260 กรัมแล้วก็ได้เฟรมเซ็ตที่หนักไม่ถึง 1 กิโลกรัม (O2 รุ่นแรกหนักประมาณ 850 กรัมในไซส์เดียวกัน)
ทำยังไงถึงได้น้ำหนักเบาขนาดนี้?
ผิดกับเฟรมเสือหมอบน้ำหนักเบาที่ต่ำกว่า 700 กรัมรุ่นอื่นๆ ในตลาด Factor เคลมว่าถึงเฟรม O2 VAM จะน้ำหนักเบามากแต่ก็ยังคงค่าความสติฟฟ์และความแข็งแรงของเฟรมไว้ได้ทั้งหมด (เฟรมที่เบามากๆ มักจะไม่สติฟฟ์เท่าไร) ขณะเดียวกันก็เพิ่มความสามารถในการซับแรงสะเทือน และรองรับการใช้ยางหน้ากว้างได้ถึง 30 มิลลิเมตร
Factor กล่าวว่า จริงๆ แล้วไม่ได้ออกแบบให้เฟรมน้ำหนักเบา แต่เพราะโจทย์คือการออกแบบเฟรม all around ที่ประสิทธิภาพดีที่สุด ทำให้บริษัทเลือกใช้คาร์บอนไฟเบอร์ชนิดพิเศษอย่าง TexTreme และพิทช์ไฟเบอร์
(Note: พิทช์คือของเหลวเข้มข้นที่ได้จากกระบวนการกลั่นน้ำมัน คาร์บอนไฟเบอร์ที่ทำจากพิทช์จะมีจุดเด่นเรื่องความแข็งแรงดัด (flexural strength) โดยรวมแล้วจะได้เส้นใยที่มีความสติฟสูงกว่าคาร์บอนที่ทำจาก PAN Fiber หรือคาร์บอนไฟเบอร์ที่ใช้ในตลาดทั่วๆ ไป แต่จะใช้เวลาในการผลิตยากยาวนานกว่า PAN Fiber และมีราคาสูงกว่าประมาณ 12 เท่า)
ด้วยที่คาร์บอนไฟเบอร์ทั้งสองแบบมีความสติฟฟ์สูงกว่าปกติ อย่าง TexTreme ที่เป็นคาร์บอนแบบลายสานก็ใช้ขึ้นรูปทรงซับซ้อนได้ง่ายกว่าคาร์บอนทั่วๆ ไป ก็ทำให้ใช้วัสดุทั้งเฟรมน้อยลง น้ำหนักจึงเบาลงไปด้วย (เสือหมอบอีกรุ่นที่ใช้พิทช์ไฟเบอร์คือ Cervelo RCA ที่ราคาเฟรมสูงมาก)
นอกจากตัวเฟรมที่สติฟฟ์และเบาแล้ว Factor ยังเคลมว่าเฟรม O2 VAM ซับแรงสะเทือนดีกว่า O2 รุ่นแรก จากการใช้วัสดุโบรอนเสริมบริเวณท่อนั่ง (seat tube) และจุดยึดหลักอาน ซึ่งช่วยให้บริเวณท่อนั่งให้ตัวในแนวหน้า-หลังได้มากกว่าปกติ
ท้ายสุด เฟรม O2 VAM ทั้ง 6 ไซส์ใช้การวางเรียนชั้นคาร์บอนเฉพาะของแต่ละไซส์เอง เช่นเดียวกับเฟรมจักรยานไฮเอนด์ในแบรนด์อื่นๆ ซึ่งทำให้ได้รถที่ไม่สติฟฟ์เกินไปในไซส์เล็ก หรือย้วยเกินไปในไซส์ใหญ่
เฟรม O2 VAM รองรับชุดขับเคลื่อนทั้งแบบไฟฟ้าและเมคานิคัล มีให้เลือกทั้งดิสก์เบรกและริมเบรก สำหรับเวอร์ชันริมเบรกจะใช้เบรกแบบ Direct Mount ซึ่งช่วยให้รองรับยางหน้ากว้างถึง 30 มิลลิเมตร สำหรับคนที่อยากใช้จักรยานในเส้นทางวิบาก
เฟรม O2 VAM มากับหลักอานคาร์บอนและชุดแฮนด์ Black Inc Barstem (แบบอินทิเกรต) และมีแหวนรองคอ ฝาปิดถ้วยคอที่ออกแบบมาให้ดูเรียบเข้ากับชุดแฮนด์ เหมือนเฟรมแอโรสมัยใหม่
นอกจากนี้เฟรมยังให้ชุดลูกปืน headset และกะโหลกจาก CeramicSpeed ด้วย
สำหรับคนที่อยากแต่งน้ำหนักเบาก็ไม่ต้องห่วงเรื่องเปลี่ยนอะไหล่อื่นๆ ไม่ได้ เพราะเฟรม O2 VAM ไม่ใช่เฟรมอินทิเกรต ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนทั้งหลักอานและชุดแฮนด์ไปใช้อะไหล่จากยี่ห้อไหนก็ได้ หลักอานใช้ขนาด 27.2mm
ราคาและวันวางจำหน่าย
ราคาเฟรมเซ็ต ซึ่งมากับ
- เฟรม (น้ำหนัก 660 กรัม ที่ไซส์ 52cm)
- ตะเกียบ (น้ำหนัก 260 กรัม)
- แฮนด์ Black Inc Integrated (เลือกขนาดได้)
- หลักอาน Black Inc carbon (เลือกองศาได้)
- ถ้วยคอ CeramicSpeed
- กระโหลก CeramicSpeed
- อะแดปเตอร์กระโหลกแปลงจาก 30mm > 24mm จาก WheelsMFG
- ผ้าพันแฮนด์ Black Inc
- ดรอปเอ้าท์สำรอง
- ประกันอุบัติเหตุ iBike 1 ปี
อยู่ที่ 199,000 บาท
เฟรมมีให้เลือกสีเดียวคือ สี naked carbon ลงเคลียร์โค้ทคาดลายแดงบางจุด
รายละเอียดเพิ่มเติม Champion Cycle, Factorbikes.com